{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
แบรนด์โชกุบุสซึ โมโนกาตาริ (Shokubutsu Monogatari) โดยบริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำด้านสินค้าอุปโภคบริโภคของคนไทยกว่า 56 ปี เดินหน้าขับเคลื่อนแบรนด์ด้วยพลังแห่งนวัตกรรม และเข้าใจอินไซต์ผู้บริโภคอย่างลึกซึ้ง ตอบรับกระแส Health Conscious ที่ชัดเจนในทุกกลุ่มวัย
นางสาววรรัช เอกอวัสดาพร ผู้จัดการส่วนผลิตภัณฑ์ดูแลความงาม บริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคเพื่อคนไทย มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจคู่คุณธรรม พัฒนาสินค้านวัตกรรมเพื่อสุขภาวะที่ดีของผู้บริโภค สังคม และสิ่งแวดล้อม มาตลอดระยะเวลา 56 ปี เปิดเผยว่า “โชกุบุสซึ” ยังคงรักษาการเติบโตในตลาดผลิตภัณฑ์ครีมอาบน้ำและดูแลสุขอนามัยแม้ในภาวะการแข่งขันสูง ด้วยจุดแข็งของแบรนด์ ภายใต้แนวคิด “พลังจากธรรมชาติ เพื่อสุขภาพที่ดีของผิวและชีวิต” โดยในครึ่งปีหลังนี้ แบรนด์จะเดินหน้าขยายตลาดสู่กลุ่ม Health Segment อย่างชัดเจน เพื่อยกระดับแบรนด์ให้เป็นมากกว่าผลิตภัณฑ์ความงาม เป็นผู้ช่วยดูแลสุขภาพองค์รวมในชีวิตประจำวันของผู้บริโภค
“โชกุบุสซึ” วางกลยุทธ์สร้างการเติบโตผ่านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภค รุ่นใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการออกผลิตภัณฑ์เฉพาะช่วงฤดูกาล เช่น ครีมอาบน้ำและแป้งเย็นที่เหมาะกับหน้าร้อนของไทย หรือการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ Pride Limited Edition ที่สะท้อนการให้คุณค่ากับความหลากหลายทางเพศ (LGBTQIA+) นอกจากนี้ แบรนด์ยังได้สร้างความตื่นเต้นในกลุ่มผลิตภัณฑ์ วิปโฟมอาบน้ำ นวัตกรรมฟองโฟมนุ่มจากประเทศญี่ปุ่น ทำให้รู้สึกสบายผิวขณะอาบน้ำ ไม่ทำให้ผิวแห้งตึง โดยทำการ Collaboration ร่วมกับ ตัวการ์ตูน My Melody เพื่อต่อยอดการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในวงกว้าง โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นและคนรุ่นใหม่ที่ให้ความสำคัญกับภาพลักษณ์แบรนด์และจุดยืนทางสังคม
อีกหนึ่งความสำเร็จ คือ การ Re-Launch ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดจุดซ่อนเร้น (Feminine Cleanser) ที่ไม่เพียงยกระดับภาพลักษณ์สินค้าให้ดูทันสมัย แต่ยังช่วยผลักดันยอดขายให้เติบโตขึ้นกว่า 800% ถือเป็นการ relaunch ที่ประสบความสำเร็จอย่างมากจนบริษัท LION นำไปเป็น case study ให้กับแบรนด์อื่นๆ
“โชกุบุสซึ” ยังคงยืนหยัดใน Brand Purpose ที่เน้นการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยลดการใช้ปริมาณขวดพลาสติกมากกว่า 40 ตันต่อปี และเลือกใช้วัตถุดิบในประเทศ เช่น สารสกัดจากมะไฟจีนที่ได้จากกลุ่มเกษตรกรในจังหวัดน่าน ซึ่งไม่เพียงสร้างคุณค่าทางสิ่งแวดล้อม แต่ยังช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของชุมชนตามหลัก Circular Economy อีกด้วย
COMMENTS
{{ errors.name }}
{{ errors.value }}
{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
RELATED TOPICS