ลูเมนตั้ม ขยายฐานผลิตและออกแบบชิปในไทยหนุนไทยเดินหน้าสู่ “ชิปเมดอินไทยแลนด์”

ลูเมนตั้ม (Lumentum) ยักษ์ใหญ่เซมิคอนดักเตอร์จากสหรัฐอเมริกา ประกาศแผนลงทุนขยายฐานผลิตชิปประเภทโฟโตนิกส์ พร้อมจัดตั้งศูนย์วิจัยและออกแบบชิปแห่งใหม่ ยกระดับฐานธุรกิจในประเทศไทย ด้วยเทคโนโลยีชิปที่มีความสามารถในการประมวลผลขั้นสูงและประหยัดพลังงาน เร่งสปีดรองรับความต้องการชิปในอุตสาหกรรมไฮเทคต่าง ๆ หนุนการเติบโตของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ในไทย

นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยภายหลังการหารือกับ Mr. Michael Hurlston ประธานบริษัท ลูเมนตั้ม (Lumentum) หนึ่งในผู้นำอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2568 ว่าบริษัท ลูเมนตั้ม ได้นำเสนอแผนขยายกำลังการผลิตและการจัดตั้งศูนย์วิจัยและออกแบบชิปแห่งใหม่ในกลุ่มชิปประเภทโฟโตนิกส์ ซึ่งเป็นชิประดับสูงที่ใช้ในการส่งสัญญาณด้วยแสงและเป็นส่วนประกอบสำคัญของหน่วยประมวลผลประสิทธิภาพสูง เพื่อรองรับการเติบโตของตลาดโลกที่ต้องการนวัตกรรมการผลิตชิปที่มีความสามารถในการประมวลผลขั้นสูงสำหรับอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยี AI ไฟเบอร์ออปติก และดาต้าเซ็นเตอร์ ซึ่งปัจจุบันตลาดชิปโฟโตนิกส์มีมูลค่ากว่า 13,000 ล้านเหรียญสหรัฐ และคาดว่าจะเติบโตเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าภายใน 5 ปี เนื่องจากโฟโตนิกส์เป็นเทคโนโลยีใหม่ที่จะเป็นพื้นฐานของอุตสาหกรรมแห่งอนาคต

ลูเมนตั้ม เป็นผู้นำอุตสาหกรรมชิปประเภทโฟโตนิกส์ระดับโลก ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอเพื่อจัดตั้งฐานการประกอบและทดสอบชิปที่ใช้ในอุตสาหกรรมการสื่อสารและโทรคมนาคมในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2560 ภายใต้ชื่อบริษัท ลูเมนตั้ม อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด ตั้งอยู่ที่เขตอุตสาหกรรมนวนคร จังหวัดปทุมธานี มูลค่าลงทุนรวมกว่า 20,000 ล้านบาท ปัจจุบันจ้างงานบุคลากรไทยกว่า 6,000 คน ในจำนวนนี้มีวิศวกรและนักวิทยาศาสตร์กว่า 700 คน ซึ่งได้รับการฝึกอบรมอย่างดีเพื่อเข้าสู่อุตสาหกรรมชิปโฟโตนิกส์ บริษัทมีการส่งออกผลิตภัณฑ์จากประเทศไทยมูลค่ากว่า 14,000 ล้านบาทในปี 2567 และคาดว่าจะเติบโตอย่างก้าวกระโดดกว่า 2 เท่าในปีนี้ โดยโครงการล่าสุดที่ได้รับอนุมัติจากบีโอไอ เป็นการขยายโรงงานผลิตชิปแหล่งกำเนิดแสงที่มีพลังงานสูง (Ultra-High-Power Chip-on-Carrier) เงินลงทุนกว่า 2,300 ล้านบาท ชิปดังกล่าวจะถูกใช้ในอุปกรณ์ที่มีความแม่นยำสูงหรือต้องการกำลังการประมวลผลสูง เช่น หน่วยประมวลผลสำหรับ AI (GPU) อุปกรณ์ตรวจจับด้วยเลเซอร์ที่ใช้ในเครื่องมือแพทย์ และยานยนต์อัจฉริยะ เป็นต้น นอกจากนี้ ที่ผ่านมาลูเมนตั้มยังมีส่วนสำคัญในการสร้างระบบนิเวศทางธุรกิจในอุตสาหกรรมชิปโฟโตนิกส์ในประเทศไทย โดยการดึงซัพพลายเออร์ระดับโลกให้ตามเข้ามาลงทุนตั้งฐานการผลิตในไทยอีกกว่า 20 ราย

ทั้งนี้ การจัดตั้งศูนย์วิจัยและออกแบบชิปโฟโตนิกส์ของลูเมนตั้ม จะมีการลงทุนทั้งในสายการผลิตผลิตภัณฑ์ต้นแบบ (Prototype) ห้องปฏิบัติการทดสอบความเสถียรผลิตภัณฑ์ (Reliability Test) และซอฟต์แวร์ขั้นสูง โดยจะสร้างงานให้กับวิศวกรและบุคลากรทักษะสูงของไทย รวมทั้งจะร่วมมือกับมหาวิทยาลัยและสถาบันวิจัยของไทย เพื่อจัดทำหลักสูตรเทคโนโลยีชิปโฟโตนิกส์โดยเฉพาะ เพื่อสร้างบุคลากรรุ่นใหม่ให้รองรับอุตสาหกรรมชิปแห่งอนาคต


COMMENTS

{{ errors.name }}

{{ errors.value }}

{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}

RELATED TOPICS

Please wait a moment