ทุกภาคส่วนผนึกกำลัง บูรณาการแก้ปัญหาบุหรี่ผิดกฎหมาย หวังลดผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคม

คณะอนุกรรมการกำกับดูแลบริหารการป้องกันและปราบปรามบุหรี่ผิดกฎหมาย จัดเวทีเสวนา “ปัญหาบุหรี่ผิดกฎหมายในประเทศไทย” โดยมี นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี เป็นประธานกล่าวเปิดงาน พร้อมด้วยผู้แทนจากคณะอนุกรรมการกำกับดูแลบริหารการป้องกันและปราบปรามบุหรี่ผิดกฎหมาย การยาสูบแห่งประเทศไทย กรมสรรพสามิต ภาคีเครือข่ายชาวไร่ยาสูบแห่งประเทศไทย สมาคมการค้าผู้ขายส่งยาสูบ สมาคมการค้ายาสูบไทย และสื่อมวลชนเข้าร่วมเวทีเสวนา ดำเนินรายการโดยนายวราวิทย์ ฉิมมณี ผู้ประกาศข่าวจากเนชั่นทีวี ช่อง 22 ณ ห้อง MR 209BD ชั้น 2 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

นายจิรายุ กล่าวว่า ปัญหาบุหรี่ผิดกฎหมายไม่เพียงบั่นทอนเศรษฐกิจ ทำให้รัฐสูญเสียรายได้ภาษีมหาศาล แต่ยังทำร้ายเกษตรกร ร้านค้า และสุขภาพประชาชน เสวนาในวันนี้ มีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะเป็นการรวมผู้เชี่ยวชาญจากทั้งด้านการปราบปราม ด้านเศรษฐกิจ ด้านสังคม และผู้ที่อยู่ในห่วงโซ่อุตสาหกรรมยาสูบ ตลอดจนผู้แทนจากสื่อมวลชน มาร่วมกันวิเคราะห์ผลกระทบที่เกิดขึ้น และเสนอแนวทางแก้ไขให้ได้ผลจริง ไม่ใช่เพียงแค่แผนที่อยู่บนกระดาษ แต่เป็นมาตรการที่ใช้ได้ในพื้นที่จริง และยั่งยืนในระยะยาว ซึ่งรัฐบาลพร้อมสนับสนุนการทำงานบูรณาการเพื่อแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนนี้

พล.ต.ท.ศิร์ธัชเขต ครูวัฒนเศรษฐ์ ประธานคณะอนุกรรมการกำกับดูแลบริหารการป้องกันและปราบปรามบุหรี่ผิดกฎหมาย กล่าวในเวทีว่า ปัญหาบุหรี่ผิดกฎหมาย ไม่ใช่เรื่องของการจับกุมเพียงอย่างเดียว แต่ต้องมีข้อมูลเชิงลึก การบังคับใช้กฎหมายที่เข้มแข็ง และความร่วมมือจากทุกภาคส่วนอย่างจริงจัง เพื่อสร้างมาตรการป้องกันและปราบปรามที่ยั่งยืน

ด้าน นายภูมิจิตต์ พงษ์พันธุ์งาม ผู้ว่าการการยาสูบแห่งประเทศไทย กล่าวว่า บุหรี่เถื่อนทำลายห่วงโซ่อุตสาหกรรมยาสูบ ตั้งแต่ชาวไร่กว่า 22,000 ครอบครัว ร้านค้าปลีก 400,000 ราย ไปจนถึงการยาสูบแห่งประเทศไทย และส่งผลกระทบต่อประเทศไทยใน 4 มิติ ได้แก่ เศรษฐกิจ ผู้ที่อยู่ในห่วงโซ่อุตสาหกรรมยาสูบ ผู้บริโภค และอาชญากรข้ามชาติ การแก้ไขปัญหานี้จึงต้องทำอย่างเป็นระบบ เพื่อปกป้องรายได้ของรัฐ สุขภาพของประชาชน และความมั่นคงของทุกภาคส่วน

นายปรียวิศว์ พริ้งศุลกะ หัวหน้าฝ่ายพัฒนาและกำกับดูแลการจัดเก็บภาษี กรมสรรพสามิต ระบุว่า รัฐสูญเสียรายได้ภาษีกว่า 23,000 ล้านบาทต่อปี ซึ่งเป็นงบประมาณที่สามารถนำไปพัฒนาสาธารณสุข การศึกษา และโครงสร้างพื้นฐานได้ การแก้ปัญหานี้ต้องทำควบคู่ไปกับนโยบายการคลังและภาษีที่สมดุลในทุก ๆ มิติ

ขณะที่นายกิตติทัศน์ ผาทอง ผู้แทนภาคีเครือข่ายชาวไร่ยาสูบ กล่าวสะท้อนว่า เกษตรกรจำนวนมากกำลังสูญเสียอนาคต เพราะตลาดยาสูบถูกกฎหมาย ถูกบุหรี่เถื่อนแย่งไป หวังว่ามาตรการเชิงนโยบายที่ชัดเจนจะช่วยรักษาอาชีพและความมั่นคงของพวกเราได้

ด้าน นายธานินทร์ หิรัญโชติ นายกสมาคมการค้าผู้ขายส่งยาสูบ และนางสาวธัญญศรัณ แสงทอง ผู้อำนวยการบริหารสมาคมการค้ายาสูบไทย กล่าวว่า ปัจจุบันร้านค้าขนาดเล็กไม่สามารถแข่งขันกับบุหรี่เถื่อนได้อีกต่อไป จากเดิมเรามีร้านค้ากว่า 5 แสนราย ปัจจุบันนี้เหลือเพียง 4 แสนราย หากไม่มีมาตรการที่เข้มงวด ร้านค้าเหล่านี้อาจจะทยอยปิดตัวลง และประชาชนก็จะได้รับผลกระทบโดยตรง

นายกมล ชวาลวิทย์ บรรณาธิการข่าวข้อมูล สำนักข่าวออนไลน์ไทยพับลิก้า กล่าวว่า บทบาทของสื่อมวลชนคือ ทำให้สังคมเข้าใจว่าบุหรี่เถื่อนไม่ใช่สินค้าราคาถูกที่ไม่มีพิษภัย แต่คือภัยเงียบที่กำลังบ่อนทำลายประเทศชาติ การสื่อสารต่อเนื่องสามารถสร้างความตระหนักและแรงกดดันเชิงบวกให้เกิดมาตรการแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรม

เวทีเสวนาครั้งนี้สะท้อนตรงกันว่า ปัญหาบุหรี่ผิดกฎหมายต้องการ “พลังความร่วมมือ” และการบูรณาการจากทุกภาคส่วน เพื่อสร้างแนวทางแก้ไขที่ยั่งยืน ลดผลกระทบต่อประเทศให้ได้มากที่สุด และปกป้องผู้ที่เกี่ยวข้องในทุกระดับ


COMMENTS

{{ errors.name }}

{{ errors.value }}

{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}

RELATED TOPICS

Please wait a moment