{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี ประกาศแผนกลยุทธ์ ปี 2568 ภายใต้แนวคิด "The MEANINGFUL Change" ตอกย้ำปรัชญาในการสร้างการเปลี่ยนแปลงที่มีความหมาย ผ่านโปรแกรมช่วยเหลือลูกค้าสินเชื่อ ทั้งลูกค้าบุคคลและลูกค้าธุรกิจให้สามารถปลดหนี้และฟื้นตัวได้ พร้อมเติบโตได้อย่างมั่นคง อีกทั้งเดินหน้ายกระดับดิจิทัลโซลูชันเพื่อให้บริการทางการเงินที่เข้าถึงง่าย สะดวก คุ้มค่าและเป็นมากกว่าการทำธุรกรรม
นายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทีเอ็มบีธนชาต เปิดเผยว่า ธนาคารตระหนักถึงปัญหาหนี้สินของคนไทยมาโดยตลอด และมุ่งมั่นให้ความสำคัญกับการช่วยแก้ปัญหาหนี้อย่างจริงจัง ผ่านมาตรการที่เป็นรูปธรรมและต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2563 ที่เศรษฐกิจไทยได้รับผลกระทบอย่างหนักจากโควิด-19 และยังคงเดินหน้าพัฒนาโซลูชันทางการเงินที่ช่วยให้ลูกค้าจัดการภาระหนี้ได้อย่างเป็นระบบและยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง ผ่านบริการรวบหนี้ที่ช่วยลดภาระดอกเบี้ยให้ลูกค้าไปแล้วกว่า 2,240 ล้านบาท สินเชื่อสวัสดิการอเนกประสงค์ที่ให้พนักงานเงินเดือนองค์กรเข้าถึงสินเชื่อในอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่า โดยปล่อยสินเชื่อช่วยเหลือแล้วกว่า 8,800 ล้านบาท อีกทั้งยังมีโปรแกรม Financial Literacy ที่ประกอบด้วยแพลตฟอร์มตรวจสุขภาพการเงินออนไลน์ที่มีลูกค้าเข้าร่วมวัดระดับหนี้กว่า 96,000 ครั้ง คอร์สให้ความรู้ทางการเงินออนไลน์และบริการให้คำปรึกษาโค้ชปลดหนี้ โดยทั้งหมดนี้ให้บริการฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย จนกระทั่งล่าสุดกับโครงการ "คุณสู้ เราช่วย" ที่ช่วยปรับโครงสร้างหนี้ให้ลูกค้าสามารถตั้งหลักใหม่ได้
เพื่อเดินหน้าช่วยลูกค้าทุกกลุ่มปลดหนี้และสร้างเสถียรภาพทางการเงิน ทีทีบีเชื่อว่าการช่วยลูกค้าต้องเริ่มจากความเข้าใจพฤติกรรมทางการเงินของแต่ละกลุ่ม โดยพบว่าลูกค้าสินเชื่อสามารถแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มหลัก ซึ่งมีปัญหาและความต้องการที่แตกต่างกัน ทีทีบีจึงออกแบบโปรแกรมช่วยเหลือที่ตอบโจทย์เฉพาะกลุ่ม ได้แก่
กลุ่มแรก คือ ลูกหนี้ต้องการความช่วยเหลือ ซึ่งเริ่มค้างชำระหรือสะสมหนี้จนไม่สามารถชำระได้ตามปกติ ทีทีบี ร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทยช่วยเหลืออย่างเต็มที่ผ่านโครงการ "คุณสู้ เราช่วย" ที่ช่วยปรับโครงสร้างหนี้ ยกเว้นการเก็บดอกเบี้ย พร้อมกับลดค่างวดให้ตลอด 3 ปี เพื่อให้โอกาสลูกค้าที่ต้องการสู้กลับมาฟื้นตัวได้อีกครั้ง ซึ่งปัจจุบันมีลูกค้าทีทีบีกว่า 21% จากลูกค้าเป้าหมายลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ
กลุ่มที่สอง คือ ลูกหนี้ที่ผ่อนชำระดี ซึ่งให้ความสำคัญกับเครดิตของตนเองและพยายามชำระหนี้ตรงเวลาอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งกลุ่มนี้กลับเป็นกลุ่มที่ไม่ค่อยได้รับความช่วยเหลือและถูกลืม ในปีนี้ทีทีบีจึงต้องการเข้าไปช่วยเหลือดูแลกลุ่มนี้เป็นพิเศษ ด้วยการเปิดตัวโปรแกรม "ผ่อนดี...มีรางวัล" ที่มอบสิทธิพิเศษให้กับลูกค้าสินเชื่อกลุ่มคนมีรถ คนมีบ้าน พนักงานเงินเดือน เช่น หากลูกค้ามีประวัติผ่อนดีจะได้รับข้อเสนอรีไฟแนนซ์ที่ดอกเบี้ยต่ำกว่า และยังได้รับรางวัลเป็นส่วนลดดอกเบี้ย หรือสิทธิพิเศษต่าง ๆ และยังรวมถึงลูกค้าเอสเอ็มอี และผู้ประกอบธุรกิจขนาดกลาง
กลุ่มที่สาม คือ ลูกหนี้ที่อยากเข้าระบบ ได้แก่ ลูกค้าเจ้าของกิจการขนาดเล็กที่อาจจะถูกกันออกจากระบบ อันเนื่องมาจากข้อจำกัดต่าง ๆ และต้องการที่จะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของระบบการเงิน โดยทีทีบีพร้อมช่วยเหลือผ่าน โซลูชันทางการเงินสำหรับลูกค้าผู้ประกอบการกลุ่มนี้เพื่อให้เกิด Financial Inclusion
นายปิติ กล่าวเสริมว่า “ปี 2568 เป็นปีที่ทีทีบีจะสร้าง ‘The MEANINGFUL Change’ ให้กับลูกค้าทุกกลุ่ม เราไม่ได้เป็นเพียงธนาคารที่ปล่อยสินเชื่อ แต่ต้องการสร้างเครื่องมือที่ช่วยให้ลูกค้ามีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นอย่างแท้จริง และพร้อมดูแลและช่วยเหลือให้ลูกค้าสามารถเดินหน้าต่อไปได้อย่างมั่นคง”
ในปีนี้ทีทีบียังมุ่งที่จะส่งมอบประสบการณ์ทางการเงินและดิจิทัลโซลูชันที่สะดวกกว่า ประหยัดกว่า คุ้มค่ากว่า และให้สิทธิประโยชน์มากกว่าเพื่อรองรับพฤติกรรมของลูกค้ายุคใหม่ที่เน้นการทำธุรกรรมด้วยตนเองผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งมีจำนวนธุรกรรมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดย 92% ของธุรกรรมวันนี้เกิดขึ้นบนช่องทางแอป ttb touch แล้ว ซึ่งลูกค้าจะได้รับประสบการณ์ที่เรียกว่า “ทำเอง ได้มากกว่า” เช่น
สะดวกกว่า วันนี้ลูกค้าสามารถประเมินวงเงินสินเชื่อได้ภายใน 2 นาที ผ่านฟีเจอร์ My Credit และสมัครสินเชื่อได้ทันทีบนแอป ttb touch นอกจากนี้ ยังสามารถสอบถามข้อมูลต่าง ๆ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ผ่าน “ยินดี” Chatbot AI อัจฉริยะ บนแอป ttb touch ไม่ต้องเสียเวลารอสายกับ Contact Center
ประหยัดกว่า ลูกค้าสามารถขอ E-statement สำหรับยื่นขอวีซ่าผ่านแอป ttb touch ได้ฟรี ไม่มีค่าธรรมเนียม หรือเลือกใช้บัตร ttb all free digital ที่ไม่มีค่าธรรมเนียมรายปี แต่ยังสามารถใช้ช้อปปิ้งออนไลน์และถอนเงินแบบไร้บัตรผ่านตู้ ATM
คุ้มค่ากว่า รับดอกเบี้ยที่สูงขึ้นกับบัญชีดิจิทัล ttb ME Save หรือ บัญชีดิจิทัลเพื่อธุรกิจที่ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับลูกค้ากลุ่มธุรกิจ
สิทธิประโยชน์ที่มากกว่า ทีทีบีจะเป็นธนาคารแรกที่มอบสิทธิพิเศษให้กับลูกค้าทุกกลุ่ม ไม่ใช่แค่ลูกค้าที่มีวินัยทางการเงิน แต่รวมถึงลูกค้าที่ใช้บริการและทำธุรกรรมผ่านช่องทางออนไลน์ โดยจะได้รับสิทธิพิเศษเพิ่มเติมผ่าน Loyalty Program ตัวใหม่ ซึ่งจะเปิดตัวในเดือนเมษายนนี้
นายฐากร ปิยะพันธ์ ผู้จัดการใหญ่ ทีเอ็มบีธนชาต กล่าวว่า ปีนี้เป็นปีที่ทีทีบีมุ่งให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ ควบคู่ไปกับการส่งเสริมความมีวินัยทางการเงินอย่างจริงจัง ซึ่งที่ผ่านมาลูกค้ากลุ่มนี้อาจจะยังไม่ได้รับการช่วยเหลือ ทั้งที่มีประวัติผ่อนดี ไม่เคยผิดนัดชำระหนี้ หรือค้างชำระหนี้ ซึ่งทีทีบีมองเห็นความสำคัญของคนกลุ่มนี้จึงวางแนวทางการให้ที่มากกว่าผ่านโปรแกรม “ผ่อนดี...มีรางวัล" สำหรับกลุ่มลูกค้าที่ผ่อนดีจะได้รับสิทธิประโยชน์และความคุ้มค่าที่มากกว่า ได้แก่
สินเชื่อบ้าน ลูกค้ารีไฟแนนซ์ ผ่อนดีดอกเบี้ยคงที่ตลอดสัญญา No Step Up Rate 3.39% ต่อปี* (*MRR-4.215% ต่อปี) ดอกเบี้ยปีที่ 4 ไม่มีกระโดด โดยไม่ต้องไปรีไฟแนนซ์ทุก ๆ 3 ปี และหากผ่อนดีต่อเนื่อง มีดอกเบี้ยพิเศษ 5.45% ต่อปี* (*MRR-2.155% ต่อปี) เมื่อต้องการวงเงิน Top Up หรือเลือก Undo ค่าโปะได้ เมื่อต้องการเงินฉุกเฉิน ถอนเงินที่โปะมาใช้ได้ทันที ผ่านบัตรกดเงินสด พร้อมฟรีค่าประเมิน และค่าเบี้ยประกันอัคคีภัย
สินเชื่อจำนำทะเบียนรถ ลูกค้าที่ผ่อนดี รีไฟแนนซ์มาที่ทีทีบี ลดดอกเบี้ยทันที เริ่มต้นเพียง 13% ต่อปี พร้อมรับเงินคืน 5% ของดอกเบี้ยปีแรก เมื่อผ่อนดีต่อเนื่องครบ 12 เดือน
สินเชื่อบุคคล เมื่อรีไฟแนนซ์ผ่านบัตรกดเงินสด ทีทีบี แฟลช ลดภาระดอกเบี้ยทันที เริ่มต้นเพียง 17% ต่อปี (จากปกติสูงสุด 25% ต่อปี) พร้อมส่วนลดดอกเบี้ยผ่อนดี สูงสุด 2% ทุกปี (เหลือต่ำสุด 13% ต่อปี) และหากผ่อนตามแผนที่แนะนำการันตีปิดหนี้ได้ใน 3 ปี
ซึ่งโปรแกรมผ่อนดี…มีรางวัลนี้จะเปิดให้เข้าร่วมตั้งแต่วันที่ 17 เมษายน – 31 สิงหาคม 2568 โดยลูกค้าทีทีบีปัจจุบันที่เป็นกลุ่มผ่อนดีก็จะได้รับสิทธิประโยชน์เช่นกัน โดยธนาคารจะมีแผนการสื่อสารรายละเอียดของโปรแกรมอีกครั้ง
นอกจากนี้ ทีทีบียังส่งเสริมให้ลูกค้าทุกคนมีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นได้ในทุกมิติอย่างแท้จริง ด้วยการเปิดตัวโปรแกรม "ttb loyalty program" ครั้งแรกของวงการธนาคารไทยผ่านแอป ttb touch ที่มีการกำหนด Status Tier ให้กับลูกค้า ttb touch 5.5 ล้านราย ได้ร่วมสนุกกับการพิชิตภารกิจที่ได้รับมอบหมายจนสำเร็จ เพื่อรับสิทธิประโยชน์ที่จะตอบโจทย์ด้านไลฟ์สไตล์และด้านการเงิน และรับสิทธิสุดพิเศษเพิ่มขึ้นอีกในแต่ละช่วงเวลาสำคัญของชีวิต ลูกค้าสามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมและร่วมสนุกกันได้ทางแอป ttb touch
นายศรัณย์ ภู่พัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารลูกค้าธุรกิจ ทีเอ็มบีธนชาต กล่าวว่า ปีนี้ผู้ประกอบการธุรกิจไทยต้องเผชิญกับความท้าทายมากมาย ไม่ว่าเศรษฐกิจที่เติบโตต่ำและผันผวน ต้นทุนที่สูงขึ้น และพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลง อย่างไรก็ตามท่ามกลางเศรษฐกิจดังกล่าวยังมีธุรกิจบางกลุ่มที่เติบโตได้ดี ซึ่งหากได้รับการสนับสนุนที่ดีก็จะเป็นเครื่องจักรสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตได้มากขึ้น ทีทีบีพร้อมช่วยให้ลูกค้าเอสเอ็มอีและธุรกิจขนาดกลางก้าวผ่านความท้าทายนี้และเติบโตได้มากกว่า ด้วยโซลูชันที่ตอบโจทย์อุตสาหกรรมและสนับสนุนเครื่องมือการเงินที่ไม่ใช่แค่เรื่องของเงินทุน แต่ช่วยแก้ปัญหาที่เผชิญอยู่เพื่อให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างยั่งยืน
นอกจากนี้ ทีทีบียังพัฒนาซัพพลายเชนโซลูชันที่ช่วยเอสเอ็มอีเพิ่มประสิทธิภาพ และความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจ รวมทั้งช่วยติดอาวุธให้ผู้ประกอบการสามารถวางแผนทางธุรกิจได้เหมือนธุรกิจรายใหญ่ ผ่านโซลูชันสำหรับร้านค้าอย่าง ttb smart shop ที่เป็นมากกว่าเครื่องมือรับเงินเพราะจะมาพร้อมกับรายงานเชิงลึกที่ช่วยต่อยอดและวางแผนการขายในอนาคต ยิ่งไปกว่านั้นยังเสริมศักยภาพผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและเอสเอ็มอี ด้วยดิจิทัลแพลตฟอร์มการเงินครบวงจรอย่าง ttb business one ที่มาพร้อมกับฟีเจอร์ใหม่ที่ผู้ประกอบการสามารถสมัครและเปิดบัญชีได้ด้วยตนเอง โดยในช่วงไตรมาส 3 ของปีนี้จะมีการเปิดตัวบัญชีดิจิทัลรูปแบบใหม่ที่ออกแบบเพื่อให้สิทธิประโยชน์ที่คุ้มค่าสำหรับเอสเอ็มอีโดยเฉพาะ พร้อมกันนั้นทีทีบียังให้ความสำคัญด้านการสนับสนุนลูกค้าธุรกิจให้ก้าวผ่านสู่มาตรฐานการทำธุรกิจใหม่ที่ต้องรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคมผ่าน Green Transition Solution และ ปันบุญ โดย ทีทีบี
COMMENTS
{{ errors.name }}
{{ errors.value }}
{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
RELATED TOPICS