BAAC Carbon Credit

รับตำแหน่งเอ็มดี ธ.ก.ส.มา มาเกือบครบ 100 วัน ฉัตรชัย ศิริไล ต้องใช้หลักสูตรเร่งรัดทั้งการบริหารงานและการบริหารคน ที่จะเป็นทีมขับเคลื่อนงานไปข้างหน้า ล่าสุดเห็นข้อมูลที่ธ.ก.ส.ปลุกปั้นมานาน คือ โครงการธนาคารต้นไม้ ที่มีชุมชนเข้าร่วมโครงการกว่า 6,800 ชุมชน มีต้นไม้ที่ปลูกเพิ่มขึ้นบนผืนดินกว่า 12 ล้านต้น จึงตั้งทีมงานพิเศษศึกษาข้อมูลในการขายคาร์บอน เครดิต เพื่อให้ชาวบ้านที่ร่วมปลูกต้นไม้และรักษาสิ่งแวดล้อม สร้างอากาศสร้างปอดให้กับคนไทย มีรายได้อย่างเป็นรูปธรรม ตอบโจทย์ที่รัฐบาลบาลไทย ไปให้พันธะสัญญาไว้ในที่ประชุม World Leaders Summit ของสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (United Nations Framework Convention on Climate Change Conference of the Parties: UNFCCC COP) (COP26) ว่าไทยจะแก้ไขปัญหาภูมิอากาศอย่างเต็มที่ทุกวิถีทาง เพื่อบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon neutrality) ภายในปี ค.ศ. 2050 และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero GHG Emission) ได้ในปี ค.ศ. 2065

ในประเทศไทย มีการพูดเรื่องคาร์บอนเครดิตมานาน แต่ตลาดซื้อขายยังไม่เป็นรูปธรรม นอกจากเป็นกิจกรรมเชิง CSR เท่านั้น สำรวจตลาดที่ซื้อขายในเชิง CSR ราคาต่ำสุดอยู่ที่ 20 บาทต่อตันคาร์บอน สูงสุด 2,000 บาทต่อตันคาร์บอน ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการขึ้นทะเบียนตรวจประเมินเพื่อออกใบ Certificate ต่อครั้งมูลค่าสูงหลายแสนบาท (เข้าใจแระว่า ทำไม?มันถึงเกิดยาก) งานนี้ ฉัตรชัย จะปั้นโปรเจค BAAC Carbon Credit ออกมาเป็นแบบไหน คงต้องตามรอดูและให้กำลังใจว่า ทำให้ได้นะ11


COMMENTS

{{ errors.name }}

{{ errors.value }}

{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}

RELATED TOPICS

Please wait a moment