{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
26 มิถุนายน พ.ศ. 1262 วันเกิดของ 1 ใน 4 ยอดหญิงงามในประวัติศาสตร์จีน “หยางกุ้ยเฟย” (Yang Guifei) หรือชื่อเดิมว่า หยางอวี้หวน (Yang Yuhuan) นอกจากจะเป็น 1 ใน 4 หญิงงามในประวัติศาสตร์จีนแล้ว ยังจัดว่าเป็นหญิงงามที่มีประวัติชัดเจนที่สุดในบรรดาหญิงงามทั้งสี่ เพราะอยู่ในยุคหลังสุดที่พอจะมีข้อมูลที่ไม่ได้เติมแต่งจนเกินความเป็นจริงสักเท่าไร
หยางอวี้หวน เป็นธิดาของหยางซวนเอียน (Yang Xuanyan) จากมณฑลฉู่ (Shu) ปัจจุบันคือเมืองเฉิงตู มณฑลเสฉวน เมื่อบิดาและมารดาเสียชีวิตลง หยางอวี้หวนจึงย้ายมาอาศัยอยู่กับหยางกั๋วจง (Yang Guozhong) ลูกพี่ลูกน้องของนาง เมื่อหยางอวี้หวนเริ่มแตกเนื้อสาว นางมีรูปร่างหน้าตาที่งดงามชวนหลงใหล ผิวกายหอมกรุ่นรัญจวนใจ รวมถึงมีความสามารถด้านดนตรีทั้งร้องเพลงและฟ้อนรำ ชื่อเสียงของนางจึงเป็นที่เลื่องลือไปทั่วทั้งตำบล
หยางอวี้หวนแต่งงานกับองค์ชายหลี่เหมา (Li Mao) พระราชโอรสองค์ที่ 18 ของจักรพรรดิถังเฉวียนจง (Emperor Xuanzong of Tang) กับพระสนมอู่ (Consort Wu) คนโปรด
เมื่อพระสนมอู่เสียชีวิตลง จักรพรรดิถังเฉวียนจงเสียพระทัยมาก ขันทีเกาลี่ซือ(Gao Lishi) ผู้ซื่อสัตย์จึงวางแผนให้องค์จักรพรรดิได้พบกับหยางอวี้หวน เมื่อได้พบนางครั้งแรกพระองค์ก็ตกหลุมรักนางทันที แต่พระองค์รู้ดีว่าหยางอวี้หวนเป็นพระชายาของลูกชายตัวเอง ซึ่งมีศักดิ์เป็นลูกสะใภ้ จึงไม่อยากสร้างปัญหา แต่ขันทีเกาลี่ซือได้วางอุบายให้หยางอวี้หวนไปบวชเป็นแม่ชีที่วัด เพื่อต้องการให้นางไปชำระบาปและกลับมาหาฮ่องเต้ได้อย่างบริสุทธิ์และไม่เป็นที่ครหา
บางตำนานก็ว่าองค์จักรพรรดิอยากได้นางมาเป็นสนมโดยไม่สนใจว่านางเป็นพระชายาของลูกชาย แถมยังหาพระชายาใหม่ให้กับลูกชายอีกด้วย ขันทีเกาลี่ซือจึงส่งนางไปบวชเป็นแม่ชีเพื่อชำระล้างร่างกายให้บริสุทธิ์ แต่บวชได้ไม่นานองค์จักรพรรดิก็รีบไปรับนางกลับมาอยู่วังเพราะอดทนรอไม่ไหว
อีกตำนานเล่าว่า จักรพรรดิถังเฉวียนจงทรงถูกใจนางมาก เมื่อพระราชโอรสหลี่เหมาทราบ จึงยอมยกนางให้เพื่อแลกกับตำแหน่งรัชทายาท เมื่อหยางอวี้หวนล่วงรู้ จึงหนีไปบวชเป็นแม่ชีอยู่ 5 ปี แล้วกลับเข้าวังในฐานะสนม
เมื่อหยางอวี้หวนกลายมาเป็นสนมของจักรพรรดิถังเฉวียนจง นางได้รับตำแหน่ง “กุ้ยเฟย” หรือสนมเอก จึงถูกเรียกว่า “หยางกุ้ยเฟย” นับแต่นั้นเป็นต้นมา
ชีวิตของหยางกุ้ยเฟยที่ดูมีความสุข อยากได้อะไรก็ได้ ทั้งอำนาจ เงินทอง รวมไปถึงญาติพี่น้องทั้งหลายต่างก็ได้ดีไปตามๆกัน แต่อำนาจเหล่านั้นกลับมาทำลายตัวนางเอง บางตำนานก็บอกว่าหยางกุ้ยเฟยรู้เห็นเป็นใจกับการฉ้อราษฎร์บังหลวงของญาติพี่น้อง บ้างก็ว่านางไม่รู้เห็น นางเป็นแค่แพะและเหยื่อทางการเมือง
ส่วนจักรพรรดิถังเฉวียนจงเมื่อได้นางมาเป็นสนมเอก ก็ลุ่มหลงในความงามไม่เป็นอันทำอะไร งานราชการก็ไม่สนใจ ประชาชนเดือดร้อนจากการฉ้อราษฎร์บังหลวงของเหล่าขุนนางจึงก่อกบฏขึ้น องค์จักรพรรดิและหยางกุ้ยเฟยต้องลี้ภัยออกจากเมืองหลวง ต่อมาเหล่าทหารได้ฆ่าบรรดาญาติของหยางกุ้ยเฟยและบีบบังคับให้องค์จักรพรรดิฆ่า หยางกุ้ยเฟย เนื่องจากเป็นต้นเหตุของปัญหาทั้งหมด
ระหว่างชาติบ้านเมือง เพื่อรักษาชีวิตตัวเองกับความรักและชีวิตคู่ แม้องค์จักรพรรดิจะรักหยางกุ้ยเฟยมากแค่ไหน สุดท้ายพระองค์ก็เป็นคนมอบความตายให้กับนาง หยางกุ้ยเฟยผูกคอตายด้วยผ้าแพรสีขาวที่องค์จักรพรรดิมอบให้
บางตำนานบอกว่าคนที่ผูกคอตายคือคนรับใช้ของนาง เพราะเมื่อองค์จักรพรรดิให้ทหารไปขุดหลุมศพนางเพื่อนำกลับมาฝังตามพิธี ทหารกลับไม่พบศพของหยางกุ้ยเฟย ส่วนหยางกุ้ยเฟยนั้นได้หนีไปอยู่ญี่ปุ่นจากความช่วยเหลือของขันทีเกาลี่ซือ และใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นจนตาย เรื่องนี้จะว่าเป็นข่าวลือที่พูดกันปากต่อปากก็ได้ แต่ที่ญี่ปุ่นกลับมีร่องรอยทางประวัติศาสตร์เกี่ยวกับหยางกุ้ยเฟยมากมาย จนกระทั่ง พ.ศ. 2545 มีดาราหญิงชาวญี่ปุ่นออกมาเปิดเผยว่า เธอสืบเชื้อสายมาจากหยางกุ้ยเฟย
อย่างไรก็ตาม ความจริงเรื่องการเสียชีวิตของหยางกุ้ยเฟย หรือการลี้ภัยไปญี่ปุ่นยังคงเป็นปริศนามาจนถึงทุกวันนี้ เว้นเสียแต่ความงามของนางที่ไม่เป็นปริศนา แถมยังเป็นที่โจษขานกันไปทั่ว จนได้รับฉายานามว่า “มวลผกาละอายนาง” ที่หมายถึง "ความงามที่ทำให้แม้แต่มวลหมู่ดอกไม้ยังต้องละอาย"
ขอขอบคุณข้อมูล
https://en.wikipedia.org/wiki/Yang_Guifei
https://www.thairath.co.th/content/448370
http://www.krukaychinese.com/2017/10/11/หยางกุ้ยเฟยผูกคอตายที่/
COMMENTS
{{ errors.name }}
{{ errors.value }}
{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
RELATED TOPICS