เภสัชฯ ศิลปากร ปฏิวัติการตรวจวิเคราะห์ยา ด้วยเทคโนโลยีสีเขียวจากกากอ้อย-กะลามะพร้าว ตรวจยาเร็วขึ้น 5 เท่า

ในยุคที่โลกมุ่งสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากรสร้างนวัตกรรมใหม่ที่เปลี่ยน“ของเหลือจากเกษตรกรรมไทย”ให้กลายเป็นหัวใจสำคัญของการตรวจวิเคราะห์คุณภาพยาโดยประสบความสำเร็จในการพัฒนาระบบตรวจวิเคราะห์ยารักษาโรคหัวใจและความดันโลหิตสูง “Captopril” ด้วยกระบวนการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างครบวงจร ซึ่งไม่เพียงช่วยลด การใช้สารเคมีอันตราย แต่ยังลดระยะเวลาการตรวจวิเคราะห์จากเดิม 14 นาที เหลือเพียง 2.5 นาที พร้อมวางรากฐานต้นแบบ “ห้องปฏิบัติการสีเขียว” เพื่อความปลอดภัยของบุคลากรและความยั่งยืนในระยะยาว

ผลงานวิจัยนี้นำโดย รองศาสตราจารย์ ดร.ธีรศักดิ์ โรจนราธา และทีมวิจัยจากคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ซึ่งได้ปฏิวัติกระบวนการตรวจวิเคราะห์ยาแบบดั้งเดิมที่ต้องพึ่งพาสารเคมีอันตราย ด้วยการเปลี่ยนมาใช้ “เอทานอลชีวภาพ” หรือ “ไบโอเอทานอล” ที่ผลิตจากกากน้ำตาลอ้อย ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก บริษัท มิตรผล ไบโอฟูเอล จำกัด ช่วยลดต้นทุนการดำเนินงานและลดความเสี่ยงต่อผู้ปฏิบัติงานได้อย่างมีนัยสำคัญ

นอกจากนี้ ทีมวิจัยยังพัฒนาแนวทางจัดการของเสียจากห้องปฏิบัติการอย่างครบวงจร โดยใช้ “ถ่านกัมมันต์จากกะลามะพร้าว” ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก บริษัท โคโคนัท คาร์บอน (ไทย) จำกัด มาใช้ในการดูดซับสารตกค้างของยาในน้ำทิ้งได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงถึง 99% ภายในเวลาเพียง 5 นาที ช่วยป้องกันการปนเปื้อนของยาในสิ่งแวดล้อมและเป็นตัวอย่างการนำวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรกลับมาใช้ประโยชน์ตามแนวคิด เศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy)

รองศาสตราจารย์ ดร. เภสัชกรธีรศักดิ์ โรจนราธา หัวหน้าโครงการวิจัย กล่าวว่า “เมื่อความยั่งยืนไม่ใช่ทางเลือก แต่คือทิศทางใหม่ของโลก งานวิจัยนี้จึงนำเสนอต้นแบบของวิชาชีพเภสัชกรรมในบทบาทใหม่ ที่ขยายจากการดูแลสุขภาพด้วยยาคุณภาพ ไปสู่การมีส่วนร่วมรักษาสิ่งแวดล้อมผ่านกระบวนการสีเขียว และการขับเคลื่อนเศรษฐกิจหมุนเวียน เพื่อสร้างสมดุลที่ยั่งยืนระหว่างผู้คน เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม”

ศาสตราจารย์ ดร. ภก. พรศักดิ์ ศรีอมรศักดิ์ คณบดีคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร กล่าวว่า “งานวิจัยนี้เป็นตัวอย่างของนวัตกรรมที่ผสมผสานองค์ความรู้ทางเภสัชศาสตร์กับแนวคิดความยั่งยืนได้อย่างเป็นรูปธรรม คณะเภสัชศาสตร์มุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีการวิเคราะห์ยาที่ทั้งปลอดภัย มีประสิทธิภาพ และรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมเพื่อให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางด้านนวัตกรรมเภสัชกรรมสีเขียวในภูมิภาค เพราะเราเชื่อว่า นวัตกรรมทางยาไม่ควรเพียงรักษาผู้ป่วย แต่ต้องสามารถรักษาโลกใบนี้ไปพร้อมกันได้ด้วย”

ความสำเร็จของงานวิจัยนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของวงการเภสัชกรรมไทยที่สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ (UN SDGs) โดยผลงานได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร Pharmaceutical Sciences ซึ่งอยู่ในฐานข้อมูล Scopus Q1 และบทคัดย่อแบบภาพได้รับเลือกให้เป็นภาพปกของวารสารประจำเดือนตุลาคม 2025 นับเป็นอีกหนึ่งหลักฐานของศักยภาพนักวิจัยไทยในระดับนานาชาติ

งานวิจัยนี้เกิดขึ้นจากความร่วมมือระหว่างคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร และ ห้างหุ้นส่วนจำกัด นิวเจริญฟาร์มาซูติคอล โดยได้รับการสนับสนุนทุนวิจัยจาก สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) และทุนจาก คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนา

นวัตกรรมสีเขียวที่ยั่งยืนในวงการเภสัชกรรมไทย


COMMENTS

{{ errors.name }}

{{ errors.value }}

{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}

RELATED TOPICS

Please wait a moment