เตรียม3หมื่นล.ดูคนจน-เริ่มวัยทำงาน-สูงอายุ ธอส.ปั้นบ้านล้านหน่วย ปั่นผลงานครึ่งปีดีเร่งเครื่องสู่ยุค4.0

ที่อยู่อาศัยนับเป็นปัจจัย 4 ที่ทุกคนต้องมี แต่บางคนที่ยังไม่มี ก็เป็นเป้าหมายที่ต้องไขว่คว้าหามาให้ได้ ไม่ว่าจะยากลำบากเพียงใด

เพราะการมีบ้านถือเป็นที่พักพิงและให้ความสบายใจ

คนที่ยังไม่มีบ้าน เพราะยากจน รายได้น้อย ทางภาครัฐก็พยายามจะหาวิธีการเพื่อช่วยเหลือให้ทุกคนได้มีบ้านเป็นของตัวเอง ผ่านทางหน่ายงานต่างๆ ของรัฐ

ธนาคารอาคารสงเคราะห์ หรือ ธอส. ก็เป็นหน่วยงานสำคัญยิ่งที่จะทำให้คนไทยได้มีบ้าน และได้สร้างผลงานให้ประจักษ์มาอย่างต่อเนื่อง

ล่าสุด นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธอส. เปิดเผยว่า ธอส.กำลังให้คณะทำงานทำการศึกษาเกี่ยวกับแผนพัฒนาที่อยู่อาศัย เพื่อดูแลคน 3 กลุ่ม คือ 1.ผู้มีรายได้น้อย 2.คนหนุ่มสาวที่เริ่มทำงานและหาที่อยู่อาศัย และ 3.กลุ่มคนชรา ซึ่งมีเป้าหมายทั้งหมดประมาณ 1 ล้านยูนิต

โดยเบื้องต้นกำหนดเงื่อนไข ราคาบ้านในโครงการไม่เกิน 1 ล้านบาท ผ่อนชำระรายเดือน 4,000 บาท ระยะเวลา 40 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ และเปิดโอกาสให้กู้ร่วมได้ 2 คนกับญาติเหมือนกับมีภาระผ่อน 2,000 บาทต่อเดือน เตรียมเสนอบอร์ด ธอส.เดือนสิงหาคมนี้

ทั้งนี้ หากแผนดังกล่าวได้รับการอนุมัติ จะแบ่งการพัฒนาเป็นระยะสั้น ระยะปานกลางและระยะยาว ซึ่งเฟสแรก ตั้งเป้าไว้ประมาณ 100,000 ยูนิต โดยจะประสานกับผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ที่มีความพร้อมพัฒนาโครงการเปิดให้จอง 30,000 ยูนิต แบ่งเป็นโครงการที่สามารถเข้าอยู่ได้ทันที 10,000 หน่วย และทยอยก่อสร้างอีก 20,000 หน่วยในปี 2562 โดย ธอส.เตรียมสภาพคล่องไว้รองรับปล่อยสินเชื่อให้ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์และรายย่อยเพื่อกู้ซื้อบ้าน ประมาณ 30,000 ล้านบาท

สำหรับแผนดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมาย ธอส.ช่วงครึ่งปีหลัง ในการเพิ่มโอกาสการมีบ้านให้แก่ผู้มีรายได้น้อยตามนโยบายของรัฐ พร้อมจัดทำเครื่องรับเงินฝากประชารัฐ (Mobile Deposit Machine) เป็นเครื่องรับฝากเงินให้บริการนอกสถานที่แก่ลูกค้ากลุ่มผู้มีรายได้น้อยตามชุมชนต่างๆ เริ่มให้บริการจำนวน 200 เครื่อง ภายในเดือนกรกฎาคม

ธอส. ยังพร้อมเดินหน้าสู่การเป็น Digital Service อย่างเต็มรูปแบบโดยได้จัดทำโครงการ Payment Gateway พัฒนาช่องทางการชำระเงินกู้ เพื่อแก้ปัญหาลูกค้าไม่สะดวกในการชำระหนี้เงินกู้ รอคิวนานในช่วงสิ้นเดือน ประกอบด้วย เครื่องรับชำระหนี้เงินกู้อิเล็กทรอนิกส์ (LRM) อำนวยความสะดวกให้ลูกค้าที่จะชำระเงินกู้ด้วยเงินสด (Cash Payment) ซึ่งภายในเดือนกรกฎาคม 2561 นี้ ธอส. จะมีเครื่องรับชำระหนี้เงินกู้อิเล็กทรอนิกส์ รวม 170 เครื่อง

เครื่องชำระเงินกู้ไร้เงินสด (QR Non Cash Payment) ลูกค้าสามารถชำระหนี้เงินกู้ ธอส. โดยใช้ Mobile Application ของธนาคารต่างๆ เพียงระบุเลขที่บัญชีเงินกู้ และเลือกบัญชีและจำนวนเงินที่ต้องการชำระผ่านเครื่องชำระหนี้เงินกู้ไร้เงินสดของ ธอส. หลังจากนั้นเครื่องจะสร้าง QR Code ชำระด้วยการโอนเงินผ่าน Mobile Application ด้วย Dynamic QR Code ซึ่งมีประมาณ 20 เครื่อง

นอกจากนี้ ในไตรมาส 3 ธอส. จะเปิดตัว Mobile Application : GHB ALL เป็นแอปพลิเคชันของ ธอส. ที่รวมทุกบริการของ ธอส.ไว้ในมือคุณ ออกแบบมาเพื่อง่ายต่อการใช้งานทุกฟังก์ชั่น สามารถให้บริการลูกค้าได้อย่างครบวงจรแบบ Anywhere Anytime และจะเสร็จสมบูรณ์ภายในปีนี้ โดยตั้งเป้าว่าภายในสิ้นปี 2561 จำนวนธุรกรรมชำระหนี้เงินกู้ผ่าน Payment Gateway ทั้ง 3 ช่องทาง จะไม่ต่ำกว่า 40% ของจำนวนธุรกรรมที่มาชำระเงินกู้ที่เคาน์เตอร์ ของธนาคารทั้งหมด

ส่วนผลการดำเนินงาน 6 เดือนแรกของปี 2561 ธอส. มียอดสินเชื่อใหม่ 105,429 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 53.67% เป็นจำนวนบัญชีทั้งสิ้น 85,263 บัญชี โดยในจำนวนนี้เป็นผู้มีรายได้น้อยและปานกลางวงเงินกู้ไม่เกิน 2 ล้านบาท 51,482 ราย นับเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 2496 ที่ภายใน 6 เดือนแรก สามารถปล่อยสินเชื่อได้ทะลุ 1 แสนล้านบาท ดันยอดสินเชื่อคงค้างรวมแตะ 1,070,698 ล้านบาท มั่นใจสิ้นปี 2561 สามารถปล่อยสินเชื่อปล่อยใหม่ได้ตามเป้า 189,000 ล้านบาท

มีหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) จำนวน 47,208 ล้านบาท คิดเป็น 4.41% ของยอดสินเชื่อรวม เพิ่มขึ้น 0.20% จาก ณ สิ้นปี 2560 ซึ่ง NPL อยู่ที่ 4.21% ของสินเชื่อรวม และมีกำไรสุทธิ 6,439 ล้านบาท ขณะที่อัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS Ratio) ยังอยู่ที่ระดับแข็งแกร่งมากที่ 14.53% ซึ่งสูงกว่าอัตราเงินกองทุนขั้นต่ำ 8.50% ที่กำหนดโดยธนาคารแห่งประเทศไทย


COMMENTS

{{ errors.name }}

{{ errors.value }}

{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}

RELATED TOPICS

Please wait a moment