หงษ์ทองดึงกำลังซื้อ ขายข้าวหอมมะลิใหม่ต้นฤดู

ข้าวหงษ์ทอง” ส่งข้าวหอมมะลิใหม่ต้นฤดู Limited Edition 1 ปีมีครั้งเดียว ดึงกำลังซื้อกลับช่วงไตรมาสสุดท้ายปี 62

นายกัมปนาท มานะธัญญา รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เจียเม้งมาร์เก็ตติ้ง จำกัด ผู้ผลิต และจำหน่ายข้าวแบรนด์ “ข้าวหงษ์ทอง” เปิดเผยว่า บริษัทได้นำข้าวหอมมะลิใหม่ต้นฤดู Limited Edition 1 ปีมีครั้งเดียวออกจำหน่าย เพื่อดึงกำลังซื้อกลับช่วงไตรมาสสุดท้ายปี 62 โดยถือเป็นข้าวคุณภาพใน “โครงการหงษ์ทองนาหยอด” ข้าวที่ปลูกด้วยความใส่ใจ จากเมล็ดพันธุ์ที่บริสุทธิ์ ซึ่งหงษ์ทองเป็นรายแรกที่วางจำหน่ายและได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคตลอดมา โดยเฉพาะกลยุทธ์ Product Differentiation รุ่น Limited Edition สร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง เพราะมาจากโครงการหงษ์ทองนาหยอดปลูกด้วย “เมล็ดพันธุ์บริสุทธิ์” จนได้ข้าวหอมมะลิที่มีคุณภาพ ด้วยความหวังพัฒนาคุณภาพข้าวหอมมะลิไทยควบคู่ไปกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตของชาวนาไทยให้ดียิ่งขึ้นจากผลผลิตที่มีคุณภาพทำให้ข้าวหอมมะลิใหม่ต้นฤดูของหงษ์ทอง มียอดขายติดอันดับ 1 โดยมี Market Share ถึง 50%

จากความสำเร็จ ของ “โครงการหงษ์ทองนาหยอด” เริ่มต้นในปี 58/59 มีผู้ร่วมโครงการเพียง 500 ไร่ และปีนี้ฤดูกาลปลูก 61/62 มีผู้ร่วมโครงการ 60,000 ไร่ เติบโตขึ้นแบบก้าวกระโดดทุกปี เพราะโมเดลของโครงการประสบความสำเร็จตามที่ตั้งไว้คือ ลดต้นทุนการปลูก เพิ่มผลผลิตต่อไร่ ทำให้รายได้ของชาวนาเพิ่มขึ้นเมื่อชาวนาเห็นผลชัดเจน โดยมีผู้นำชุมชนเป็นผู้ร่วมโครงการและสนับสนุนให้ชาวนาท่านอื่น ๆ เข้าร่วมเพิ่มขึ้นทุกปี พร้อมตั้งเป้าผู้ร่วมโครงการเพิ่มขึ้นเป็น 100,000 ไร่ ในปี 2563 และขยายพื้นที่ออกไปในอำเภอต่างๆ นอกเหนือจากเดิมที่โพนข่า จ.ศรีสะเกษ และอำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี

โดยในปีนี้เราตั้งเป้าหมายการขาย ข้าวหอมมะลิใหม่ต้นฤดู รุ่น Limited Edition เติบโตขึ้นเท่าตัว ซึ่งมีวางจำหน่ายทุกช่องทางทั้งห้างสรรพสินค้า และทางออนไลน์ โดยเปิดตัวแคมเปญเมื่อวันที่ 11:11 ด้วยยอดขายเพียงวันเดียว 12,000 ถุง และเป้าหมายของแคมเปญเฉพาะช่วงเดือน พ.ย.-ธ.ค. ด้วยยอดขาย 600,000 ถุง โดยจะมี Golden Period ในช่วงสิ้นเดือนพฤศจิกายนนี้พร้อมกันทั่วทุกห้างในราคาพิเศษ เพื่อผู้บริโภคได้ชิมข้าวหอมมะลิใหม่ต้นฤดูอย่างแท้จริง

นอกจากนี้บริษัทยังได้ออกหนังโฆษณาทางออนไลน์ “เพียงคำเดียว” เป็นการนำเรื่องโครงการนาหยอดผูกเข้ากับเรื่องการสร้างครอบครัวที่ต้องดูแลเอาใจใส่กันและกันเหมือนตั้งแต่เริ่มต้นจีบกันใหม่ๆ แต่งงานสร้างครอบครัว จนมีลูก เช่นเดียวกับการทำนาหยอดด้วยการคัดสรรกันตั้งแต่เมล็ดพันธุ์ บำรุงดิน ดูแลแปลงนา เอาใจใส่ทุกวันทุกกระบวนการ ซึ่งหงษ์ทองเป็นผู้ผลิตแบรนด์เดียวที่ดูแลผู้มีส่วนได้ส่วนเสียตลอดทาง (supply chain) โดยเฉพาะชาวนาที่ยังต้องการการสนับสนุน การวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการทำนาเพื่อให้ต้นทุนการปลูกลดลงผลผลิตมากขึ้นทำให้เกิดรายได้เพิ่มขึ้น และที่ดีที่สุดคือ คุณภาพข้าวหอมมะลิกลับมาดีเหมือนเดิม ทั้งหอมกว่าทั้งนุ่มกว่า

นายกัมปนาท กล่าวอีกว่า ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาราคาข้าวเปลือกขยับสูงขึ้นเกือบ 30-40% ที่ราคาข้าวหอมมะลิตันละ 18,000 -20,000 บาท ทำให้ต้นทุนข้าวเพิ่มขึ้นตามสภาวะตลาด ส่งผลต่อราคาขายปลีกข้าวหอมมะลิบรรจุถุง ราคาเฉลี่ย 230-250 บาทต่อขนาด 5 กก. ราคาข้าวหอมเกรดรองอยู่ที่ 170-200 บาท ผู้บริโภคจึงหันมาซื้อข้าวหอมเกรดรองมากขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับตัวเลขสัดส่วนการขายของข้าวสารบรรจุถุงเดือน ม.ค.-มิ.ย. ปี 2562 มูลค่าตลาดข้าวบรรจุถุงปี 2562 คาดว่าจะมีมูลค่าประมาณ 20,000 ล้านบาท ซึ่งข้าวหงษ์ทองมี Market Share อยู่ 11% หรือประมาณ 2,200 ล้านบาท

สำหรับปี 2563 ข้าวหงษ์ทองวางเป้าหมายยอดขายอยู่ที่ประมาณ 2,500 ล้านบาท โดยเราทำแผนการเติบโตจากช่องทางการจัดจำหน่ายเดิม หรือ Offline 10% แต่ยริษัทวางแผนการเติบโตจาก Online 300% มีการจัดจำหน่ายทุก Market Place ซึ่งปัจจุบันเราเป็นที่ 1 ในการขายข้าวถุงทางออนไลน์ได้รับการสั่งซื้อทั้งจาก Shoppee และ Lazada มียอดขายเป็นที่น่าพอใจเพิ่มขึ้นทุกปี


COMMENTS

{{ errors.name }}

{{ errors.value }}

{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}

RELATED TOPICS

Please wait a moment