TPIPLกำไรพุ่ง50.07%

ทีพีไอ โพลีน แจ้งกำไรสุทธิตามงบการเงินรวมในไตรมาส 3 ปี 2562 จำนวน 716 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 50.07% จากจำนวน 477 ล้านบาท ในไตรมาส 3 ปี 2561 ที่ผ่านมา

นายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ทีพีไอ โพลีน TPIPL เปิดเผยว่า บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิใน Q3/62 รวม จำนวน 716 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 50.07% จากจำนวน 477 ล้านบาท ใน Q3/61 และในช่วง 9 เดือนแรก ปี 2562 มีกำไรสุทธิจำนวน 2,126 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 175.48% เมื่อเทียบกับจำนวน 772 ล้านบาท ในช่วง 9 เดือนแรก ปี 2561 เนื่องจากรายได้จากการขายเพิ่มขึ้น รวมทั้งอัตรากำไรที่สูงขึ้นของธุรกิจปูนซีเมนต์และเม็ดพลาสติก

บริษัทคาดว่ารายได้รวมในปีนี้จะเพิ่มขึ้นอยู่ในระดับ 39,000 ล้านบาท จากจำนวน 37,315 ล้านบาท ในปี 2561 และคาดว่ารายได้ของธุรกิจปูนซีเมนต์ในปี 2563 จะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากความต้องการใช้ปูนซีเมนต์ในประเทศ ที่จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากนโยบายการลงทุนของภาครัฐที่ชัดเจน เช่น โครงการขยายถนนมอเตอร์เวย์ กทม.–โคราช โครงการขยายสนามบินอู่ตะเภา และสนามบินสุวรรณภูมิเฟส 2 โครงการขยายท่าเรือแหลมฉบัง และท่าเรือมาบตะพุด โครงการขยายเส้นทางรถไฟฟ้าสีต่าง ๆ โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน โครงการรถไฟรางคู่ กทม.–หัวหิน และ กทม.–โคราช และโครงการรถไฟความเร็วสูง กทม.–โคราช ซึ่งโครงการดังกล่าวจะส่งผลให้ภาคเอกชนเกิดความมั่นใจ และขยายการลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ตามแนวเส้นทางดังกล่าว โดยปัจจุบันในส่วนของภาคเอกชนได้มีการลงทุนในโครงการขนาดใหญ่หลายโครงการ เช่น โครงการวันแบงคอก โครงการแบงคอกมอล์ล ทั้งนี้ในส่วนการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต บริษัทได้ลงทุนเพื่อลดต้นทุนการผลิตปูนซีเมนต์ เช่น การลงทุนในระบบสายพานลำเลียงวัตถุดิบ และระบบป้อนเชื้อเพลิง RDF

นอกจากนี้ บริษัท ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย (ถือหุ้น 70.24% โดยบริษัท) มีศักยภาพเติบโตจากการใช้กำลังการผลิตโรงไฟฟ้าเพิ่มขึ้นในระดับ 95% จากการลงทุนติดตั้งหม้อผลิตไอน้ำเพิ่มเติม และมีความพร้อมในการเข้าร่วมประมูลโครงการโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงขยะตามนโยบายของภาครัฐ ที่จะได้กำหนดเงื่อนไขการประมูล เช่น โครงการโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงขยะในจังหวัดสงขลา และนครราชสีมา

แล้ว TPIPP ยังมีความสนใจในการเข้าไปมีส่วนร่วมในโครงการพัฒนาพื้นที่ชายฝั่งทะเลภาคใต้ ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับโรงไฟฟ้า ท่าเรือน้ำลึก และนิคมอุตสาหกรรม โดยกลุ่มบริษัทมีความพร้อมทั้งด้านเงินลงทุน และประสบการณ์จากการมีส่วนร่วมในการพัฒนาโครงการในลักษณะเดียวกันในพื้นที่ชายฝั่งทะเลภาคตะวันออก ทั้งนี้เพื่อให้เกิดการพัฒนาเศรษฐกิจและชุมชนที่ยั่งยืนในภาคใต้ต่อไป


COMMENTS

{{ errors.name }}

{{ errors.value }}

{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}

RELATED TOPICS

Please wait a moment