XOทุบทุกสถิติ

เอ็กโซติค ฟู้ดอวด Q2/63รายได้โต 61.48% กำไรเพิ่ม560.82% ทำสถิติสูงสุดใหม่รายไตรมาสนิวไฮในทุกตัวเลขดันครึ่งปีมีกำไร139.23 ล้านบาทสูงกว่าปี62ทั้งปี

นายจิตติพร จันทรัช กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็กโซติค ฟู้ด จำกัด (มหาชน) หรือ XO เปิดเผยว่า ผลประกอบการงวดไตรมาส 2/2563 ทำสถิติสูงสุดใหม่รายไตรมาส บริษัทมีรายได้จากการขาย 339.34 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 61.48% จากงวดเดียวกันของปีก่อน มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 91.92 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 560.82% จากงวดเดียวกันของปีก่อนโดยอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 41.84% อัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 27.09% ซึ่งได้รับอานิสงส์สถานการณ์โควิด-19 ที่แพร่ระบาดไปทั่วโลก และจากมาตรการล็อกดาวน์ (Lockdown) ส่งผลให้ร้านอาหารในต่างประเทศต้องปิดให้บริการ แต่เปิดให้บริการในส่วนของซุปเปอร์มาร์เก็ต ทำให้ความต้องการซอสปรุงรสและวัตถุดิบในการประกอบอาหารมีการขยายตัว คนนิยมประกอบอาหารทานเองที่บ้านมากขึ้น

โดยผลประกอบการงวด 6 เดือนแรกปี 2563 บริษัทรายได้จากการขายอยู่ที่ 611.80 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.41% จากงวดเดียวกันของปีก่อน มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 139.23 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 70.67% จากงวดเดียวกันของปีก่อนอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 38.23% อัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 22.76% ทำสถิติสูงสุดใหม่นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท

ทั้งนี้ภาพรวมผลการดำเนินงานที่ออกมาเติบโตอย่างน่าประทับใจ ในท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 บริษัทเห็นทิศทางยอดขายปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา คนเริ่มหันมาทำอาหารทานเอง เป็น New Normal ที่ส่งผลดีต่อยอดขายกลุ่มซอสซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักในการปรุงอาหารในต่างประเทศ ขณะที่การบริหารจัดการภายในดีเยี่ยม ความสามารถในการควบคุมต้นทุนหลักของบริษัทฯ ได้แก่ น้ำตาล กระเทียม และพริก ที่เราล็อคราคาในระดับต่ำได้อย่างน้อยถึงสิ้นปี 2564 ซึ่งถือเป็นต้นทุนที่ดีมาก ประกอบกับอัตรากำลังการผลิตในระดับสูงขึ้น ทำให้ภาพรวมกำไรงวดไตรมาส 2/2563 เติบโตจากงวดไตรมาส 2/2562 และเติบโตจากงวดไตรมาส 1/2563 ที่ 560.82% และ 94.29% ตามลำดับ ทำสถิติใหม่ในทุกตัวเลข” นายจิตติพร กล่าว

สำหรับฐานลูกค้าหลักของบริษัทอยู่ในต่างประเทศเกือบทั้งหมด รวมประมาณ 60 ประเทศทั่วโลก แบ่งเป็นลูกค้ากลุ่มหลักในทวีปยุโรป กว่า 83% เอเชียประมาณ 6% ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ประมาณ 8% ส่วนที่เหลือเป็นทวีปอเมริกาและอื่นๆ

กรรมการผู้จัดการ เอ็กโซติค ฟู้ด กล่าวว่า บริษัทประเมินภาพรวมตลาดซอสส่งออกครึ่งปีหลัง จะยังคงได้รับอานิสงส์ต่อเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ในหลายประเทศทั่วโลกยังคงมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น และรอวัคซีนเพื่อป้องกันไวรัส มองเป็นอานิสงส์ระยะยาวให้ผู้บริโภคหันมาทำอาหารทานเองที่บ้าน เกิดเป็นพฤติกรรมใหม่ และทานอาหารนอกบ้านน้อยลง สินค้าของบริษัท อยู่ในกลุ่มอาหารที่เป็นครัวของโลก อาหารไทยได้รับความนิยม จึงคาดการณ์ภาพรวมธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลังยังเติบโตได้ดี โดยมีสินค้ากลุ่มซอสเป็นดาวเด่น นอกจากนี้ บริษัทจะเห็นคำสั่งซื้อจากลูกค้าล่วงหน้าก่อนที่จะส่งของประมาณ 4-6 อาทิตย์ จึงประมาณการณ์ตัวเลขในช่วงหลังจากนี้ยังเป็นไปตามเป้าหมาย และมั่นใจ เป้ารายได้ปี 2563 ที่วางไว้จะเติบโต 10% จากปีก่อนมีรายได้ราว 999 ล้านบาท เชื่อจะสามารถทำได้มากกว่านั้น และตั้งเป้าอัตรากำไรขั้นต้นเฉลี่ยทั้งปีนี้มากกว่า 35%