ดัชนีเชื่อมั่นท้องถิ่น มองศก.อนาคตเริ่มฟื้น

คลังรายงานดัชนี RSI ก.ค.2563 ชี้แนวโน้มความเชื่อมั่นอนาคตศก.ไทยดีขึ้นเกือบทุกภาค

นายพิสิทธิ์ พัวพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักนโยบายเศรษฐกิจมหภาค เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาคประจำเดือนกรกฎาคม 2563 ชี้แนวโน้มความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจไทยที่ดีขึ้นเกือบทุกภูมิภาค โดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ และภาคกลางที่มีแนวโน้มดีขึ้นในทุกด้าน แต่ดัชนีแนวโน้มรายภาคอุตสาหกรรมของภาคตะวันตก และภาคบริการของภาคตะวันออก ยังชะลอตัว

โดยดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อยู่ที่ระดับ 60.5 แสดงถึงความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจที่ขยายตัวต่อเนื่องจากเดือนที่แล้ว มีภาคเกษตรและภาคบริการเป็นปัจจัยสนับสนุน เนื่องจากคาดหวังการช่วยเหลือของภาครัฐจากมาตรการประกันรายได้ นอกจากนี้ยังรวมถึงผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Coronavirus Disease 2019: COVID-19) ที่คาดว่าเมื่อคลี่คลายแล้วจะทำให้มีความต้องการสินค้าเกษตรเพิ่มขึ้นจากทั้งภายในและต่างประเทศ และภาคบริการจะขยายตัวจากการผ่อนปรนมาตรการต่างๆ ของจังหวัด ทำให้ธุรกิจภาคบริการกลับมาดำเนินการอีกครั้ง

สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคเหนือ อยู่ที่ระดับ 59.9 สะท้อนถึงการคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจ โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากภาคเกษตรและอุตสาหกรรม เนื่องจากแนวโน้มภาคเกษตรในระยะ 6 เดือนข้างหน้าคาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นจากปริมาณผลผลิตสินค้าเกษตรที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากเป็นฤดูเก็บเกี่ยวผลผลิต อีกทั้งยังมีมาตรการรวบรวมและคัดกรองคุณภาพสินค้าเกษตรเพื่อกระจายผลผลิตภายในประเทศ

ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจของภาคตะวันตก อยู่ที่ระดับ 54.9 แสดงถึงความเชื่อมั่นเศรษฐกิจในอนาคตที่กลับมาขยายตัว โดยมีภาคการเกษตรและภาคการจ้างงานเป็นปัจจัยสนับสนุนหลัก จากมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรของภาครัฐ และปริมาณน้ำฝนที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น และการจ้างงานเริ่มฟื้นตัวขึ้นเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 คลี่คลาย ทำให้ภาครัฐมีการผ่อนปรนมาตรการการควบคุมสถานประกอบการบางประเภท

ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคกลางอยู่ที่ 54.3 แสดงถึงความเชื่อมั่นเศรษฐกิจในอนาคตที่ขยายตัวต่อเนื่องจากเดือนที่แล้ว โดยมีภาคเกษตรและภาคบริการเป็นปัจจัยสนับสนุนหลักจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่เริ่มคลี่คลายส่งผลให้การขนส่งผลผลิตทำได้ง่ายขึ้น และการเข้าสู่ฤดูฝนซึ่งจะมีผลผลิตออกสู่ตลาดมากขึ้น ตลอดจนนักท่องเที่ยวเริ่มคลายกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019

ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจของภาคตะวันออกอยู่ที่ 52.6 แสดงถึงความเชื่อมั่นเศรษฐกิจในอนาคตที่เพิ่มขึ้น โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลักจากภาคเกษตรและภาคอุตสาหกรรม เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในประเทศคลี่คลายลงมาก ส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจมีแนวโน้มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ จึงคาดว่าปริมาณความต้องการผลผลิตทางการเกษตรจะเพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับเริ่มเข้าสู่ฤดูกาลเพาะปลูก และยังมีฝนตกตามฤดูกาลคาดว่าเศรษฐกิจจะปรับตัวเข้าสู่ภาวะปกติได้ ในส่วนของภาคอุตสาหกรรม มีความมั่นใจเพิ่มขึ้น เนื่องจากมาตรการของภาครัฐในการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจด้านอื่น ๆ

ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจของภาคใต้ อยู่ที่ระดับ 51.0 ปรับเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า โดยเฉพาะในภาคเกษตรและภาคอุตสาหกรรมตามแนวโน้มความต้องการผลผลิตยางพาราจากผู้ซื้อภายในประเทศและต่างประเทศที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นตามอุปสงค์การใช้ถุงมือยางแพทย์ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ทั่วโลก รวมถึงมาตรการกระตุ้นการใช้ยางภายในประเทศจากภาครัฐ การนำยางพารามาผลิตอุปกรณ์อำนวยความปลอดภัยทางท้องถนน ประกอบกับราคาปาล์มน้ำมันดิบมีแนวโน้มขยายตัวขึ้นเช่นกัน

สุดท้ายดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจของ กทม. และปริมณฑล อยู่ที่ระดับ 48.1 โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากภาคเกษตรและภาคบริการ


COMMENTS

{{ errors.name }}

{{ errors.value }}

{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}

RELATED TOPICS

Please wait a moment