{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
ความร่วมมือนับเป็นความสำคัญและจำเป็น เพื่อเพิ่มศักยภาพในการพัฒนาและความเข้มแข็งในการแข่งขัน ไปจนถึงการเชื่อมโยงไปสู่ด้านต่างๆ
สภาธุรกิจไทย – กัมพูชา จึงร่วมกับสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ สสปน. และสมาคมส่งเสริมการลงทุนระหว่างประเทศตามแนวเส้นทางสายไหมใหม่ จัดโครงการประชุมนานาชาติ เพื่อความร่วมมือระเบียงเศรษฐกิจ กัมพูชา-เวียดนาม-ไทย ครั้งที่ 1 (1st Cambodia-Vietnam-Thailand Economic Corridor Cooperation Conference หรือ CVTEC) ขึ้น
เวทีประชุมดังกล่าวจะช่วยเสริมสร้างความร่วมมือด้านการค้าการลงทุน การขนส่ง การท่องเที่ยวและไมซ์ และด้านการพัฒนาบุคลากรในภาคบริการ ในพื้นที่แนวฝั่งทะเลระเบียงเศรษฐกิจด้านใต้ 3 ประเทศ ของ กัมพูชา เวียดนาม และไทย
นายนิยม ไวยรัชพานิช ที่ปรึกษาสภาธุรกิจไทย – กัมพูชา กล่าวว่า โครงการ CVTEC จะช่วยเพิ่มศักยภาพบนพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจด้านใต้ (Southern Economic Corridor หรือ SEC) ใน 3 ประเทศ คือ กัมพูชา เวียดนาม และไทย ที่มีศักยภาพในการเติบโตทางเศรษฐกิจ แล้วในอนาคตอาจเชื่อมโยงเส้นทางสายไหมศตวรรษที่ 21 (One Belt, One Road หรือ OBOR) โดยเฉพาะเส้นทางสายไหมทางทะเล หรือ “Maritime Silk Road” ที่เริ่มจากเมืองชายฝั่งของจีน
สภาธุรกิจไทย – กัมพูชา จึงได้ดำเนินการจัดทำโครงการ CVTEC ขึ้น พร้อมประสานขอความร่วมมือกับภาคธุรกิจของจังหวัดต่างๆที่อยู่ในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจด้านใต้ ประกอบด้วย จังหวัดพระสีหนุ จังหวัดเกาะกง จังหวัดแกบ จังหวัดกัมปอต และจังหวัดตาแกว ราชอาณาจักรกัมพูชา จังหวัดกาเมา และจังหวัดเกียนยาง สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม จังหวัดชลบุรี จังหวัดระยอง จังหวัดจันทบุรี และจังหวัดตราด ประเทศไทย เพื่อร่วมกันยกระดับการประสานความร่วมมือด้านการพัฒนาแนวการค้าการลงทุน การขนส่ง และการท่องเที่ยวในพื้นที่ด้านชายฝั่งทะเลเพิ่มมากขึ้น
นายสราญโรจน์ สุทัศน์ชูโต ผู้อำนวยการส่งเสริมการตลาดในประเทศ สสปน. กล่าวว่า โครงการ CVTEC เป็นอีกโครงการหนึ่งที่ สสปน. เล็งเห็นแล้วว่าเป็นโครงการที่มีศักยภาพ และยังเชื่อมโยงกับพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ (Special Economic Zone – SEZ) จังหวัดตราด ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor หรือ EEC) ภายใต้แผนยุทธศาสตร์ไทยแลนด์ 4.0 ของรัฐบาล
นอกจากการจัดประชุมครั้งนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของความร่วมมือเพื่อพัฒนาการค้าการลงทุน การขนส่ง และการท่องเที่ยวแล้ว ยังเป็นโอกาสในการเติบโตของอุตสาหกรรมไมซ์ในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจด้านใต้อีกด้วย
ด้าน นางดวงใจ จันทร รองประธานสภาธุรกิจไทย – กัมพูชา กล่าวเพิ่มเติมว่า ไทยกับกัมพูชาได้นำร่องร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงในความร่วมมือกันในการเสริมสร้างความร่วมมือทางการค้า การขนส่ง การท่องเที่ยว และการลงทุน ในพื้นที่แนวฝั่งทะเล สร้างเครือข่ายทางธุรกิจระหว่างนักธุรกิจของสองประเทศ และจะผลักดันรัฐบาลของกัมพูชาและไทยให้บรรลุข้อตกลงสิทธิการเดินเรือตามแนวชายฝั่ง ในเส้นทางพัทยา (ราชอาณาจักรไทย) และเกาะกง กัมปอต และแกบ (ราชอาณาจักรกัมพูชา) ให้สำเร็จโดยเร็วที่สุด
ส่วนเวียดนามยังไม่สามารถร่วมลงนามได้ เนื่องจากมีระเบียบขั้นตอนในการพิจารณาเกี่ยวกับการลงนามในบันทึกข้อตกลงระหว่างประเทศ ทำให้ยังไม่สามารถร่วมลงนามภายในปีนี้ได้ คาดว่าเวียดนามจะร่วมลงนามได้ในการประชุมครั้งต่อไป
COMMENTS
{{ errors.name }}
{{ errors.value }}
{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
RELATED TOPICS