ดีแทคแนะนำ ‘สมาร์ทคอนเน็ค โดยเน็ตฟาวดรี่’ แพลตฟอร์มให้บริการเครือข่าย

นายราจีฟ บาวา รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มธุรกิจองค์กร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค กล่าวว่า ดีแทคขอแนะนำ ‘สมาร์ทคอนเน็ค โดยเน็ตฟาวเดอรี่’ สู่ตลาด รายแรกและรายเดียวในไทย ซึ่งมั่นใจว่าจะช่วยให้ธุรกิจทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดในการบริหารจัดการข้อมูลในยุคนี้ สมาร์ทคอนเน็ค โดยเน็ตฟาวเดอรี่ สามารถใช้แทนระบบ VPN ได้ อีกทั้งยังเข้าถึงข้อมูลบนระบบคลาวด์ได้รวดเร็วกว่าเครือข่ายปกติถึง 8-10 เท่า มั่นใจได้ว่าข้อมูลไม่รั่วไหลด้วยระบบรักษาความปลอดภัยถึง 5 ชั้น เทียบเท่ากับมาตรฐานที่ใช้ในกองทัพสหรัฐอเมริกา อีกทั้งยังลดต้นทุนลงกว่า 40-80% อีกด้วย”

เทรนด์การทำงานในโลกธุรกิจแบบ New normal

ข้อมูลเป็นหัวใจสำคัญในการทำธุรกิจในยุคนี้ การจัดการและเข้าถึงข้อมูลจากที่ไหนก็ได้ในโลกทำให้ ผู้ประกอบธุรกิจหันมาใช้ระบบคลาวด์ เพราะสามารถเก็บข้อมูลสำคัญไว้กับตัวเองบน data center ส่วนข้อมูลอื่น ๆ สามารถจัดเก็บไว้บนระบบคลาวด์ได้ ทำให้การเชื่อมต่อข้อมูลง่าย และทำงานได้อย่างต่อเนื่องซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญ ในการดำเนินธุรกิจ สะดวกในการเคลื่อนย้ายข้อมูลไปไว้บนคลาวด์ ด้วยระยะเวลาในการเคลื่อนย้ายที่รวดเร็วกว่า

สิ่งที่ผู้ประกอบการมองหาเพื่อตอบโจทย์เทรนด์การทำงานแบบใหม่

อย่างไรก็ตาม ดีแทคพบว่า สิ่งที่ผู้ประกอบการกำลังมองหาเพื่อตอบโจทย์เทรนด์การทำงานที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว พร้อมความมั่นใจไร้กังวลในการจัดการและจัดเก็บข้อมูล คือ

1.แพลตฟอร์มของเครือข่าย หรือการบริการเครือข่าย ซึ่งจะช่วยให้การสร้างเครือข่ายและ การจัดการข้อมูลง่ายดายมากขึ้น

2.ความเฉพาะของแอปพลิเคชัน (application specific) หรือ โซลูชันทางเครือข่ายที่ลูกค้าสามารถระบุได้ว่า ควรใช้แอปพลิเคชันใดก่อนเป็นลำดับแรก

3. เทคโนโลยีเครือข่ายแบบใหม่ ที่ถูกออกแบบให้มีความรวดเร็วมากขึ้น

สมาร์ทคอนเน็ค โดยเน็ตฟาวดรี่ สมาร์ทคอนเน็ค เหมาะกับองค์กรที่กำลังมองหาคลาวด์โซลูชัน เพื่อตอบโจทย์เทรนด์การทำงานที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว พร้อมความมั่นใจไร้กังวลในการจัดการและจัดเก็บข้อมูล โดยมีข้อดีคือ

1.มั่นใจได้ ไม่ต้องกลัวข้อมูลรั่วไหล ด้วยระบบรักษา ความปลอดภัยข้อมูลถึง 5 ชั้น ซึ่งถูกใช้ในกองทัพของ สหรัฐอเมริกา คลายความกังวลใจไปได้เลย

2.ผู้ใช้บริการยังสามารถลดค่าใช้จ่ายได้สูงถึง 40 -80 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับบริการเครือข่าย แบบดั้งเดิม

3.เชื่อมต่อเข้าถึงผู้ให้บริการคลาวด์ทุกรายในระดับโลกได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็น AWS, Azure, Google Cloud, Ali Cloud หรืออื่น ๆ อีกมากมาย ช่วยให้ผู้ใช้งานได้รับประสบการณ์การใช้งานที่สะดวกสบาย สามารถเข้าถึง ระบบคลาวด์ได้รวดเร็วกว่าเครือข่ายปกติ 8-10 เท่า การเชื่อมต่อแบบตาข่ายข้ามภูมิภาคทุกประเภทสามารถทำได้ โดยไม่จำเป็นต้องมีการกำหนดเส้นทางเฉพาะและข้อจำกัดทางภูมิภาคต่าง ๆ

4. คุณสมบัติของ AppWANs ที่เหนือกว่า VPN คือ การเชื่อมต่อแบบ Multipoint to multipoint หรือที่เรียกกันว่าการ เชื่อมต่อแบบหลายจุดไปสู่หลายจุด ทำให้การจัดการสะดวกและง่ายกว่า VPN ที่มีการเชื่อมต่อแบบ point to point หรือการเชื่อมต่อแบบทีละจุด ทั้งนี้การกำหนดเส้นทางของระบบโดเมนเนม (DNS routing ได้ง่ายยิ่งขึ้น ซึ่งจะไม่สามารถทำได้ผ่านการเชื่อมต่อโดยตรงหรือการเชื่อมต่อจาก VPN แบบเก่า ทำให้สามารถใช้งานแทน VPN หรือ ใช้งานกับ VPN ที่มีอยู่ได้อย่างมีเสถียรภาพมากกว่าเดิม

5.ช่วยเชื่อมต่อกับผู้ให้บริการคลาวด์ได้ไม่สะดุด สามารถสับเปลี่ยนการเชื่อมต่อคลาวด์หรือแอปพลิเคชันได้อย่างลื่นไหล จัดการข้อมูลได้ด้วยตัวเอง สามารถสร้างกลุ่มเฉพาะเพื่อเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันที่ต้องการได้

6. ช่วยลดเวลาในการโยกย้ายข้อมูลจากพื้นที่จัดเก็บเดิมไปสู่คลาวด์


COMMENTS

{{ errors.name }}

{{ errors.value }}

{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}

RELATED TOPICS

Please wait a moment