พณ.ดัน4มาตรการ หนุนดิจิทัลคอนเทนต์

รมว.พาณิชย์ผลักดัน 4 มาตรการหนุนธุรกิจ “ดิจิตอล คอนเท้นท์” ตั้งเป้าทำเงินให้ประเทศกว่าแสนล้านบาทต่อปี

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์และกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศร่วมประชุมแนวทางการส่งเสริมอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนท์ไทยสู่ตลาดโลก โดยมีนายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ พร้อมกับ 6 สมาคมอุตสาหกรรมด้านดิจิทัลคอนเทนท์ ผ่านระบบ Zoom ประชุมออนไลน์เสริมเข้ามาด้วย

โดยนายจุรินทร์ กล่าวว่า ที่ประชุมมีความเห็นร่วมกันว่ากระทรวงพาณิชย์จะเข้ามามีส่วนร่วมสำคัญในการช่วยสนับสนุนให้ภาคธุรกิจนี้เติบโตต่อไปในอนาคตโดยเตรียมมาตรการทั้งหมด 4 เรื่อง

1.ในเรื่องของการที่เราจะช่วยกันสร้างแพลตฟอร์มดิจิทัลคอนเทนท์ไทยแลนด์ขึ้นมา เพื่อเป็นศูนย์รวมข้อมูลและศูนย์รวมการทำธุรกิจทั้งในตลาดในประเทศและตลาดต่างประเทศของภาพยนตร์-ละครแอนิเมชั่น อีสปอร์ต เพลง หรือธุรกิจการ์ตูนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งในเรื่องของการศึกษา หรือ e-learning

2.จะดำเนินการปรับรูปแบบของการจัดนิทรรศการที่ ซึ่งเดิมเราใช้กระบวนการจับคู่ธุรกิจให้ผู้ซื้อจากต่างประเทศเดินทางมาพบกับผู้ขายหรือผู้ผลิตดิจิทัลคอนเทนท์ในประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันสถานการณ์ไม่เอื้ออำนวยจะปรับเปลี่ยนไปในรูปแบบการจับคู่ธุรกิจออนไลน์ให้มากขึ้น ทั้งส่งเสริมตลาดในประเทศและส่งเสริมตลาดในต่างประเทศ โดยจะจัดให้ถี่ขึ้นและโฆษณาประชาสัมพันธ์ให้มากขึ้น เพื่อเปิดโอกาสให้ธุรกิจนี้เติบโตได้เร็วขึ้น

3.ในเรื่องของการที่จะช่วยต่อลมหายใจให้กับธุรกิจดิจิทัลคอนเทนท์ของประเทศไทยเนื่องจากขณะนี้เผชิญกับสถานการณ์โควิดก็ทำให้หลายภาคส่วนติดขัดในเรื่องของการทำธุรกิจ จะช่วยดำเนินการจัดให้ธนาคารของประเทศไทยสามารถช่วยเหลือเงินสนับสนุนในรูปแบบของเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ โดยจะจัดพบปะกันระหว่าง SMEแบงค์ หรือธนาคารอื่นที่เกี่ยวข้องกับผู้ประกอบการด้านดิจิทัลคอนเทนท์ของเราโดยกระทรวงพาณิชย์จะจัดเวทีพบปะให้

4.สำหรับธุรกิจดิจิทัลคอนเทนท์ของไทยที่มีความจำเป็นจะต้องสร้างแบรนด์ของคนไทยขึ้นมาเองเพื่อแทนที่การรับจ้างผลิตเหมือนกับในอดีตที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์จะเข้ามาร่วมมือกับทั้ง 6 สมาคมในการจัดเวทีให้ภาคการผลิตของทั้ง 6 สมาคมได้มีโอกาสพบกับนักลงทุนต่างประเทศที่จะเข้ามาร่วมกันลงทุนกับเราและหน่วยงานภาครัฐที่มีนโยบายสนับสนุนในเรื่องของการทำธุรกิจคอนเทนท์ รวมทั้งในส่วนของกระทรวงพาณิชย์ด้วยเพื่อที่จะให้มีการจับคู่ลงทุนทางธุรกิจนี้ภายใต้แบรนด์ของคนไทยได้อย่างเป็นรูปธรรมต่อไป

โดยธุรกิจที่ทำเกี่ยวกับภาพยนตร์แอนิเมชั่นรวมทั้งการทำโฆษณา เพลง เกม การ์ตูนในหลากหลายรูปแบบต่างๆเป็นต้น มูลค่าของธุรกิจในส่วนนี้รวมกันในแต่ละปีของประเทศไทยตกประมาณ 110,000 ล้านบาท ถือว่าเป็นตัวเลขที่ก้อนใหญ่มากและเป็นไปตามที่กระทรวงพาณิชย์มีนโยบายที่สนับสนุนให้ภาคธุรกิจบริการภาคนี้เติบโตต่อไปในอนาคต เพราะว่าตลาดทั้งในประเทศและตลาดต่างประเทศกว้างใหญ่มาก

รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวอีกว่า ส่วนในวันที่ 25-27 พฤษภาคม 2563 กระทรวงพาณิชย์ก็จะทำกิจกรรมสำคัญเพื่อสนับสนุนธุรกิจดิจิทัลคอนเทนท์ 2 เรื่อง คือ 1.จัดงานแสดงสินค้าที่ใช้ชื่อว่า M.O.V.E หรือย่อมาจาก Multimedia Online Virtual Exhibitionในรูปแบบของการจัดจับคู่ธุรกิจระหว่างผู้ผลิตของประเทศไทยประมาณ 50 บริษัทพบปะกับผู้ซื้อจากต่างประเทศ คาดว่าจะมีผู้เข้ามาพบปะประมาณไม่ต่ำกว่า 1,000 รายในรูปแบบออนไลน์ เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์โควิดคาดว่าจะสามารถทำให้เกิดการจับคู่ซื้อขายทางธุรกิจได้ประมาณ 350 คู่ และสามารถกำหนดยอดขายได้ไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาทโดยประมาณ

2.การจัดสัมมนาแลกเปลี่ยนข้อมูลและความคิดเห็นซึ่งกันและกันทั้งในรูปแบบของการให้ความรู้ในเรื่องของการใช้ความคิดสร้างสรรค์จากประสบการณ์ของคนไทยที่ไปทำงานอยู่ที่แหล่งผลิตที่มีชื่อเสียงของโลก ซึ่งเป็นคนไทยรุ่นใหม่ทั้งสิ้น จะให้ความรู้ผ่านออนไลน์มายังคนรุ่นใหม่ของไทยที่เป็นนักออกแบบ ผู้ที่ทำสตอรี่บอร์ดทำเรื่องราว หรือเป็นผู้ผลิตเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและเทคนิคใหม่ใหม่ให้ได้รับความรู้เพิ่มเติมจะได้มาพัฒนาดิจิทัลคอนเทนท์ในส่วนของธุรกิจส่วนนี้ให้มีการพัฒนาให้ดีขึ้นสำหรับคนไทย


COMMENTS

{{ errors.name }}

{{ errors.value }}

{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}

RELATED TOPICS

Please wait a moment