{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}

บมจ.ไซมิส แอสเสท หรือ SA เผยกระแสตอบรับของ Investment Program พร้อมโมเดลลงทุนในโรงแรม–เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ยังร้อนแรงต่อเนื่อง หลังสามารถตอบโจทย์ Pain Point ของผู้ที่ต้องการลงทุนอสังหาริมทรัพย์เพื่อปล่อยเช่า ทั้งความเสี่ยงหาผู้เช่าไม่ได้ รายได้ผันผวน รวมถึงค่าใช้จ่ายบำรุงรักษาที่คาดเดาได้ยาก โดยโปรแกรมการันตีผลตอบแทน (Yield Guarantee) ที่ 5% ต่อปีตลอด 5 ปี
คุณขจรศิษฐ์ สิ่งสรรเสริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไซมิส แอสเสท จำกัด (มหาชน) (SA) ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร ภายใต้แนวคิด “Asset of Life – สร้างกำไรให้กับทุกการใช้ชีวิต” เปิดเผยว่า Investment Program สำหรับลูกค้าที่ต้องการสร้างรายได้แบบ Passive Income โดยมี Yield Guarantee รับประกันผลตอบแทน 5% ต่อปีตลอด 5 ปี ได้รับการตอบรับดีต่อเนื่อง โดยเฉพาะทำเล สุขุมวิท และพระราม 9 ซึ่งมีดีมานด์ปล่อยเช่าจากต่างชาติสูง และเป็นทำเลที่มียอดการปล่อยเช่าคงที่ตลอดปี ขณะเดียวกันโมเดลบริหารแบบโรงแรมและ Serviced Apartment ของบริษัทฯ ยังช่วยตอบโจทย์นักลงทุนที่ต้องการรายได้สม่ำเสมอ ทำให้ผู้ลงทุนมีสภาพคล่องจากค่าเช่าอย่างต่อเนื่อง
โครงการที่ได้รับความสนใจเป็นพิเศษภายใต้โปรแกรมดังกล่าว ได้แก่ Wyndham Garden Bangkok Sukhumvit 42, Ramada Plaza Residence Sukhumvit 48, Wyndham Bangkok Queen Convention Centre, Blossom Condo @Sathorn-Charoenrat, Ramada By Wyndham Bangkok Sukhumvit 87 และ Landmark At MRTA Station เป็นต้น โดยทั้งหมดอยู่บนทำเลเดินทางสะดวก ใกล้รถไฟฟ้า และมีความต้องการเช่าสูงจากผู้เช่าต่างชาติ
สำหรับโครงการในกลุ่ม Serviced Apartment อย่าง Wyndham Garden Bangkok Sukhumvit 42 ปัจจุบันห้องชุดแบบ 2 ห้องนอนมีค่าเช่าในระดับ 70,000–90,000 บาทต่อเดือน ซึ่งสูงกว่าค่าเช่าคอนโดทั่วไปในทำเลเดียวกันที่อยู่ราว 50,000– 70,000 บาทต่อเดือนอย่างมีนัยสำคัญ
คุณขจรศิษฐ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันตลาดเช่าคอนโดแบบมี Service มีความต้องการเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่ม Expat ซึ่งรวมถึงชาวญี่ปุ่นที่นิยมเลือกเช่าคอนโดที่มีบริการเทียบเท่าโรงแรม ทำให้โมเดล Serviced Apartment ของ SA สามารถตอบโจทย์ตลาดได้อย่างแม่นยำ และเป็นเหตุผลสำคัญของการทำแคมเปญ Investment Program ในครั้งนี้
แม้ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยในช่วงที่ผ่านมาอยู่ในภาวะฟื้นตัวช้า แต่ปัจจัยสนับสนุนจากภาครัฐ เช่น มาตรการลดค่าธรรมเนียมโอน–จำนอง และการผ่อนเกณฑ์ LTV ไปจนถึงกลางปี 2569 รวมถึงแนวโน้มดอกเบี้ยในประเทศที่อาจปรับลดลง ล้วนส่งผลดีต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค โดยเฉพาะกลุ่มนักลงทุน เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านเฉลี่ยปัจจุบันไม่ถึง 3% ขณะที่ผลตอบแทนค่าเช่าของโปรแกรมอยู่ราว 5% ทำให้ผู้ลงทุนจึงมีกระแสเงินสดสุทธิเป็นบวกตั้งแต่ปีแรกที่ลงทุน
COMMENTS
{{ errors.name }}
{{ errors.value }}
{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
RELATED TOPICS