{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}

คิง เพาเวอร์ เดินหน้าสนับสนุนเศรษฐกิจชุมชนไทยและยกระดับคุณค่าของงานคราฟต์ท้องถิ่นสู่ความยั่งยืน ผ่านงาน KING POWER CELEBRATION 2026 THE POWER GIFTIVAL ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ชู Giftival Market และ Thai Workshop ภายใต้แนวคิด “เรียนรู้–ลงมือทำ–เข้าใจคุณค่า” ผสานหลักคิด Circular Design ตอบโจทย์เทรนด์ของขวัญปีใหม่ที่ให้ความหมายและสนับสนุนงานฝีมือไทย พร้อมไฮไลท์ “ต้นคริสต์มาสสไตล์ไทยโมเดิร์น” ที่ตกแต่งด้วยผ้าขาวม้าและงานคราฟต์จากชุมชนทั่วประเทศ สะท้อนพลังการเชื่อมโยงวัฒนธรรม ชุมชน และเศรษฐกิจสร้างสรรค์ในช่วงเทศกาลปลายปีนี้

ปีนี้ คิง เพาเวอร์ ให้ความสำคัญกับการยกระดับความยั่งยืนของชุมชนไทย ผ่านการใช้ทรัพยากรท้องถิ่นอย่างมีคุณค่า การพัฒนาทักษะด้านการออกแบบร่วมสมัย การสร้างรายได้กลับสู่ท้องถิ่น และเปิดโอกาสให้ชุมชนได้เข้าถึงตลาดใหม่ ๆ บนพื้นที่จริงภายในงาน ผ่านการจัด Giftival Market ตั้งแต่วันนี้ – 4 มกราคม 2569 เพื่อให้ลูกค้าเลือกซื้อของขวัญที่สะท้อนอัตลักษณ์ไทย พร้อมช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากอย่างเป็นรูปธรรม

หนึ่งในสัญลักษณ์สำคัญของงานปีนี้คือ “ต้นคริสต์มาสแห่งการเชื่อมโยง” ที่ถ่ายทอดความร่วมมือระหว่าง คิง เพาเวอร์ และชุมชน ผ่านงานฝีมือกว่า 10,000 ชิ้น จากหลายจังหวัด เช่น ตุงไส้หมูและตุงไส้หมูแวววาวจากจังหวัดเชียงใหม่ ตุงผ้า 12 นักษัตรและผ้าขาวม้าจากจังหวัดราชบุรี รวมถึงตุ๊กตาม้าจากจังหวัดมหาสารคาม ซึ่งต่างสะท้อนภูมิปัญญา และทักษะฝีมืออันละเอียดประณีตของชุมชนไทยอย่างทรงพลัง

งานปีนี้ยังเปิดโอกาสให้ลูกค้าได้สัมผัส Craft ไทยจากแหล่งกำเนิดภูมิปัญญา ผ่าน Thai Workshop ระหว่างวันที่ 18–28 ธันวาคม 2568 เวลา 12:00–17:00 น. โดยผู้ประกอบการจาก 6 ชุมชนร่วมถ่ายทอดทักษะอย่างใกล้ชิด เช่น การประดิษฐ์ “ม้าโชคดี” จากเศษผ้าขาวม้าของแบรนด์ Pahkahmah Thailand, เพ้นท์พวงกุญแจจาก Nineshop99, ทำเครื่องประดับเงินกับช่างฝีมือจาก ดอยซิลเวอร์ จังหวัดน่าน, ประกอบสร้อยไข่มุกจาก PRIMA PEARL, เพ้นท์เซรามิกศิลาดลจาก เชียงใหม่ ศิลาดล และประดิษฐ์เครื่องประดับหินจากบ้านช้างดีไซน์ จังหวัดชลบุรี

การเปิดพื้นที่ให้ชุมชนได้ “เล่าเรื่องด้วยตัวเอง” คือหัวใจสำคัญของงานปีนี้ เพราะเสียงจากผู้ประกอบการสะท้อนถึงผลลัพธ์ด้านความยั่งยืนที่จับต้องได้ ทั้ง Giftival Market และ Thai Workshop จึงเป็นพื้นที่สร้างโอกาสที่เชื่อมงานฝีมือไทยเข้ากับตลาดจริง เปิดช่องทางให้ชุมชนเข้าถึงผู้บริโภคโดยตรง เพิ่มรายได้ พัฒนาทักษะด้านการออกแบบ และต่อยอดคุณค่าทางวัฒนธรรมได้อย่างเป็นรูปธรรม ขณะเดียวกันยังช่วยผลักดัน Craft ไทยให้ตอบโจทย์เทรนด์ความยั่งยืนของลูกค้ายุคใหม่ได้อย่างลงตัว



COMMENTS
{{ errors.name }}
{{ errors.value }}
{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
RELATED TOPICS