STIยันโควิด-19กระทบน้อย

สโตนเฮ้นจ์ อินเตอร์ ประเมินสถานการณ์โควิด-19 กระทบธุรกิจไม่มาก เผยปี 63 ยังแข็งแกร่ง ชูงานในมือ เป็นงานโครงการขนาดใหญ่ และเดินหน้าทยอยส่งมอบตามแผน

นายสมเกียรติ ศิลวัฒนาวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สโตนเฮ้นจ์ อินเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ STI เปิดเผยว่า สถานการณ์ไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 (โควิด-19) ที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนและภาพรวมเศรษฐกิจทั่วโลก ยังไม่ส่งกระทบต่อกลุ่มบริษัทมากนัก เพราะงานในมือของ STI เป็นโครงการขนาดใหญ่ที่ต้องเดินหน้าตามแผน และได้เตรียมกลยุทธ์รองรับสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด ทำให้ทิศทางไตรมาส 1/2563 ยังเป็นไปตามที่ทีมบริหารประเมินไว้ ขณะเดียวกัน เชื่อว่าปีนี้จะมีเม็ดเงินลงทุนที่ออกมาจากภาครัฐจำนวนมากตามนโยบายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในงานโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ อีกทั้ง ปัจจัยบวกจากการเข้าลงทุนในบริษัท เอเชี่ยน เอ็นจิเนียริ่งฯ จะช่วยสนับสนุนความมั่นคงของรายได้ให้สโตนเฮ้นจ์ กรุ๊ป เติบโตในปี 2563 ได้อย่างมีนัยสำคัญ

โดยในปี 2563 บริษัทยังคงเดินหน้าเติบโตตามแผน จากปัจจุบันมีงานในมือที่แข็งแกร่ง (Backlog) กว่า 2,000 ล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ในปีนี้ประมาณ 35-40% ของมูลค่างานในมือ และแบ่งเป็นสัดส่วนงานภาคเอกชน 76% งานภาครัฐบาล 24% ซึ่งเป็นการบริหารงานโครงการขนาดใหญ่หลากหลายประเภทท สามารถเดินหน้าตามแผนการที่วางไว้ ได้แก่ โครงการ One Bangkok โครงการ The PARQ โครงการปรับปรุงศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โครงการพัฒนาพื้นที่หมอน 33 หรือบล็อก 33 โครงการศูนย์กระจายสินค้า ของกลุ่มเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ และโครงการควบคุมการก่อสร้างโครงการพัฒนาพื้นที่ส่วนขยาย ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 โซน C เป็นต้น

ทั้งนี้ STI ได้ตั้งเป้าหมายรายได้ในปี 2563 จะเติบโต 10% เมื่อเทียบกับปี 2562 สามารถทำผลงานได้อย่างโดดเด่น มีรายได้จากการให้บริการ 712.3 ล้านบาท กำไรสุทธิอยู่ที่ 85.5 ล้านบาท สาเหตุหลักจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการให้บริการ การเพิ่มขึ้นของปริมาณงาน โดยเฉพาะงานที่มีกำไรขั้นต้นสูงขึ้น และจากการบริหารจัดการต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับพนักงานที่ดีขึ้น ส่วนอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ในระดับสูงที่ 33.7% และอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 11.8%

สำหรับเป้าหมายดังกล่าวยังไม่นับรวมการรับรู้รายได้ของบริษัท เอเชี่ยน เอ็นจิเนียริ่ง คอนซัลแต้นส์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่ STI ได้ประกาศเข้าไปลงทุนซื้อหุ้นในช่วงกลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา และ คาดการณ์ว่าจะทำรายการแล้วเสร็จภายในไตรมาส 2 ปีนี้ เข้ามาสนับสนุนงบการเงินรวมของสโตนเฮ้นจ์ กรุ๊ป ให้เติบโตอย่างก้าวกระโดด และสามารถขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มงานภาครัฐได้อย่างแข็งแกร่ง

อนึ่งคณะกรรมการบริษัท อนุมัติการจ่ายปันผลเป็นเงินสดจากกำไรสุทธิงวดปี 2562 ในอัตรา 0.25 บาทต่อหุ้น กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) 7 พฤษภาคม 2563 และวันที่จ่ายปันผล 27 พฤษภาคม 2563 ทั้งนี้ สิทธิในการรับเงินปันผลอยู่ในระหว่างการนำเสนอขออนุมัติจากการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 28 เมษายน 2563


COMMENTS

{{ errors.name }}

{{ errors.value }}

{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}

RELATED TOPICS

Please wait a moment