กองทุน X-NUCTECH ผ่านแค่ 3 เดือนสินทรัพย์สุทธิโตกว่า 703% ผลตอบแทน 31.91%

XSpring AM เปิดอินไซด์กองทุน X-NUCTECH กองทุนเปิดที่ลงทุนในนิวเคลียร์และยูเรเนียม หลังเปิดกองเกือบ 3 เดือนสร้างผลตอบแทนในรูปเงินบาท 31.91% ผลตอบแทนในรูปแบบสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ 39.32% ขนาดสินทรัพย์สุทธิรวมเติบโต 703.77%

นายยศกร ฟอลเล็ต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็กซ์สปริง จำกัด หรือ XSpring AM เปิดเผยว่า ปี 2568 นี้ ถือเป็นปีที่สินทรัพย์ทางเลือกในการลงทุนได้รับการตอบรับอย่างคึกคัก เนื่องจากเป็นปีที่อัตราดอกเบี้ยนโยบายเป็นช่วงขาลง นักลงทุนส่วนหนึ่งจึงโยกเงินฝากไปสู่สินทรัพย์อื่นที่ให้ผลตอบแทนสูง รวมถึงโยกเงินมาลงทุนในกองทุนรวมประเภทต่าง ๆ ซึ่งคาดว่าเทรนด์นี้จะยังคงดำเนินต่อเนื่องไปจนถึงปี 2569 ส่งผลให้หลายกองทุนเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ อย่างไรก็ดี XSpring AM พบว่ากองทุนที่เติบโตโดดเด่นที่สุดในปีนี้ คือ กองทุนเปิดเอ็กซ์สปริงเทคโนโลยีพลังงานนิวเคลียร์และยูเรเนียม (X-NUCTECH) จากข้อมูลเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2568 พบว่ามีสินทรัพย์กว่า 371 ล้านบาท เติบโตขึ้นในแง่ของขนาดสินทรัพย์สุทธิที่ 703.77 % หรือประมาณ 8.03 เท่า สะท้อนถึงความนิยมและความไว้วางใจของนักลงทุนที่มีให้กับกอง X-NUCTECH ตลอดมานับตั้งแต่หลังการเสนอขายกองทุนครั้งแรก เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2568 ที่มีมูลค่าสินทรัพย์สุทธิเพียง 46 ล้านบาท

ไม่เพียงเท่านี้ กองทุน X-NUCTECH ยังสร้างผลตอบแทนจากมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวม (Net Asset Value : NAV) ได้ถึง 31.91% (ก่อนหักลบกับค่าธรรมเนียมการขาย หรือ front-end fee ) ทั้งนี้ หากนับตั้งแต่วันจัดตั้งกองทุนรวม พบว่ากองทุนทำผลงานได้ 39.32% ในรูปแบบสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ยึดตามกองทุนหลักที่ X-NUCTECH ไปเข้าลงทุน คือ VanEck Uranium and Nuclear Technologies UCITS ETF A USD Acc (NUCL) สาเหตุสำคัญที่ทำให้มีความแตกต่างระหว่างกองทุนหลักและกองทุนไทย เกิดจากค่าสกุลเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ผลงานของกองทุนไทยลดลง แต่คาดว่าหลังจากนี้สถานการณ์ค่าเงินจะดีขึ้นตามลำดับ อย่างไรก็ดี กองทุนหลักที่เข้าไปลงทุนก็มีความน่าสนใจอย่างมาก โดยจากต้นปีจนถึงปัจจุบัน (YTD) สร้างผลตอบแทนสูงถึง 94.17% (ณ วันที่ 6 ตุลาคม 2568)

นอกจากนี้ยังพบว่าแนวโน้มผลตอบแทนของกองทุนหลักของ X-NUCTECH ยังมีโอกาสเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยหากพิจารณาผลงานย้อนหลังในปี 2565 ทำผลงานได้ 3.71% แต่เพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่นในปี 2566 ที่ทำผลงานได้ 39.20% และปี 2567 ทำผลงานได้ประมาณ 30% ซึ่งถือว่าแนวโน้มยังเติบโตในระดับสูง โดยมองว่ามาจากปัจจัยความต้องการพลังงานในยุคปัจจุบันเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ในขณะที่พลังงานทดแทนประเภทอื่นยังไม่สามารถสร้างประสิทธิภาพทดแทนได้เท่าพลังงานนิวเคลียร์ ทำให้เกิดความต้องการอย่างมาก และกลับมาอยู่ในความสนใจของตลาดอีกครั้งหนึ่ง ทำให้ผลงานของกองทุนหลักปรับเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในปีนี้