ศุลกากร ผนึก การท่าเรือฯ ยกระดับนวัตกรรมความปลอดภัยสู่มาตรฐานสากล

กรมศุลกากรร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) กับการท่าเรือแห่งประเทศไทย ว่าด้วยการเชื่อมต่อข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์จากระบบตรวจสอบตู้คอนเทนเนอร์ด้วยเครื่องเอกซเรย์ โครงการพัฒนาระบบ Scanning เพื่อยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยของท่าเรือให้ได้มาตรฐานสากลตาม ISPS Code โดยมีนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง และนางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ร่วมเป็นสักขีพยาน ณ ห้องประชุมชั้น 19 การท่าเรือแห่งประเทศไทย

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า บันทึกความเข้าใจครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของภาครัฐและเอกชนในการบูรณาการข้อมูลและเทคโนโลยี เพื่อยกระดับการบริหารจัดการด้านโลจิสติกส์ของประเทศไทยให้มีมาตรฐานสากล เสริมสร้างความปลอดภัยและความโปร่งใสของระบบการค้า สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน ผู้ประกอบการ และคู่ค้าระหว่างประเทศ เกี่ยวกับการมีระบบท่าเรือ ที่ทันสมัยของประเทศไทย พร้อมก้าวสู่การเป็น “ศูนย์กลางด้านการค้าและโลจิสติกส์ของภูมิภาค” อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้ง ก่อให้เกิดประโยชน์เชิงนโยบายต่อประเทศชาติ และช่วยสร้างรากฐานที่มั่นคงต่อการพัฒนาทางเศรษฐกิจในระยะยาว

นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า นับ เป็นก้าวสำคัญของการบูรณาการเชื่อมโยงข้อมูล การพัฒนาศักยภาพด้านโลจิสติกส์ และการศุลกากรของประเทศ เพื่อยกระดับการให้บริการและการรักษาความปลอดภัยของท่าเรือไทยให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล มีความโปร่งใส รวดเร็ว แม่นยำ สอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงคมนาคมในการขับเคลื่อนระบบโลจิสติกส์ของไทยให้มีประสิทธิภาพ ทันสมัย และสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยให้กับผู้ประกอบการ นักลงทุน ตลอดจนภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้อง อันจะนำไปสู่การเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจของประเทศอย่างยั่งยืน

นายธีรัชย์ อัตนวานิช อธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยว่า ความร่วมมือครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุน และอำนวยความสะดวกในขั้นตอนการตรวจสอบสินค้าที่บรรจุอยู่ในตู้คอนเทนเนอร์สินค้าในพื้นที่ท่าเรือ ตามกฎหมายและอำนาจหน้าที่ของกรมศุลกากร โดยกรมศุลกากรและการท่าเรือแห่งประเทศไทยจะร่วมกันบูรณาการ การใช้เทคโนโลยี เพื่อกำหนดแนวทางและมาตรฐานการเชื่อมต่อข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงกำหนดการเข้าถึง และการใช้ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ตามโครงการพัฒนาระบบ Scanning เพื่อยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยของท่าเรือให้ได้มาตรฐานสากลตาม ISPS Code

สำหรับการเชื่อมต่อข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ตามบันทึกความเข้าใจฉบับนี้จะเริ่มดำเนินการ ณ ท่าเรือแหลมฉบัง เป็นแห่งแรก และขยายผลไปยัง ท่าเรือกรุงเทพ รวมถึงท่าเรืออื่น ๆ ของการท่าเรือแห่งประเทศไทยในอนาคต

โดยกรมศุลกากรจะจัดทำและพัฒนาระบบการเชื่อมต่อข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อเรียกดูข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ที่ได้จากการดำเนินโครงการจากการท่าเรือแห่งประเทศไทย และเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย พร้อมการกำหนดระดับสิทธิที่เหมาะสมสำหรับการเข้าถึง และใช้ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติหน้าที่ของกรมศุลกากร

ด้านนายเกรียงไกร ไชยศิริวงศ์สุข ผู้อำนวยการ กทท. กล่าวเพิ่มเติมว่า การลงนาม MOU ครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับความปลอดภัยทางทะเลและระบบท่าเรือไทยให้ทัดเทียมมาตรฐานสากล ภายใต้ข้อกำหนดของ ISPS Code (International Ship and Port Facility Security Code) สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ประกอบการ นักลงทุน และพันธมิตรทางการค้า ขณะเดียวกันยังสะท้อนวิสัยทัศน์เชิงกลยุทธ์ของ กทท. และกรมศุลกากร ที่นำเทคโนโลยีและความร่วมมือระหว่างหน่วยงานมาเป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนความปลอดภัยทางทะเลและยกระดับระบบโลจิสติกส์ของประเทศ เป็นการบูรณาการศักยภาพของ กทท. และกรมศุลกากร โดย กทท. จะพัฒนาระบบเชื่อมต่อข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ที่มีความปลอดภัยสูง เพื่อนำไปใช้ในการเชื่อมโยงข้อมูลสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพ โปร่งใส ลดขั้นตอนที่ซ้ำซ้อน และมีความแม่นยำมากยิ่งขึ้น โดยจะเริ่มดำเนินการที่ท่าเรือแหลมฉบัง ซึ่งเป็นท่าเรือหลักด้านการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศเป็นแห่งแรก และจะขยายสู่ท่าเรือกรุงเทพ และท่าเรืออื่น ๆ ของ กทท. ในอนาคต


COMMENTS

{{ errors.name }}

{{ errors.value }}

{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}

RELATED TOPICS

Please wait a moment