กรมศุลกากรจับกุมสิ่งผิดกฎหมายในเดือนกรกฎาคม มูลค่ากว่า 460 ล้านบาท

กรมศุลกากรแถลงผลการจับกุมการลักลอบนำเข้าและส่งออกสินค้าผิดกฎหมาย ภายใน เดือนกรกฎาคม 2568 อาทิ ยาเสพติด บุหรี่ไฟฟ้า บุหรี่ต่างประเทศ และสินค้าอื่น ๆ มูลค่ากว่า 460 ล้านบาท

นายพันธ์ทอง ลอยกุลนันท์ ที่ปรึกษาด้านการพัฒนาและบริหารการจัดเก็บภาษี ในฐานะโฆษกกรมศุลกากร เปิดเผยว่า ตลอดเดือนกรกฎาคม 2568 กรมศุลกากรเร่งดำเนินการปราบปรามการลักลอบนำเข้าและส่งออกสินค้าผิดกฎหมาย พร้อมยึดของกลางในคดีสำคัญหลายรายการ คิดเป็นมูลค่ารวม 460.42 ล้านบาท โดยมีรายละเอียดดังนี้

1. ยาเสพติด

เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2568 กรมศุลกากร โดยสำนักงานศุลกากรตรวจสินค้าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ทำการตรวจสอบสินค้าตามใบขนสินค้าขาออกปลายทางประเทศออสเตรเลีย มีลักษณะต้องสงสัย สำแดงเป็น เสื้อกั๊กเซฟตี้ ชุดคลุมฝน เจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจค้น พบถุงสีน้ำตาล ซุกซ่อนอยู่ใต้สิ่งของที่สำแดง เมื่อเปิดออกพบเป็นเกล็ดผลึกสีขาว จึงทดสอบด้วยน้ำยา Marquis Reagent และเครื่อง Handheld Raman Spectrometer ผลทดสอบเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ไอซ์ (Methamphetamine) น้ำหนักรวม 120 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 36 ล้านบาท

ต่อมา เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 กรมศุลกากร โดยสำนักงานศุลกากรหนองคาย และเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ประจำด่านพาสีสากลท่าบก - ท่านาแล้ง และขัวมิตรภาพ 1 และเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองสากล ขัวมิตรภาพ 1 สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ได้ตรวจสอบรถบรรทุกที่เข้ามาในราชอาณาจักรไทย ณ ด่านพรมแดนหนองคาย พบกระเป๋าสัมภาระ 10 ใบ ซุกซ่อนอยู่ในช่องเก็บของบนหลังคารถ ภายในพบยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวน 996,000 เม็ด มูลค่าประมาณ 30 ล้านบาท

นอกจากนี้ ยังตรวจยึด ยาเสพติดประเภทอื่น ในเดือนกรกฎาคม 2568 อาทิ เฮโรอีน โคเคน รวมมูลค่าทั้งหมด 315.68 ล้านบาท สำหรับในปีงบประมาณ 2568 (1 ตุลาคม 2567 ถึง 31 กรกฎาคม 2568) กรมศุลกากรมีสถิติการจับกุมยาเสพติด ทั้งสิ้น 193 คดี มูลค่ารวม 1,262.31 ล้านบาท

2. บุหรี่ไฟฟ้า

เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2568 กรมศุลกากร โดยด่านศุลกากรปาดังเบซาร์ เข้าตรวจค้นรถยนต์กระบะบรรทุก ณ ด่านพรมแดนปาดังเบซาร์ พบบุหรี่ไฟฟ้าใช้แล้วทิ้ง จำนวน 7,560 ชิ้น และหัวบุหรี่ไฟฟ้าพร้อมน้ำยา จำนวน 3,600 ชิ้น รวมมูลค่ากว่า 5 ล้านบาท

สำหรับในเดือนกรกฎาคม กรมศุลกากรจับกุมบุหรี่ไฟฟ้า มูลค่ากว่า 18 ล้านบาท ทั้งนี้ ตั้งแต่ต้นปีงบประมาณ 2568 จนถึงปัจจุบัน (1 ตุลาคม 2567 – 31 กรกฎาคม 2568) สามารถตรวจยึด บุหรี่ไฟฟ้าและบุหรี่ต่างประเทศ ทั้งสิ้น 545 คดี รวมมูลค่า 139.82 ล้านบาท

3. บุหรี่ต่างประเทศ

เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2568 กรมศุลกากร โดยสำนักงานศุลกากรภาคที่ 4 ร่วมกับ ด่านศุลกากรสงขลาและกองสืบสวนและปราบปราม ร่วมกันเข้าตรวจค้นจุดต้องสงสัยในพื้นที่รับผิดชอบ

ซึ่งเป็นโกดังรกร้างไม่มีเลขที่ในตำบลควนขนุน อำเภอเขาชัยสน จังหวัดพัทลุง เนื่องจากต้องสงสัยว่า อาจมีการลักลอบขนย้ายสินค้าที่ยังไม่ได้เสียภาษีอากร และไม่ผ่านพิธีศุลกากรโดยถูกต้อง จากการตรวจค้น พบบุหรี่ต่างประเทศ จำนวน 804,800 มวน รวมมูลค่า 4 ล้านบาท

สำหรับในเดือนกรกฎาคม กรมศุลกากรจับกุมบุหรี่ต่างประเทศ มูลค่ากว่า 16 ล้านบาท และตั้งแต่ ต้นปีงบประมาณ 2568 จนถึงปัจจุบัน (1 ตุลาคม 2567 – 31 กรกฎาคม 2568) สามารถตรวจยึด บุหรี่ต่างประเทศ ทั้งสิ้น 1,914 คดี รวมมูลค่า 248.57 ล้านบาท

4. สินค้าละเมิดเครื่องหมายการค้า

เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2568 กรมศุลกากร โดยกองสืบสวนและปราบปราม ตรวจสอบโกดัง เก็บสินค้าในเขตพื้นที่หนองแขม กรุงเทพมหานคร พบสินค้าละเมิดเครื่องหมายการค้า ได้แก่ ของเล่นเด็ก สเก็ตบอร์ด และอื่นๆมีเมืองกำเนิดต่างประเทศ เบื้องต้นไม่มีเอกสารหลักฐานการผ่านพิธีการทางศุลกากร รวมมูลค่า 3.4 ล้านบาท

ต่อมาเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 กรมศุลกากร โดยกองสืบสวนและปราบปราม ตรวจสอบสินค้าขาเข้าจากประเทศจีน พบสินค้าที่ไม่ได้สำแดงในรายการซึ่งเป็นสินค้าละเมิดเครื่องหมายการค้า ได้แก่ หมวก จำนวน 360 ใบ และกล่องนาฬิกา จำนวน 1,440 ชิ้น รวมมูลค่า 1.2 ล้านบาท

นอกจากนี้ ในเดือนกรกฎาคม 2568 กรมศุลกากร ยังตรวจพบสินค้าละเมิดเครื่องหมายการค้าอื่น ๆ รวมมูลค่าทั้งหมด ประมาณ 30.81 ล้านบาท

โฆษกกรมศุลกากรกล่าวว่า นอกจากสินค้าดังกล่าวข้างต้น กรมศุลกากรยังพบการลักลอบ นำเข้า – ส่งออกสินค้าเกษตร เช่น อะโวคาโดสดที่มีถิ่นกำเนิดจากต่างประเทศจำนวนมาก ซึ่งเป็นสินค้าที่ต้องมีใบอนุญาตและผ่านการตรวจสอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยตั้งแต่ต้นปีงบประมาณ 2568 (1 ตุลาคม 2567 – 31 กรกฎาคม 2568) กรมศุลกากรได้ตรวจยึดสินค้าเกษตรแล้วทั้งสิ้น 2,320 คดี รวมมูลค่า 383.40 ล้านบาท


COMMENTS

{{ errors.name }}

{{ errors.value }}

{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}

RELATED TOPICS

Please wait a moment