ทางหลวงชนบทในภาคเหนือสัญจรผ่านไม่ได้ 8 เส้น ส่งเจ้าหน้าที่ดูแล

กรมทางหลวงชนบท เผยสถานการณ์อุทกภัยบนถนนทางหลวงชนบท 2 จังหวัด ในพื้นที่ภาคเหนือ พบสัญจรผ่านไม่ได้ 8 สายทาง พร้อมเร่งระดมกำลังเจ้าหน้าที่ติดตั้งป้ายเตือน/ป้ายบอกระดับน้ำ เพื่อให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการสัญจร เป็นการอำนวยความสะดวกปลอดภัยให้กับผู้ใช้ทางจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย

นายมนตรี เดชาสกุลสม อธิบดีกรมทางหลวงชนบท เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ฝนตกหนักต่อเนื่องตลอดทั้งวันด้วยอิทธิพลของพายุโซนร้อนวิภา ส่งผลให้ในหลายจังหวัดของประเทศไทยได้รับผลกระทบ ซึ่งเมื่อวันที่ 23 ก.ค. 68 เวลา 15.00 น. สำนักบำรุงทาง กรมทางหลวงชนบท ได้รายงานสายทางที่ได้รับผลกระทบในปัจจุบันรวมทั้งสิ้น 17 สายทาง ใน 6 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดน่าน จังหวัดพะเยา จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดแพร่ จังหวัดตาก และจังหวัดอุบลราชธานี จึงได้สั่งการไปยังสำนักงานทางหลวงชนบท (สทช.) ที่กำกับดูแลในพื้นที่จังหวัดที่ได้รับผลกระทบ ได้แก่ สทช.ที่ 10 (เชียงใหม่) สทช.ที่ 8 (นครสวรรค์) และ สทช.ที่ 7 (อุบลราชธานี) ให้เร่งเข้าดำเนินการปิดเส้นทางการคมนาคมสัญจร พร้อมติดตั้งป้ายเตือน และติดตั้งอุปกรณ์อำนวยความปลอดภัย จัดเจ้าหน้าที่ลาดตระเวน เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวก ความปลอดภัยให้กับประชาชนในพื้นที่ รวมทั้งบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายกลับสู่สภาวะปกติต่อไป

อธิบดี ทช. กล่าวต่อไปว่า สำหรับสายทางหลวงชนบทที่ได้รับผลกระทบขณะนี้ พบสัญจรผ่านไม่ได้ จำนวน 8 สายทาง และสัญจรผ่านได้ จำนวน 9 สายทาง ดังนี้

- สัญจรผ่านไม่ได้ จำนวน 8 สายทาง แบ่งเป็นในพื้นที่จังหวัดน่าน จำนวน 6 สายทาง และจังหวัดพะเยา จำนวน 2 สายทาง ได้แก่

1. ถนนทางหลวงชนบทสาย นน.3007 แยก ทล.101 (กม.ที่ 398+942) - บ้านนาหนุน อำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน (ช่วง กม.ที่ 8+700 - 10+000) ระดับน้ำสูง 100 ซม.

2. ถนนทางหลวงชนบทสาย นน.3019 แยก ทล.101 (กม.ที่ 372+693) อำเภอภูเพียง จังหวัดน่าน (ช่วง กม.ที่ 7+000 - 8+000) ระดับน้ำสูง 200 ซม.

3. ถนนทางหลวงชนบทสาย นน.4020 แยก ทล.1168 (กม.ที่ 0+700) - บ้านห้วยสอน อำเภอภูเพียง, เวียงสา จังหวัดน่าน (ช่วง กม.ที่ 31+690 - 32+200) ระดับน้ำสูง 200 ซม.

4. ถนนทางหลวงชนบทสาย นน.4022 แยก ทล.1148 (กม.ที่ 2+086) - บ้านสบขุ่น อำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน (ช่วง กม.ที่ 1+100 - 1+300) ระดับน้ำสูง 50 ซม.

5. ถนนเชิงลาดสะพานหัวเวียงเหนือ - น้ำต้วนพัฒนา (สาย นน.021) อำเภอภูเพียง จังหวัดน่าน (ช่วง กม.ที่ 0+000 - 0+300) ระดับน้ำสูง 100 ซม.

6. ถนนเชิงลาดสะพานศรีภูมิพัฒนา (สาย นน.011) อำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน (ช่วง กม.ที่ 0+000 - 0+300) ระดับน้ำสูง 200 ซม.

7. ถนนทางหลวงชนบทสาย พย.4017 แยก ทล.1251 (กม.ที่ 16+800) - บ้านบุญเรือง อำเภอดอกคำใต้ จังหวัดพะเยา (ช่วง กม.ที่ 0+300 - 2+000) ระดับน้ำสูง 20 ซม.

8. ถนนทางหลวงชนบทสาย พย.4031 แยก ทล.1021 (กม.ที่ 78+300) - บ้านดอยอิสาน อำเภอภูซาง, เชียงคำ จังหวัดพะเยา (ช่วง กม.ที่ 0+300 - 0+650) ระดับน้ำสูง 60 ซม.

- สัญจรผ่านได้ จำนวน 9 สายทาง แบ่งเป็นในพื้นที่จังหวัดพะเยา 4 สายทาง, จังหวัดเชียงใหม่ 1 สายทาง, จังหวัดแพร่ 1 สายทาง, จังหวัดน่าน 1 สายทาง, จังหวัดอุบลราชธานี 1 สายทาง และจังหวัดตาก 1 สายทาง ได้แก่

1. ถนนทางหลวงชนบทสาย พย.4010 แยก ทล.1021 (กม.ที่ 79+200) - บ้านม่วงชุม อำเภอภูซาง จังหวัดพะเยา (ช่วง กม.ที่ 2+100 - 2+200)

2. ถนนทางหลวงชนบทสาย พย.4012 แยก ทล.1021 (กม.ที่ 60+350) - บ้านจำบอน อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา (ช่วง กม.ที่ 8+000 - 8+200)

3. ถนนทางหลวงชนบทสาย พย.4032 แยก ทล.1093 (กม.ที่ 11+150) - บ้านแกใหม่ อำเภอภูซาง จังหวัดพะเยา (ช่วง กม.ที่ 7+000 - 7+100)

4. ถนนทางหลวงชนบทสาย พย.4033 แยก ทล.1292 (กม.ที่ 26+700) - บ้านหนองบัวเงิน อำเภอจุน จังหวัดพะเยา (ช่วง กม.ที่ 5+500 - 5+700)

5. ถนนทางหลวงชนบทสาย ชม.3018 แยก ทล.108 (กม.ที่ 35+150) - บ้านกิ่วแลป่าเป้า อำเภอดอยหล่อ จังหวัดเชียงใหม่ (ช่วง กม.ที่ 11+730 - 11+740)

6. ถนนทางหลวงชนบทสาย พร.6040 บ้านน้ำพุสูง - บ้านแม่แรม อำเภอร้องกวาง, สอง จังหวัดแพร่ (ช่วง กม.ที่ 5+280 - 6+150)

7. ถนนทางหลวงชนบทสาย นน.3023 แยก ทล.101 (กม.ที่ 446+600) - บ้านกอก อำเภอเชียงกลาง จังหวัดน่าน (ช่วง กม.ที่ 6+700 - 15+100)

8. ถนนทางหลวงชนบทสาย อบ.4038 แยก ทล.2170 (กม.ที่ 0+800) - บ้านพิบูลมังสาหาร อำเภอพิบูลมังสาหาร, สิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี (ช่วง กม.ที่ 18+000 - 18+200)

9. ถนนทางหลวงชนบทสาย ตก.3050 ถนนพัฒนานครแม่สอด อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก (ช่วง กม.ที่ 5+250 - 5+300)

อย่างไรก็ตาม ทช. ยังได้มีการจัดเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนติดตามระดับน้ำในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ และเฝ้าระวังถนนในโครงข่ายทางหลวงชนบทในภูมิภาคอื่น ๆ ทั่วประเทศควบคู่กันไปด้วยอย่างใกล้ชิด และจะรายงานให้ประชาชนได้รับทราบทันที ทั้งนี้ ขอความร่วมมือประชาชนโปรดระมัดระวังในการใช้รถใช้ถนนเป็นพิเศษ พร้อมสังเกตป้ายจราจรเตือนหรือป้ายบอกทาง และหากประชาชนต้องการความช่วยเหลือหรือแจ้งเหตุสามารถติดต่อได้ที่สำนักงานทางหลวงชนบท แขวงทางหลวงชนบทในพื้นที่ หรือติดต่อสายด่วนกรมทางหลวงชนบท โทร. 1146