{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น เผยปี 2562 มีรายได้ 13,385.8 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 3,229.3 ล้านบาท มั่นใจในปี 2563 ขยายตัวต่อเนื่องตั้งเป้ารายได้โต 15-20%รุกลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ
นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริษัท และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัทดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA Group เปิดเผยว่า ในปี 2562 บริษัทมีรายได้รวมและส่วนแบ่งกำไร จากการลงทุนในบริษัทร่วมและกิจการร่วมค้า 13,385.8 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 3,229.3 ล้านบาท หรือคิดเป็นผลกำไรจากการดำเนินงานปกติเติบโต 21.1%
โดยการเติบโตเพิ่มขึ้นของผลการดำเนินงานปี 2562 มาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการโอนที่ดินเข้ามาอย่างต่อเนื่อง จากยอดขายที่ดินทั้งหมดในปีที่ผ่านมา 1,010 ไร่ โดยประมาณ 70% ของยอดขายที่ดินดังกล่าวมาจากกลุ่มลูกค้าจากประเทศจีน และไต้หวัน ที่มีการย้ายฐานการผลิตมายังประเทศไทย จากสถานการณ์สงครามการค้าโลก และต้นทุนการผลิตในประเทศจีนปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งสะท้อนถึงความแข็งแกร่งของประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางการผลิตของภูมิภาค อีกทั้งการสนับสนุนของภาครัฐในการส่งเสริมการลงทุนโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก EEC ผลักดันต่อภาพรวมการลงทุนในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ยอดการเช่าพื้นที่สำหรับธุรกิจโลจิสติกส์ เติบโตได้ตามเป้าที่วางไว้ โดยมียอดเช่าอาคาร 250,000 ตารางเมตร ซึ่งมาจากการขยายตัวของกลุ่มลูกค้าอีคอมเมิร์ซในประเทศ ส่งผลให้ความต้องการอาคารคลังสินค้า เพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจอีคอมเมิร์ซสูงขึ้น ส่วนธุรกิจการให้บริการสาธารณูปโภค บริษัทฯ มีรายได้จากธุรกิจสาธารณูปโภคที่เพิ่มขึ้น จากการเพิ่มขึ้นของปริมาณการขายและให้บริการน้ำ
ทั้งนี้คณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติการจ่ายปันผลประจำปี 2562 เพิ่มอีกในอัตราหุ้นละ0.0535 บาทกำหนดวัน XD วันที่ 8 พ.ค. 2563 และวันจ่ายปันผล ณ วันที่ 25 พ.ค. 2563 ตามลำดับ
นางสาวจรีพร กล่าวถึงภาพรวมธุรกิจในปี 2563 ว่า บริษัทตั้งเป้าหมายการเติบโตของรายได้ประมาณ 15-20% เมื่อเทียบจากปีก่อน จากการเน้นย้ำความเป็นอันดับหนึ่งในธุรกิจหลัก ๆ ของบริษัท โดยมุ่งขยายธุรกิจทั้งในประเทศและ ต่างประเทศให้เติบโตยิ่งขึ้น ทั้ง 4 ธุรกิจ ซึ่งประกอบด้วย
ดับบลิวเอชเอ โลจิสติกส์ ในปี 2563 ตั้งเป้ายอดเช่าอาคารไว้ที่ 250,000 ตารางเมตร ซึ่งจะทำให้มีพื้นที่คลังสินค้าภายใต้การถือครองและบริหารรวมเพิ่มขึ้นเป็น 2,560,000 ตารางเมตร นอกเหนือจากพื้นที่คลังสินค้าที่มีอยู่ในประเทศไทยและอินโดนีเซียแล้ว บริษัท ยังมองหาโอกาสการขยายธุรกิจเพิ่มเติมในเวียดนามด้วย นอกจากนี้บริษัทฯมีแผนขายสินทรัพย์เข้ากอง REIT ราว 150,000 ตร.ม.
ดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล ดีเวลลอปเมนท์ (WHAID) อยู่ระหว่างพัฒนาพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมแห่งที่ 11 ของกลุ่ม (นิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ ระยอง 36) ในช่วงปลายปี 2563 และขยายนิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเออีสเทิร์นซีบอร์ด 4 และพัฒนานิคมอุตสาหกรรมใหม่อีก 3 แห่งภายในปี 2566 ส่วนนิคมอุตสาหกรรมเวียดนาม บริษัทฯมีแผนเร่งเพิ่มยอดขาย โดยบริษัทฯตั้งเป้ายอดขายที่ดินในปี 2563 ทั้งในประเทศและต่างประเทศ จำนวน 1,400 ไร่
ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ (WHAUP) จะเน้น High Value Product เช่น Reclamation Water และ Demineralized Water รวมถึงเสริมพอร์ทด้านพลังงานด้วยนวัตกรรมโซลูชันพลังงาน เช่น Smart Microgrid, Peer-to-Peer Energy Trading และ Energy Storage ในขณะที่ธุรกิจการให้บริการโซลาร์รูฟ ท็อป บริษัทฯตั้งเป้าเพิ่มการจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ให้กับลูกค้าทั้งในนิคม WHA Group และนอกนิคม จำนวน 31 เมกะวัตต์ ในปี 2563 จากปัจจุบันที่มีการเซ็นสัญญาไปแล้วกว่า 35 เมกะวัตต์ ดันจำนวนเมกะวัตต์ตามสัดส่วนการถือหุ้นเป็น 590 เมกะวัตต์
ดับบลิวเอชเอ ดิจิทัล แพลตฟอร์ม ตั้งเป้าสนับสนุนการดำเนินงานทุกรูปแบบในทุกกลุ่มธุรกิจ โดยการเพิ่มศักยภาพโครงสร้างพื้นฐานสำหรับดิจิทัล รวมถึงการเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ยุคดิจิทัล ช่วงปลายปี 2563 จะมีการติดตั้งไฟเบอร์ออฟติก (FTTx) ครอบคลุมพื้นที่บางส่วนในนิคมอุตสาหกรรม 9 แห่งจากทั้งหมด 10 แห่งในประเทศไทย
COMMENTS
{{ errors.name }}
{{ errors.value }}
{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
RELATED TOPICS