MPJ ส่งซิกโลจิสติกส์ครึ่งปีแรก 68 ยังคึก ลุยCLMV - ตะวันออกกลาง

บมจ.เอ็ม พี เจ โลจิสติกส์ ฉายภาพธุรกิจโลจิสติกส์ครึ่งปีแรกเติบโตต่อเนื่อง จ่อเร่งเครื่องลุยขยายการให้บริการ 4 กลุ่มธุรกิจต่อเนื่องทันที สบช่องขยายช่องทางการขนส่งเพิ่มสัดส่วนทางการค้าในกลุ่ม CLMVและ ตะวันออกกลาง มั่นใจปีนี้รายได้โต 20% ตามเป้า

นายจีระศักดิ์ มานะตระกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็ม พี เจ โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ MPJ ผู้นำโลจิสติกส์แบบครบวงจรและผู้นำด้านบริหารลานตู้คอนเทนเนอร์ เปิดเผยว่า จากปัจจัยความไม่แน่นอนของนโยบายการค้าของสหรัฐอเมริกา ภายใต้รัฐบาลของประธานาธิบดี ทรัมป์ เริ่มเห็นสัญญาณเชิงลบต่อการดำเนินธุรกิจภาพรวมอุตสาหกรรมทางธุรกิจโดยรวม โดยเฉพาะจากการชะลอคำสั่งซื้อของคู่ค้าในบางกลุ่มอุตสาหกรรม ต่อประเด็นดังกล่าวบริษัทฯ ได้วางแผนเพื่อรองรับต่อสถานการณ์ดังกล่าว ไว้แล้ว โดยมุ่งเน้นให้ความสำคัญในเรื่องการกระจายตลาด รวมถึงวางแผนบริหารความเสี่ยงแบบ Proactive มากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเพิ่มโอกาสในการขยายตลาด และขยายช่องทางการขนส่งในประเทศและ ข้ามแดน สู่เส้นทางการค้าเพื่อสร้างเครือข่ายโลจิสติกส์ในภูมิภาคมากขึ้น โดยเพิ่มสัดส่วนทางการค้า ในกลุ่ม CLMV และตะวันออกกลาง ควบคู่กับการปรับกลยุทธ์ด้านบริหารจัดการต้นทุน บริหารความเสี่ยง ทางธุรกิจ การควบคุมค่าใช้จ่าย และการบริหารลานตู้คอนเทนเนอร์ ให้มีประสิทธิภาพ เพื่อรับมือกับความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจที่อาจเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เหลือของปี

ทั้งนี้หากประเมินแนวโน้มธุรกิจในครึ่งปีแรก บริษัทฯ มองว่ายังเป็นไปตามกรอบที่คาดการณ์ไว้ แม้ว่าต้องเผชิญความท้าทายท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว จนทำให้ภาพรวมของเศรษฐกิจทั่วโลกเกิดความผันผวนจนเกิดโดมิโนทางเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม แม้เศรษฐกิจไทยยังอยู่ในช่วงฟื้นตัว และอัตราดอกเบี้ยยังทรงตัวในระดับสูง แต่ MPJ ก็ยังสามารถรักษาระดับการให้บริการหลักไว้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และไม่ได้รับผลกระทบเชิงลึกจากต้นทุนทางการเงิน เนื่องจากได้ดำเนินการปลดหนี้และปรับโครงสร้างทางการเงิน เป็นที่เรียบร้อยส่งผลให้ ณ สิ้นไตรมาส 1/2568 บริษัทฯ มีกระแสเงินสด อยู่ที่ระดับ 96.75 ล้านบาท

ขณะที่แผนการขยายเครือข่ายการขนส่งภายในประเทศ (Domestic Transportation) นั้น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MPJ กล่าวว่า ล่าสุดบริษัทฯ ได้เริ่ม Test run ส่วนขยายเครือข่ายการขนส่งภายในประเทศ ตามแผนเดิมที่ต้องการขยายให้ครอบคลุมทั่วประเทศเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งหาก Test run ประสบความสำเร็จตามที่วางไว้ จะเพิ่มโอกาสให้บริษัทฯ สามารถลงนาม MOU ทั้งในส่วนงานของ รัฐวิสาหกิจ และ ส่วนงานลูกค้าเดิมที่สัญญาเดิมหมดไปแล้ว ให้กลับมาต่อสัญญาตามปกติได้ และคาดว่าจะมีการยื่น Bidding เพิ่มเติม ในส่วนงานใหม่ๆ ของกลุ่มลูกค้าเดิมด้วย นอกจากนี้ บริษัทฯ เตรียมแผนระยะกลางถึงยาวสำหรับการรักษาคุณภาพการให้บริการ และนำระบบนวัตกรรม (Innovation System) ใหม่ๆ มาใช้ เพื่อยกระดับคุณภาพการให้บริการและ Efficiency ให้ดีขึ้น เพื่อรักษาฐานลูกค้าในระยะยาว ซึ่งจากแผนกลยุทธ์ดังกล่าว ส่งให้บริษัทฯ ตั้งเป้าอัตราการเติบโตของรายได้รวมในปี2568 เพิ่มขึ้น 20 %


COMMENTS

{{ errors.name }}

{{ errors.value }}

{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}

RELATED TOPICS

Please wait a moment