TMAN โชว์รายได้ไตรมาส 1/ 2568 สูง 594 ล้านบาท กำไรสุทธิเติบโต13%

บมจ.ที.แมน ฟาร์มาซูติคอล หรือ TMAN โชว์ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/ 2568 โดยมีรายได้รวม New High ที่ 594 ล้านบาท เติบโต QoQ ที่ 3.5% กำไรสุทธิ 122 ล้านบาท เติบโต QoQ ที่ 13% ชูแผนสร้างการเติบโตทุกมิติ รุกขยายในทุกช่องทาง สร้างแลนด์สเคปใหม่เปิดตลาดต่างประเทศต่อเนื่อง มั่นใจรายได้ปี 2568 แตะ 2,500 ล้านบาท เติบโต 10-12%

นายประพล ฐานะโชติพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ที.แมน ฟาร์มาซูติคอล จำกัด (มหาชน) หรือ TMAN หนึ่งในผู้นำธุรกิจผลิต และจัดจำหน่ายเวชภัณฑ์ยาและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพในประเทศไทย เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2568 (มกราคม- มีนาคม 2568) บริษัทฯ ประสบความสำเร็จสามารถรักษาระดับการเติบโตภายใต้กลยุทธ์ที่กำหนดไว้ โดยมีรายได้รวมสูงสุดเป็นประวัติการณ์ (New High) ที่ 594 ล้านบาท เติบโต 3.5% และทำกำไรสุทธิ 122 ล้านบาท เติบโต 13% จากไตรมาสก่อน โดยมาจากช่องทางโรงพยาบาล ซึ่งมีปัจจัยจากความต้องการยาที่ใช้ในการรักษาโรคไม่ติดต่อ (Non-Communicable Diseases: NCDs) ทั้งจากโรงพยาบาลเอกชนและภาครัฐเพิ่มขึ้น รวมทั้งช่องทางคลินิกเสริมความงาม ช่องทางร้านขายยา และช่องทาง Modern Trade ที่เติบโตขึ้นเช่นเดียวกัน

แผนธุรกิจในช่วงของปีนี้ บริษัทฯ วางแผนสร้างการเติบโตในทุกมิติอย่างต่อเนื่อง ผ่านการขับเคลื่อนธุรกิจดังนี้ 1) การเพิ่มการเข้าถึงยาผ่านช่องทางโรงพยาบาล โดยจะขยายช่องทางโรงพยาบาลควบคู่ไปกับการนำยาและผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ เข้าไปจำหน่าย โดยเฉพาะกลุ่มยาสามัญและกลุ่มยาโรคติดต่อไม่เรื้อรัง (NCD) 2) การขยายตลาดต่างประเทศเชิงรุก ผ่านความร่วมมือกับพันธมิตรท้องถิ่นนำแบรนด์โพรโพลิซ (Propoliz Series) ซึ่งเป็นสินค้าใหม่ขยายสู่ตลาดต่างประเทศอย่างครอบคลุมมากขึ้น 3) การสร้างการเติบโตของผลิตภัณฑ์ใหม่ โดยจะนำ “โพรโพลิซ พลัส” (Propoliz Pluz) ซึ่งเป็นยาแผนปัจจุบันขยายสู่ช่องทางโรงพยาบาล และเตรียมเปิดตัวยาแก้ท้องร่วงตัวใหม่เพื่อรองรับความต้องการตามฤดูกาลในช่วงฤดูร้อนและฤดูฝน 4) การเสริมสร้างศักยภาพการผลิต หลังจากลงทุนติดตั้งเครื่องจักรใหม่ในไตรมาส 1/2568 รองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นของลูกค้าโรงพยาบาลอย่างต่อเนื่อง

ขณะที่ภาพรวมอุตสาหกรรมเวชภัณฑ์ยาและเครื่องมือแพทย์ในช่วงไตรมาส 2/2568 คาดการณ์จะมีอัตราการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ จากปัจจัยตามฤดูกาล เช่น การระบาดของโรคท้องร่วง ระหว่างวันที่ 1 มกราคม - 13 มีนาคม 2568 มีผู้ป่วยสะสม 129,638 ราย (ข้อมูลกรมควบคุมโรค) รวมทั้งโรคทางเดินหายใจและแนวโน้มการเพิ่มขึ้นของโรค COVID-19 ในประเทศไทย โดยตั้งแต่วันที่ 1-8 พฤษภาคม 2568 พบว่ามีผู้ป่วยสะสม 41,197 ราย (ข้อมูลกรมควบคุมโรค) ซึ่งปี 2568 คาดการณ์อุตสาหกรรมเวชภัณฑ์ยาและเครื่องมือแพทย์เติบโตเฉลี่ย 5.5-7.0% ต่อปี (ข้อมูลจาก Krungsri Research) นับว่าเป็นตลาดที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวอย่างจำกัด อย่างไรก็ตามด้วยการรับรู้กลุ่มผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ ที่แข็งแกร่งในประเทศและการรุกขยายตลาดต่างประเทศต่อเนื่อง การเปิดตัวนวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีอย่างต่อเนื่องในปีนี้ รายได้ของบริษัทฯ ในปี 2568 คาดการณ์เติบโต 10-12% หรือมีรายได้ 2,500 ล้านบาทได้ตามเป้าหมาย