{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
นายชัชพล ประสพโชค ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูเอซี โกลบอล จำกัด (มหาชน) หรือ UAC เปิดเผยว่า บริษัท มีความยินดีที่ได้ย้ายเข้าจดทะเบียนใน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในวันที่19 ก.พ.63 ในกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม หมวดปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ จากเดิมที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ตั้งแต่วันที่ 11 ตุลาคม 2553 ทั้งนี้เชื่อว่าการย้ายไปซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในครั้งนี้ จะช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้กับหลักทรัพย์ของบริษัทฯ มากขึ้น พร้อมทั้งยังช่วยลดข้อจำกัดในการเข้าลงทุนของนักลงทุนสถาบันทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงยังเป็นการเพิ่มเสถียรภาพให้กับบริษัทฯ และหุ้นของบริษัทฯ มากยิ่งขึ้น เพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้ถือหุ้น
โดยตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ UAC ซื้อขายในตลาด mai บริษัทมีความมุ่งมั่นในการขยายธุรกิจในทุกด้าน มีการลงทุนและการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับแผนกลยุทธ์การขับเคลื่อนธุรกิจ ในการสร้างการเติบโตขององค์กรควบคู่ไปกับการพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืน โดยจะเห็นได้จาก ยอดขายที่เพิ่มขึ้นจาก 767 ล้านบาทในปี 2010 เป็นกว่า 2,800 ล้านบาทในปี 2019 และเรามีการปันผลต่อเนื่องทุกปีคิดเป็นมูลค่ารวม 571 ล้านบาทในระยะเวลา 10 ปี นอกจากนี้การที่ UAC ได้รับการคัดเลือกให้เป็นหุ้นยั่งยืน ในกลุ่ม mai 4 ปีติดต่อกัน และยังได้รับการประเมินการกำกับดูแลกิจการในระดับ 5 ดาว หรือ “ดีเลิศ” จากโครงการสำรวจการกำกับดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียนไทย ของ IOD และ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ก็เป็นภาพสะท้อนที่ชัดเจนถึงทิศทางการทำธุรกิจของ UAC ได้เป็นอย่างดี
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจ 4 ปี (2563 – 2566) บริษัทจะลงทุนต่อเนื่องด้านพลังงานสะอาด Green Chemical และธุรกิจเทรดดิ้ง พร้อมตั้งเป้าหมายรายได้ในปี 2566 แตะระดับ 5,000 ล้านบาท โดยบริษัทฯ มีการตั้งเป้าในการแบ่งสัดส่วนรายได้ 4 ปีข้างหน้า คือ 40 : 60 แบ่งเป็นธุรกิจเทรดดิ้ง 40 % ธุรกิจเคมีภัณฑ์และธุรกิจด้านพลังงานทดแทน 60%
นอกจากนี้บริษัทมีแผนการลงทุนด้านพลังงานทดแทนเพิ่มขึ้น ตามนโยบายของภาครัฐที่จะเปิดรับซื้อไฟฟ้า 700 เมกะวัตต์ ตามโครงการโรงไฟฟ้าชุมชน โดยใช้พืชพลังงาน เช่น หญ้าเนเปียร์, ข้าวโพด, มันสำปะหลัง และอื่นๆ โดยบริษัทฯ ได้ส่งทีมเจ้าหน้าที่เข้าไปศึกษาในหลายๆพื้นที่ ที่มีศักยภาพเรื่องพืชพลังงาน หากกระทรวงพลังงานเปิดให้ผู้สนใจทั้งภาคเอกชนและชุมชน ยื่นข้อเสนอประมูลแข่งขันโครงการ ภายในเดือน ก.พ.นี้ บริษัท พร้อมที่จะร่วมยื่นประมูลด้วย โดยตั้งเป้ายื่นประมูลประมาณ 20 เมกะวัตต์ เฉลี่ยโครงการละ 1.5-3 เมกะวัตต์ โดยใช้งบลงทุนประมาณ 100 ล้านบาทต่อเมกะวัตต์ และพร้อมศึกษาการลงทุนร่วมกับพันธมิตรในโครงการใหม่ๆ ในกลุ่มประเทศ CLMV มากขึ้นในอนาคต
COMMENTS
{{ errors.name }}
{{ errors.value }}
{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
RELATED TOPICS