อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ประเทศไทย ประกาศศักดาความเป็นผู้นำตลาดงานแสดงสินค้า เผยรายได้ปี 2568 คาดทะลุ 1,600 ล้านบาท โตพุ่ง 15% พร้อมเดินหน้าจัด 15 งานใหญ่ ครอบคลุมอุตสาหกรรมสำคัญและเทรนด์โลก มุ่งเป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงธุรกิจอาเซียนสู่ตลาดสากล ตอกย้ำบทบาทสำคัญในภาคอุตสาหกรรมที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการทั่วภูมิภาค
นายสรรชาย นุ่มบุญนำ ผู้จัดการทั่วไป อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ประเทศไทย เผยว่า อุตสาหกรรมงานแสดงสินค้ามีการปรับตัวครั้งใหญ่จากปัจจัยเศรษฐกิจ การพัฒนาสู่ยุคดิจิทัลเทคโนโลยี และพฤติกรรมผู้เข้าชมงาน ซึ่ง อินฟอร์มา มีความมุ่งมั่นในการพัฒนางานแสดงสินค้าให้เป็น "The Gateway to Global Business" หรือ ประตูสู่โอกาสทางธุรกิจระดับโลก โดยพัฒนาและยกระดับมาตรฐานงานแสดงสินค้าให้เป็นมากกว่าสถานที่จัดแสดง แต่เป็นเวทีสร้างเครือข่ายและจุดนัดพบสำหรับอุตสาหกรรมทุกระดับ และเป็นศูนย์กลางแห่งโอกาสที่ช่วยขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไทยและอาเซียนให้เติบโตสู่ระดับสากล
จากกลยุทธ์การขยายงานและพัฒนาอุตสาหกรรม ทำให้ปี 2566 อินฟอร์มา มีรายได้รวม 1,300 ล้านบาท ปี 2567 มีการเติบโตของรายได้เพิ่มขึ้นเป็น 1,400 ล้านบาท และปี 2568 มีการตั้งเป้าหมายรายได้ที่ 1,600 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 15% จากการจัด 15 งานแสดงสินค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมหลัก ประกอบด้วย กลุ่มวิศวกรรม การผลิต และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง, กลุ่มอุตสาหกรรมพลังงานและสิ่งแวดล้อม, กลุ่มไลฟ์สไตล์, กลุ่มสุขภาพ และโภชนาการ, กลุ่มอุตสาหกรรมการบริการ, อาหาร และเครื่องดื่ม ซึ่งจะส่งผลให้ อินฟอร์มาฯ ก้าวขึ้นเป็นบริษัทจัดงานแสดงสินค้าที่มีรายได้สูงสุดของอาเซียน
สำหรับปัจจัยที่ส่งให้เกิดความสำเร็จมาจาก 5 องค์ประกอบสำคัญ ได้แก่
1. ขยายพอร์ตงานแสดงสินค้าใหม่ โดยหลังจากโควิดเป็นต้นมา อินฟอร์มาฯได้มีการจัดงานใหม่เพิ่มขึ้นถึง 8 งาน ประกอบด้วย Cosmoprof CBE ASEAN Bangkok, Jewellery & Gem ASEAN Bangkok, Asean Paper Bangkok, Plastics & Rubber Thailand, Vitafoods Asia, Medlab Asia & Asia Health, Tyrexpo Asia รองรับอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพสูง โดยแต่ละงานมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 7-10% ต่อปี
2. ต่อยอดงานเดิมที่ประสบความสำเร็จซึ่งมีอัตราการเติบโตมากกว่า 10% ต่อปี ประกอบด้วย กลุ่มนวัตกรรมเทคโนโลยีอาหาร ส่วนผสมสำหรับผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ (งาน Fi Asia) กลุ่มอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีการแปรรูปและบรรจุภัณฑ์ อาหาร เครื่องดื่ม (งาน ProPak Asia) และ กลุ่มอุตสาหกรรมพลังงานและสิ่งแวดล้อม (งาน ASIA Sustainable Energy Week)
3. สร้างเครือข่ายพันธมิตรทั่วโลก โดยผสานความร่วมมือกับภาครัฐ สมาคม และภาคเอกชน เสริมศักยภาพอุตสาหกรรม เชื่อมโยงโอกาสทางธุรกิจ พร้อมดึงดูดผู้แสดงสินค้าระดับนานาชาติเข้าร่วมงานในไทยมากขึ้น ทำให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางธุรกิจที่ดึงดูดการลงทุนจากทั่วโลก
4. นำเทคโนโลยีมาพลิกโฉมงานแสดงสินค้า ทั้งการพัฒนา Digital Platform ใช้ Big Data และ AI ช่วยบริหารจัดการข้อมูล วิเคราะห์พฤติกรรมผู้เข้าร่วมงาน นำไปสู่การพัฒนาประสบการณ์ที่ดีขึ้นทั้งในด้านผู้จัดแสดงสินค้าและผู้เข้าร่วมชมงาน รวมถึงระบบจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) ที่ช่วยให้เกิดเจรจาและความร่วมมือทางธุรกิจได้รวดเร็วและแม่นยำมากขึ้น
5. ยึดแนวทาง ESG สู่การเติบโตอย่างยั่งยืน ซึ่ง อินฟอร์มาฯให้ความสำคัญกับความยั่งยืนในทุกมิติของการจัดงาน โดยใช้แนวคิด Upcycling เพื่อลดของเสีย สนับสนุน ขนส่งสาธารณะ เพื่อลดคาร์บอน ใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ การเปลี่ยนไปสู่โซลูชันดิจิทัลเพื่อลดการใช้กระดาษ การของแจกที่ระลึกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การจัดกิจกรรมเพื่อสังคมและดำเนินโครงการ CSR ไม่ว่าจะเป็นการสนับสนุนธุรกิจท้องถิ่น การบริจาคอาหารและวัสดุเหลือใช้ และ จัดกิจกรรมอาสาสมัคร เช่น ปลูกต้นไม้และฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม และการพัฒนาชุมชนร่วมกับองค์กรต่างๆ
นอกจากการพัฒนาและยกระดับการจัดงานฯ ให้เป็นไปตามเป้าหมายแล้ว อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ประเทศไทย ยังได้ขยายทีมงานกว่า 130 คน พัฒนาองค์ความรู้ของบุคลากรผ่านเครือข่ายระดับโลก ด้วยโปรแกรมอบรมพัฒนาศักยภาพบุคลากรและโครงการแลกเปลี่ยนความรู้กับเครือข่ายอินฟอร์มาทั่วโลก เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถในการจัดงานแสดงสินค้าที่ตอบโจทย์ผู้ประกอบการและผู้ร่วมงานในทุกมิติ พร้อมทั้งสร้างมาตรฐานใหม่ให้วงการงานแสดงสินค้าอีกด้วย
COMMENTS
RELATED TOPICS