MENA ปั๊มกำไรQ4/67 ทะยาน 25% บอร์ดอนุมัติจ่ายปันผลทันที 0.03 บ./หุ้น ตั้งเป้ารายได้ปี 68 โตไม่ต่ำกว่า10%

บมจ.มีนาทรานสปอร์ต (MENA) ประกาศผลงานปี 2567 มีกำไรสุทธิจำนวน 67 ล้านบาท ส่วนรายได้เท่ากับ 834 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% ส่วนกำไรไตรมาส 4/2567 เพิ่มขึ้นถึง 25% อยู่ที่ 22 ล้านบาท เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน บอร์ดอนุมัติจ่ายปันผลเอาใจผู้ถือหุ้นในอัตรา 0.03 บาทต่อหุ้น กำหนดจ่ายวันที่ 16 พ.ค นี้ ตั้งเป้ารายได้ปี 68 โตไม่ต่ำกว่า 10%

นางสุวรรณา ขจรวุฒิเดช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มีนาทรานสปอร์ต จำกัด (มหาชน) หรือ MENA ผู้นำธุรกิจให้บริการขนส่งคอนกรีตผสมเสร็จด้วยรถมิกเซอร์ (Mixer) และรถเทรลเลอร์ (Trailer) รายใหญ่ของประเทศ เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานสำหรับปี 2567 สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2567 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 67 ล้านบาท ส่วนรายได้มีจำนวน 834 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% โดยไตรมาส 4/2567 มีกำไรสุทธิออลไทม์ไฮที่ 22 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 4 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 25% จากงวดเดียวกันปีก่อนมีกำไรสุทธิ 18 ล้านบาท

ปัจจัยที่ผลักดันให้กำไรสุทธิของบริษัทฯ ยังคงอยู่ในทิศทางบวกได้ เนื่องจากได้รับอานิสงส์การขยายตัวของธุรกิจขนส่งสินค้าทุกประเภททั้งซีเมนต์ คอนกรีต สินค้าอุปโภคบริโภค สินค้าเฉพาะทาง และสินค้าควบคุมอุณหภูมิ และยังรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมทุน บริษัท ทีดี เอ็มลอจิสติกส์ จำกัด (TDM) ที่ได้รับปัจจัยหนุนจากการขยาย Fleet รถรองรับปริมาณงานที่จะเพิ่มขึ้นจากการขยายสาขาของบริษัท ซี.เจ. เอ็กซ์เพรส กรุ๊ป (CJ)

จากผลการดำเนินงานปี 2567 ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ จึงมีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ในอัตรา 0.03 บาทต่อหุ้น รวมเป็นเงินปันผลประมาณ 22 ล้านบาท โดยกำหนดให้ผู้ถือหุ้นที่จะมีชื่อปรากฏ ณ วันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้น (Record Date) ในวันที่ 2 พฤษภาคม 2568 และกำหนดวันจ่ายเงินปันผล ในวันที่ 16 พฤษภาคม 2568 โดยการใช้สิทธิดังกล่าวต้องรอการอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ 24 เมษายน 2568 นี้

สำหรับทิศทางธุรกิจและผลการดำเนินงานในปี 2568 คาดว่าจะเติบโตได้อย่างต่อเนื่องจากปี 2567 ซึ่งธุรกิจโลจิสติกส์มีแนวโน้มเติบโตได้ดี โดยเฉพาะธุรกิจให้บริการรถมิกเซอร์ที่มีโอกาสเติบโตสูงจากอุตสาหกรรมก่อสร้างฟื้นตัวขานรับการขยายตัวของการลงทุนของภาครัฐและเอกชน ซึ่งบริษัทฯ ตั้งเป้าการเติบโตของรายได้ปีนี้ไม่ต่ำกว่า 10% สร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้รถ (Utilization) จาก Fleet ที่มีอยู่

ส่วนแนวโน้มอุตสาหกรรมการก่อสร้างปีนี้ เชื่อว่าจะดีกว่าปีก่อน โดยเฉพาะการลงทุนของภาครัฐที่เริ่มส่งสัญญาณปรับตัวเพิ่มขึ้น ประกอบกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในช่วงขาลง และภาคอุปโภคและบริโภคที่ยังคงเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ขณะที่ TDM มีแผนในการขยาย Fleet รถเป็นจำนวนมาก เพื่อรองรับการขยายสาขาของ CJ ดังนั้นธุรกิจโลจิสติกส์ คาดว่าน่าจะสดใสในทิศทางเดียวกัน


COMMENTS

{{ errors.name }}

{{ errors.value }}

{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}

RELATED TOPICS

Please wait a moment