MOTHER เคาะ IPO 1.40 บาท/หุ้น จ่อเเทรดตลาด mai กุมภาพันธ์ 68 นี้

MOTHER แต่งตั้ง Pi เป็นลีดอันเดอร์ไรเตอร์ เสนอขายหุ้น 86 ล้านหุ้น เคาะราคา IPO หุ้นละ 1.40 บาท เปิดจองวันที่ 27-29 มกราคม 2568 ด คาดว่าจะสามารถเข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai เดือนกุมภาพันธ์

นายสัมฤทธิ์ชัย ตั้งหะรัฐ กรรมการผู้จัดการ วาณิชธนกิจ บริษัท พาย แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้รับมอบอำนาจจาก บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน บริษัท มาเธอร์ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ MOTHER ผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกและค้าส่งสินค้าอุปโภคและบริโภค ภายใต้ชื่อ “Mother Supermarket และ Mother Marche” รวม 20 สาขา ในจังหวัดกระบี่ พังงา และสุราษฎร์ธานี พร้อมศูนย์กระจายสินค้า 2 แห่ง ในจังหวัดกระบี่ และสุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า บริษัท มาเธอร์ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) ได้แต่งตั้งบริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดการจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน พร้อมแต่งตั้งบริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ เอสบีไอ ไทย ออนไลน์ จำกัด เป็นผู้ร่วมจัดจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน

โดยกำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 86 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ในราคาเสนอขายหุ้นละ 1.40 บาท รวมมูลค่าการเสนอขาย 120.40 ล้านบาท คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิ (P/E ratio) เท่ากับ 21.40 เท่า ถือเป็นระดับที่เหมาะสมสอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งเมื่อเทียบกับบริษัทใกล้เคียงและมีการประกอบธุรกิจที่คล้ายคลึง หรือใกล้เคียงกับธุรกิจของบริษัทที่มี P/E ratio เฉลี่ยอยู่ที่ 32.02 เท่า โดยจะเปิดจองซื้อในวันที่ 27-29 มกราคม 2568

ทั้งนี้ MOTHER นับเป็นหุ้นที่มีความน่าสนใจในการลงทุน เนื่องจากมีศักยภาพในการให้บริการที่มีความโดดเด่นทั้งในด้านสินค้า ความหลากหลาย และความครบครัน แตกต่างจากผู้ประกอบการรายอื่นๆ ในพื้นที่ และผู้บริหารที่มีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมค้าปลีกมามากกว่า 40 ปี นับเป็นปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนให้ MOTHER สามารถเติบโตได้อย่างก้าวกระโดด ตามศักยภาพทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวที่มีอัตราการเติบโตสูง และอนาคตของธุรกิจที่จะขยายตัวได้อีกมากตามกำลังซื้อของผู้บริโภค อีกทั้งยังมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อลูกค้าและคู่ค้าทางธุรกิจ จึงสามารถสร้างรายได้และทำกำไรเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยผลประกอบการย้อนหลัง 3 ปี (2564-2566) บริษัทมีรายได้รวม 1,123.08 ล้านบาท 1,195.47 ล้านบาท 1,252.90 ล้านบาท ตามลำดับ และมีกำไรสุทธิ 18.44 ล้านบาท 13.84 ล้านบาท และ 15.99 ล้านบาท ตามลำดับ ขณะที่ผลประกอบการงวด 9 เดือน ปี 2567 บริษัทมีรายได้รวม 959.38 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 12.38 ล้านบาท


COMMENTS

{{ errors.name }}

{{ errors.value }}

{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}

RELATED TOPICS

Please wait a moment