58 ปี โอเปก สถานการณ์น้ำมันโลก

โอเปกและประเทศผู้ผลิตน้ำมันที่อยู่นอกกลุ่ม บรรลุข้อตกลงร่วมกันเพื่อเพิ่มการผลิตน้ำมัน 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน หรือ 1% ของอุปทานน้ำมันทั้งโลก เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เพื่อรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมันและป้องกันปัญหาขาดแคลนน้ำมันสำรองทั่วโลก

World Oil Outlook 2040 คาดการณ์ความต้องการใช้น้ำมันของโลก ว่าจะเพิ่มขึ้น 15.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากเดิมในปี 2559 อยู่ที่ 95.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน จะเพิ่มขึ้นเป็น 111.1 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 2583 เนื่องมาจากการเพิ่มขึ้นของประชากร การขยายตัวของชนชั้นกลาง และการเติบโตทางเศรษฐกิจ โดยคาดว่าความต้องการใช้น้ำมันของประเทศกำลังพัฒนาจะเพิ่มสูงขึ้น ราว 24 ล้านบาร์เรลต่อวัน ขณะที่ความต้องการใช้น้ำมันของกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วจะลดลงถึง 8.9 ล้านบาร์เรลต่อวัน

จีนเป็นประเทศที่มีการใช้น้ำมันสูงที่สุดในโลก และคาดว่าจีนจะมีความต้องการใช้น้ำมันเพิ่มขึ้นจำนวน 6 ล้านบาร์เรลต่อวัน จนความต้องการใช้น้ำมันอยู่ที่ 17.8 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 2583 รองลงมาคืออินเดีย ที่จะมีความต้องการใช้น้ำมันเพิ่มขึ้น 5.9 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในช่วงระหว่างปี 2559-2583

ทั้งนี้ ภาคการคมนาคมขนส่งเป็นภาคที่มีความต้องการใช้น้ำมันมากที่สุด คิดเป็น 2 ใน 3 ของปริมาณความต้องการใช้น้ำมันทั้งหมด โดยเฉพาะการคมนาคมขนส่งทางถนน ใช้น้ำมันถึง 45% ของความต้องการใช้น้ำมันทั้งหมด ส่วนภาคที่ใช้น้ำมันรองจากภาคการคมนาคมขนส่งคือภาคอุตสาหกรรม

ข้อมูลของโอเปกในปี 2560 ระบุ 81.89% ของปริมาณน้ำมันดิบสำรองที่ถูกพิสูจน์แล้วทั่วโลกหรือกว่า 1,214 พันล้านบาร์เรล อยู่ในบริเวณของประเทศสมาชิกโอเปก โดยน้ำมันดิบกว่า 65% อยู่ในประเทศสมาชิกโอเปกในตะวันออกกลาง

“โอเปก” หรือ องค์กรร่วมประเทศผู้ผลิตน้ำมันเพื่อการส่งออก (The Organization of the Petroleum Exporting Countries: OPEC) เป็นองค์กรที่ตั้งขึ้นเพื่อประสานความร่วมมือด้านนโยบายน้ำมันระหว่างประเทศสมาชิก สร้างความมั่นคง เป็นธรรม และรักษาระดับราคาน้ำมันระหว่างประเทศผู้ผลิต พร้อมทั้งสามารถจัดหาน้ำมันให้กับประเทศผู้บริโภคอย่างสม่ำเสมอและมีประสิทธิภาพ รวมถึงให้ผลตอบแทนที่เป็นธรรมแก่ผู้ลงทุนในอุตสาหกรรมน้ำมัน

โอเปก เป็นองค์กรถาวรระหว่างรัฐบาล ก่อตั้งขึ้นในการประชุมที่กรุงแบกแดด (Baghdad Conference) ประเทศอิรัก เมื่อวันที่ 10-14 กันยายน 2503 หรือเมื่อ 58 ปีก่อน โดยมีสมาชิกผู้ร่วมก่อตั้ง 5 ประเทศ ได้แก่ อิหร่าน อิรัก คูเวต ซาอุดิอาระเบีย และ เวเนซูเอล่า

หลังจากก่อตั้งได้มีประเทศสมาชิกมาเข้าร่วมเพิ่มอีก 11 ประเทศตามลำดับ ได้แก่

1. กาต้า เข้าร่วมในปี 2504

2. อินโดนีเซีย เข้าร่วมในปี 2505 จากนั้นได้พักการเป็นสมาชิกชั่วคราวในปี 2552 และกลับเข้ามาเข้าร่วมอีกครั้งในเดือนมกราคมปี 2559 และในเดือนพฤศจิกายนปีเดียวกันก็ได้ตัดสินใจขอพักจากการเป็นสมาชิกอีกครั้ง

3. ลิเบีย เข้าร่วมในปี 2505

4. สหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ เข้าร่วมในปี 2510

5. แอลจีเรีย เข้าร่วมในปี 2512

6. ไนจีเรีย เข้าร่วมในปี 2514

7. เอกวาดอร์ เข้าร่วมในปี 2516 พักการเป็นสมาชิกในปี 2535 และกลับมาเข้าร่วมอีกครั้งในปี 2550

8. กาบอง เข้าร่วมในปี 2518 และขอยุติการเป็นสมาชิกในปี 2537 จากนั้นขอ กลับมาเข้าร่วมอีกครั้งในปี 2559

9. แองโกลา เข้าร่วมในปี 2550

10. อิเควทอเรียลกินี เข้าร่วมในปี 2560

11. คองโก เข้าร่วมในปี 2561

ปัจจุบัน กลุ่มโอเปกมีประเทศสมาชิกรวมทั้งหมด 15 ประเทศ สำนักงานใหญ่ของโอเปกตั้งอยู่ที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย

ขอบคุณข้อมูล

https://www.opec.org/

World Oil Outlook 2040 (2017)


COMMENTS

{{ errors.name }}

{{ errors.value }}

{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}

RELATED TOPICS

Please wait a moment