Hungry Hub ผนึก Singapore Tourism Board (STB) ปั้นประสบการณ์กิน-เที่ยวระดับโลก พร้อมเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่

Hungry Hub (ฮังกรี้ ฮับ) ผู้นำแพลตฟอร์มจองร้านอาหารและโรงแรมออนไลน์แบบ One Stop Service อันดับหนึ่งของไทย ประกาศความสำเร็จในปี 2024 พร้อมเดินหน้าลุยตลาดสิงคโปร์เต็มรูปแบบ ด้วยพันธมิตรเชิงกลยุทธ์กับ Singapore Tourism Board (STB) เพื่อยกระดับการท่องเที่ยวเชิงอาหารสำหรับนักท่องเที่ยวไทยและมาเลเซีย ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์นักเดินทางที่มองหาประสบการณ์การรับประทานอาหารที่คุ้มค่าในร้านอาหารระดับกลางถึงไฮเอนด์ในสิงคโปร์ เริ่มธันวาคมนี้ พร้อมเตรียมจัดงาน ประกาศรางวัล “Hungry Hub Red Table Awards 2024” ซึ่งถือเป็นงานประกาศรางวัลครั้งสำคัญเพื่อยกย่องและเชิดชูพันธมิตรธุรกิจร้านอาหารและโรงแรมระดับแนวหน้าที่ร่วมสร้างประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมตลอดปี งานประกาศรางวัลในปีนี้นับว่าเป็นหนึ่งในงานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของ Hungry Hub โดยจะมีการมอบรางวัลอันทรงเกียรติกว่า 35 รางวัล แบ่งออกเป็น 8 หมวดหมู่ ซึ่งครอบคลุมทุกรูปแบบ ตั้งแต่ Best Chain Restaurant, Best Rooftop Restaurant, Best Fine Dining ไปจนถึง Rising Star Award ที่เน้นเชิดชูพาร์ทเนอร์ผู้สร้างสรรค์ประสบการณ์อาหารสุดพิเศษให้ลูกค้าประทับใจ

นายสุรสิทธิ์ สัจจะเดว์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Hungry Hub กล่าวว่า “การขยายธุรกิจครั้งนี้เป็นก้าวสำคัญสำหรับ Hungry Hub ในการเดินหน้าสู่การเป็น Online Travel Agent (OTA) สำหรับร้านอาหารระดับโลก ด้วยการแบ่งกลุ่มผู้ใช้งาน 50% คนไทยและ 50% นักท่องเที่ยว เรามุ่งมั่นที่จะนำประสบการณ์การจองร้านอาหารที่ดีที่สุดให้กับผู้ใช้งาน ทั้งในด้านความสะดวกสบาย ความคุ้มค่า และความหลากหลาย พร้อมร่วมมือกับพันธมิตรสำคัญอย่าง Singapore Tourism Board เพื่อสนับสนุนการเติบโตของตลาดร้านอาหารในสิงคโปร์ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น การเปิดตัว Hungry Hub ในสิงคโปร์ครั้งนี้ มีจุดมุ่งหมายเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวไทยและมาเลเซียซึ่งเดินทางสู่สิงคโปร์ พร้อมเสนอทางเลือกการรับประทานอาหารในร้านระดับกลางถึงไฮเอนด์ในราคาที่คุ้มค่า ผ่านฟีเจอร์ควบคุมงบประมาณ (Budget-Controlled Dining) ที่เป็นเอกลักษณ์ของ Hungry Hub จากความสำเร็จที่ผ่านมาในประเทศไทยเราร่วมมือกับร้านอาหารกว่า 1,700 แห่ง รวมถึงร้านระดับ Michelin Star, Fine Dining และ Rooftop Dining ทั่วไทย ในการเข้าถึงกลุ่มนักชิมทั้งชาวไทยและต่างชาติ นอกจากนี้ Hungry Hub ยังสร้างปรากฏการณ์ในวงการด้วยการจับมือกับแพลตฟอร์มพันธมิตรระดับโลก นอกจากนี้ยังมีสิทธิเศษเฉพาะที่ Hungry Hub มอบให้กับผู้ใช้งานบนแพลตฟอร์ม ด้วยแพ็กเกจ Exclusive Deals ที่เกี่ยวกับร้านอาหารที่หลากหลาย ไม่เพียงแต่เป็นแพลตฟอร์มจองร้านอาหารเพียงอย่างเดียว เพื่อตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าให้ครอบคลุม จากกกลยุทธ์ทางธุรกิจและความแข็งแกร่งของพันธมิตร ทำให้เรามั่นใจว่าจะประสบความสำเร็จในการบุกตลาดสิงคโปร์ในครั้งนี้ได้อย่างแน่นอน และด้วยจำนวนชาวสิงคโปร์กว่า 30,000 คน ที่เคยใช้ Hungry Hub ในการจองร้านอาหารในประเทศไทย Hungry Hub มีเป้าหมายที่จะขยายฐานผู้ใช้งานในสิงคโปร์ต่อไป โดยอาศัยเครือข่าย KOL และอินฟลูเอนเซอร์กว่า 300 คนทั่วโลก ที่จะช่วยสร้างการรับรู้และดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้าสู่ร้านอาหารในเครือข่าย”

ความสำเร็จระดับโลกของ Hungry Hub ที่นำสู่ความร่วมมือครั้งสำคัญ

การขยายธุรกิจครั้งนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ Hungry Hub ในการก้าวสู่เวทีนานาชาติ หลังจากช่วยพันธมิตรร้านอาหารสร้างรายได้กว่า 3 พันล้านบาท และมีผู้ใช้งานแอปพลิเคชันกว่า 1 ล้านคนต่อเดือน ยอดจองสะสมมากกว่า 4 ล้านที่นั่ง เฉลี่ยรายจ่ายต่อครั้งมากกว่า 1,000 บาท และสามารถสร้างรายได้ให้แก่ร้านอาหาร 1 ร้านได้สูงสุดกว่า 250 ล้านบาท ต่อปี และมี Top Customer หรือลูกค้าที่จองร้านอาหารผ่าน Hungry Hub จำนวนมากที่สุดในปี 2567 มากกว่า 85 ครั้งต่อปี ลูกค้ารายเดียวใช้จ่ายไปถึง 350,000 บาท

Hungry Hub เผยแผนการเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยตั้งเป้าเพิ่มจำนวนผู้ใช้งานในประเทศไทยโตอีก 50% ภายในปี 2568 พร้อมขยายการบริการสู่ตลาดต่างประเทศ โดยเริ่มต้นที่สิงคโปร์ในเดือนธันวาคม 2567 ด้วยความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับ Singapore Tourism Board (STB) Hungry Hub จะยกระดับประสบการณ์การจองร้านอาหารระดับพรีเมียมให้กับนักเดินทางไทยและมาเลเซีย ซึ่งเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีการใช้จ่ายสูง Hungry Hub จะมุ่งสร้างความมั่นใจให้ลูกค้าในการควบคุมงบประมาณได้ทุกมื้อในร้านอาหารระดับพรีเมียมและ mid-upper tier นอกจากนี้ Hungry Hub ยังได้ทำงานร่วมกับเครือข่าย KOL และอินฟลูเอนเซอร์กว่า 300 คนทั่วโลก รวมถึงผู้ใช้งานที่เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติกว่า 200,000 คนในปี 2567 เพื่อโปรโมตร้านอาหารในเครือข่ายสิงคโปร์

ด้านเทอเรนซ์ วูน ผู้อำนวยการบริหารภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การท่องเที่ยวสิงคโปร์ กล่าวถึงความสำคัญของอาหารในฐานะหนึ่งในจุดเด่นที่ดึงดูดการท่องเที่ยวของสิงคโปร์ว่า “การรับประทานอาหารถือเป็นหัวใจสำคัญที่ช่วยสะท้อนถึงวัฒนธรรมและมรดกทางอาหารอันหลากหลายของเรา ซึ่งเป็นเสน่ห์ที่ดึงดูดผู้คนจากทั่วทุกมุมโลก STB สังเกตเห็นการเติบโตอย่างโดดเด่น โดยการใช้จ่ายในหมวดอาหารและเครื่องดื่มเพิ่มขึ้นถึง 63% หลังสถานการณ์การระบาดใหญ่ แสดงให้เห็นถึงความต้องการในประสบการณ์ด้านอาหารที่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน

การขยายธุรกิจของ Hungry Hub สู่สิงคโปร์นับเป็นโอกาสที่น่าตื่นเต้นในการยกระดับภาพลักษณ์ของเมืองเราให้เป็นจุดหมายปลายทางอันดับต้น ๆ สำหรับนักเดินทางที่รักในรสชาติ ไม่ว่าจะเป็นการสัมผัสประสบการณ์ในร้านอาหารชื่อดังที่ได้รับรางวัลมากมายหรือเพลิดเพลินกับเสน่ห์ของร้านฮอว์เกอร์ที่เปี่ยมเอกลักษณ์ เราหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะได้ต้อนรับผู้ที่ชื่นชอบการกินจากไทยและมาเลเซีย ให้มาร่วมค้นพบ สัมผัส และดื่มด่ำไปกับประสบการณ์อาหารอันโดดเด่นของสิงคโปร์”


COMMENTS

{{ errors.name }}

{{ errors.value }}

{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}

RELATED TOPICS

Please wait a moment