“OKJ” ปิดการขายหุ้น IPO หลังยอดจองล้น 11 เท่า รอเทรด 4 ต.ค. 67 นี้

บมจ. ปลูกผักเพราะรักแม่ พร้อมนำหุ้นเข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เป็นวันแรก ในวันที่ 4 ตุลาคม 67 ปลื้มกระแสตอบรับนักลงทุนล้นหลาม ยอดจองซื้อมากกว่า 11 เท่าฃ

นายชลากร เอกชัยพัฒนกุล ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปลูกผักเพราะรักแม่ จำกัด (มหาชน) (“บริษัทฯ” หรือ “OKJ”) เปิดเผยว่า บริษัทฯ พร้อมนำหุ้นเข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในวันที่ 4 ตุลาคมนี้ โดยใช้ชื่อย่อ ‘OKJ’ ในการซื้อขายหลักทรัพย์ ภายหลังประสบความสำเร็จในการเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 159 ล้านหุ้น ที่ราคาเสนอขาย 6.70 บาทต่อหุ้น คิดเป็นอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิต่อหุ้นของบริษัทฯ (P/E) ที่ประมาณ 24.13 เท่า ซึ่งภายหลังจากเปิดจองซื้อหุ้น ระหว่างวันที่ 23 – 25 กันยายน 2567 ที่ผ่านมา โดยหุ้น OKJ ได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นอย่างมาก สะท้อนพื้นฐานธุรกิจในการเป็นผู้นำธุรกิจให้บริการและจำหน่ายอาหาร เครื่องดื่มและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Be Organic from Farm to Table” เน้นวิถีเกษตรอินทรีย์ (Organic) ภายใต้แบรนด์ “โอ้กะจู๋” “Oh! Juice” และ “Ohkajhu Wrap & Roll” และศักยภาพในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพที่มีการเติบโตสูง ยิ่งจะช่วยสนับสนุนให้ OKJ เป็นหนึ่งในหุ้นที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนภายหลังจากเข้าเทรดอย่างแน่นอน

ทั้งนี้ ภายหลังจากเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ บริษัทฯ ได้วางแผนขยายการลงทุนเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันในปี 2567-2571 ซึ่งจะใช้เงิน IPO ในการขยายสาขาร้านโอ้กะจู๋ Oh! Juice และ Ohkajhu Wrap & Roll รวมถึงการขยายธุรกิจหรือแบรนด์ใหม่ ๆ การก่อสร้างครัวกลางแห่งใหม่เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตและประสิทธิภาพในการผลิต พัฒนา อุปกรณ์ และระบบสาธารณูปโภค เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเพาะปลูก และอาจนำเงินส่วนที่เหลือไปชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทฯ มีการเติบโตอย่างยั่งยืน

นายพิเชษฐ สิทธิอำนวย กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย กล่าวว่า หลังจาก บมจ.ปลูกผักเพราะรักแม่ หรือ OKJ ได้เปิดขายหุ้น IPO จำนวน 159 ล้านหุ้น มีมูลค่าหลักทรัพย์ (Market cap) ณ ราคา IPO เท่ากับ 4,080.30 ล้านบาท ได้รับความสนใจจากนักลงทุนจำนวนมาก โดยมียอดจองซื้อจากนักลงทุนสถาบันกว่า 11 เท่า สะท้อนความมั่นใจในปัจจัยพื้นฐานที่ดีและมีศักยภาพการเติบโตสูง ประกอบกับธุรกิจของบริษัทฯ ยังเป็นอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ซึ่งเป็นหนึ่งในแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจที่สำคัญ (Megatrends) ที่เกิดจากเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการบริโภคของประชากรทั่วไป หันมาสนใจและให้ความสำคัญกับการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพมากขึ้น ประกอบกับสัดส่วนประชากรในประเทศไทยที่มีแนวโน้มเข้าสู่สังคมสูงอายุ (Aging society) มากขึ้น ส่งผลให้อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพมีแนวโน้มการเติบโตสูง โดยเชื่อว่า OKJ มีความพร้อมในด้านผลิตภัณฑ์ ความเชี่ยวชาญ บุคลากร และอยู่ในสถานะที่จะสามารถใช้ประโยชน์จากการเติบโตดังกล่าวได้เป็นอย่างดี อีกทั้ง ด้วยความมุ่งมั่นสร้างการเติบโตในฐานะ “King of Organic Salad” ในประเทศไทย เป็นสิ่งช่วยผลักดันที่ทำให้กระแสความสนใจหุ้นของ OKJ ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี


COMMENTS

{{ errors.name }}

{{ errors.value }}

{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}

RELATED TOPICS

Please wait a moment