{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
หุ้นไอพีโอสุดร้อนแรง “บมจ.พีเอ็มซี เลเบิล แมททีเรียลส์ หรือ PMC” ประกาศปิดจองซื้อ ขายหมดเกลี้ยง 115.72 ล้านหุ้น รอเทรด mai 11 ก.ย. นี้
นางรัชดา เกลียวปฏินนท์ กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ 2 บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย บริษัท พีเอ็มซี เลเบิล แมททีเรียลส์ จำกัด (มหาชน) หรือ PMC เปิดเผยว่า หลังจากเปิดจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับผู้ถือหุ้นบริษัท ซีลิค คอร์พ จำกัด (มหาชน) หรือ SELIC (บริษัทแม่) ที่มีสิทธิได้รับจัดสรร และประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) รวมจำนวน 115.72 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 1.82 บาท ระหว่างวันที่ 29-30 สิงหาคม และ 2 กันยายน สำหรับนักลงทุนทั่วไป วันที่ 3-5 กันยายน 2567 โดยหุ้นของ PMC ได้รับความสนใจจองซื้อเข้ามาเต็มจำนวน สะท้อนความเชื่อมั่นในปัจจัยพื้นฐานของบริษัทฯ และศักยภาพการเติบโตของ PMC ผู้ผลิตสติ๊กเกอร์รายใหญ่ลำดับที่ 5 ของประเทศไทย
โดย PMC วางเป้าหมายที่จะรักษาความเป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจผลิตและจำหน่ายสติ๊กเกอร์ในประเทศไทย และมุ่งสู่การเป็นผู้ประกอบการรายใหญ่ของภูมิภาคอาเซียน โดยในช่วง 3 ปีข้างหน้า บริษัทตั้งเป้าที่จะเพิ่มยอดขายสู่ระดับ 1,000 ล้านบาท โดยจะรักษาอัตราการเติบโตของยอดขายไม่ต่ำกว่า 7–10% ต่อปี นอกจากนี้ การกำหนดราคาหุ้นสามัญ (IPO) ที่เสนอขายในครั้งนี้หุ้นละ 1.82 บาท คิดเป็นอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (Trailing 12-month P/E Ratio) เท่ากับ 12.18 เท่า (Pre-dilution) และ 17.40 เท่า (Fully-Diluted) ถือเป็นราคาที่เหมาะสม และน่าสนใจเมื่อเทียบกับราคาเป้าหมายที่บทวิเคราะห์ประเมินมูลค่าพื้นฐานของ PMC สะท้อนโอกาสการเติบโตของบริษัทในอนาคต
PMC เปิดเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 115.72 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท คิดเป็น 30% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ และคาดว่าจะเข้าซื้อขายวันแรกในตลาด mai วันที่ 11 กันยายน 2567 ในหมวดธุรกิจสินค้าอุตสาหกรรม (INDUS)
นายเอก สุวัฒนพิมพ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีเอ็มซี เลเบิล แมททีเรียลส์ จำกัด (มหาชน) หรือ PMC กล่าวว่า บริษัทฯ จะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนจำนวนประมาณ 200 ล้านบาท (หลังหักค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง) เพื่อใช้ลงทุนในสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับสายการผลิตใหม่ และชำระคืนเงินกู้ยืมสถาบันการเงิน โดยบริษัทฯ อยู่ระหว่างการลงทุนขยายกำลังการผลิตสติ๊กเกอร์ โดยการติดตั้งสายการผลิตใหม่ซึ่งจะเพิ่มกำลังการผลิตสินค้าของบริษัทฯ จากเดิม 75 ล้านตรม. เป็น 185 ล้านตรม.ต่อปี มูลค่าการลงทุนรวมประมาณ 230 ล้านบาท โดยมีแหล่งเงินทุนจากการกู้ยืมสถาบันการเงิน 77% และกระแสเงินสดภายในกิจการ 23% ซึ่งบริษัทฯ ได้ลงทุนไปแล้วโดยส่วนใหญ่ บริษัทฯ จะใช้เงินที่ได้รับจากการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ชำระค่าเครื่องจักรและอุปกรณ์ส่วนที่เหลือ และชำระคืนเงินกู้ยืมสถาบันการเงินที่เกี่ยวข้องกับสายการผลิตใหม่ และ/หรือ ชำระคืนเงินกู้ยืมระยะสั้นจากสถาบันการเงิน ตามที่บริษัทฯ เห็นสมควรและเป็นประโยชน์สูงสุดต่อการบริหารต้นทุนทางการเงินของบริษัทฯ ณ ช่วงเวลานั้นๆ
COMMENTS
{{ errors.name }}
{{ errors.value }}
{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
RELATED TOPICS