ธนาคารกรุงเทพ จับมือ โรงพยาบาลยันฮี ร่วมเป็นสะพานบุญเปิดจุดรับบริจาคโลหิตเดินหน้ากิจกรรม “80 แสนซีซีx2” ถึงสิ้นปี

ธนาคารกรุงเทพ จำกัด(มหาชน) ดึงโรงพยาบาลยันฮี ร่วมกิจกรรมพร้อมเปิดจุดรับบริจาคตลอดทั้งปี มุ่งสู่เป้าหมาย “80 แสนซีซีx2” หวังเพิ่มปริมาณโลหิต บรรเทาสถานการณ์โลหิตสำรองขาดแคลนในปัจจุบัน ใน “โครงการ 80 แสนซีซี 80 ปี ธนาคารกรุงเทพ”

นางสาวพจณี คงคาลัย ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ สายลูกค้าบุคคล ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า กำลังจะครบรอบ 80 ปี ในวันที่ 1 ธันวาคม 2567 นี้ ธนาคารได้ตั้งใจเชิญชวนคนไทยมาร่วมกันบริจาคโลหิตเพื่อส่งต่อความช่วยเหลือให้แก่ผู้คนในสังคม ผ่าน “โครงการ 80 แสนซีซี 80 ปีธนาคารกรุงเทพ” ซึ่งเริ่มต้นในปี 2566 และบรรลุเป้าหมายที่น่าภาคภูมิใจได้อย่างรวดเร็วจากความร่วมมือที่ดียิ่งของทุกภาคส่วน สามารถเพิ่มจำนวนโลหิตสำรองให้แก่ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ครบจำนวน 80 แสนซีซี แรกไปแล้วเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา (กุมภาพันธ์ 2567) ซึ่งโลหิตจำนวนนี้สามารถนำไปช่วยเหลือชีวิตเพื่อนมนุษย์ได้ไม่น้อยกว่า 60,000 คน และธนาคารยังได้ต่อยอดมาสู่กิจกรรม “80 แสนซีซีx2” เพื่อเดินหน้าภารกิจดังกล่าวต่อไป โดยได้ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานและกลุ่มองค์กรพันธมิตรต่าง ๆ มาร่วมกันเป็นส่วนหนึ่งของการให้ที่ยิ่งใหญ่นี้ด้วยกัน

ล่าสุดธนาคารมีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้การตอบรับจาก โรงพยาบาลยันฮี มาร่วมให้บริการจุดรับบริจาคโลหิต เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้สนใจสามารถเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของโครงการนี้ นับเป็นอีกหนึ่งช่องทางให้บริการที่สำคัญเพื่อให้เจ้าหน้าที่และบุคลากรของโรงพยาบาล ตลอดจนประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงโรงพยาบาลสามารถเข้าร่วมโครงการนี้ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว

ทพญ.ลดาวดี สัมฤทธิวณิชชา กรรมการบริหารโรงพยาบาลยันฮี กล่าวว่า นับเป็นเรื่องดีที่ธนาคารกรุงเทพได้สร้างสรรค์ “โครงการ 80 แสนซีซี 80 ปีธนาคารกรุงเทพ” ขึ้นมา และโรงพยาบาลก็มีความยินดีที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของโครงการนี้ เพื่อเป็นจุดให้บริการรับบริจาคโลหิต ณ บริเวณข้างอาคารอินเตอร์ 3 โรงพยาบาลยันฮี เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้กับเจ้าหน้าที่ พนักงาน ประชาชนทั่วไปในพื้นที่โดยรอบที่สนใจบริจาคโลหิตสามารถมาบริจาคได้ง่ายขึ้น ซึ่งพบว่ามีผู้ร่วมเข้าบริจาคจำนวน 113 ราย รวมปริมาณบริจาคโลหิตได้ 45,200 ซีซี ภายในวันเดียว และโรงพยาบาลซึ่งมีบุคลากรรวมกว่า 1,500 ราย ได้วางแผนว่าจะเปิด รับบริจาคโลหิตต่อเนื่องในทุกๆ 3 เดือน เพื่อเพิ่มโลหิตในคลังสำรองของสภากาชาดไทย และสนับสนุนปริมาณบริจาคโลหิตให้ได้ครบตามที่ธนาคารกรุงเทพตั้งเป้าหมายไว้ โดยคาดว่าจะมีผู้สนใจเข้าร่วมบริจาคร้อยละ 15-20 จากจำนวนบุคลากรทั้งหมด

ปัจจุบันปัญหาการขาดแคลนโลหิตสำรอง ยังคงเป็นปัญหาสำคัญของทุกสถานพยาบาลในประเทศไทย จึงขอชื่นชมว่า การจัดโครงการรับบริจาคโลหิตอย่างต่อเนื่องของธนาคารกรุงเทพนับเป็นกิจกรรมเพื่อสังคมที่จะช่วยสร้างประโยชน์ให้แก่เพื่อนมนุษย์ได้อย่างแท้จริง เพราะนอกจากผู้ป่วยที่ได้รับบริจาคโลหิตจะได้ประโยชน์โดยตรงด้านการรักษาแล้ว ผู้บริจาคโลหิตเองก็จะได้รับประโยชน์เมื่อร่างกายสร้างเลือดใหม่ ทุกครั้งที่บริจาคโลหิตจะช่วยเพิ่มปริมาณออกซิเจนในเลือดได้ดี ทั้งยังมีงานวิจัยพบว่าการบริจาคโลหิตเป็นประจำสม่ำเสมอ ยังสามารถลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจได้อย่างมีนัยสำคัญ ดังนั้น โดยส่วนตัวแล้วจึงมีความยินดีมากที่โรงพยาบาลยันฮีมีโอกาสเริ่มต้นความร่วมมือกับธนาคารกรุงเทพทำกิจกรรมเพื่อสังคมในครั้งนี้ รวมถึงกิจกรรมอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

นอกจากนี้ นางสาวพจณี ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า “โครงการ 80 แสนซีซี 80 ปีธนาคารกรุงเทพ” มีจำนวนผู้บริจาครวม 23,768 ราย และมียอดปริมาณบริจาคโลหิตรวม 9,507,200 ซีซี (ณ วันที่ 10 มิถุนายน 2567) ซึ่งมาจากความร่วมมือเปิดจุดรับบริจาค โดยศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ภาคบริการโลหิตแห่งชาติ 12 แห่งทั่วประเทศ หน่วยรับบริจาคโลหิตเคลื่อนที่และโรงพยาบาลแต่ละจังหวัดที่เป็นโรงพยาบาลสาขาบริการโลหิต หรือจุดรับบริจาคเคลื่อนที่ ซึ่งมีหน่วยงานต่าง ๆ เข้าร่วมจำนวนมาก อาทิ มณฑลทหารบกที่ 12 ค่ายจักรพงษ์ จังหวัดปราจีนบุรี มีผู้ร่วมบริจาคจำนวน 61 ราย ปริมาณโลหิต 27,450 ซีซี, หน่วยรับบริจาคโลหิตเคลื่อนที่ จังหวัดราชบุรี มีผู้ร่วมบริจาค 65 ราย ปริมาณโลหิต 26,000 ซีซี, หน่วยรับบริจาคโลหิตเคลื่อนที่ จังหวัดลพบุรี มีผู้ร่วมบริจาค 256 ราย ปริมาณโลหิต 102,400 ซีซี, องค์การบริหารจังหวัดชลบุรี มีผู้เข้าร่วมบริจาค 114 ราย ปริมาณโลหิต 45,600 ซีซี และศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ ฉะเชิงเทรา มีผู้เข้าร่วมบริจาค 99 ราย ปริมาณโลหิต 44,550 ซีซี

สำหรับผู้เข้าร่วมบริจาคโลหิต สามารถสแกนคิวอาร์โค้ด กรอกข้อมูล ร่วมสะสมจำนวนซีซีกับ โครงการ “80 แสนซีซี 80 ปี ธนาคารกรุงเทพ” ได้จนถึง 30 พฤศจิกายน 2567 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่บัวหลวงโฟน โทร.1333หรือ 0-2645-5555