กรุงเทพธนาคม “ร่วมพัฒนาเมืองอย่างสร้างสรรค์เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของชาวกรุงเทพมหานครอย่างยั่งยืน”

ศาสตราจารย์พิเศษ ธงทอง จันทรางศุ ประธานกรรมการ บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด พร้อมด้วยคณะกรรมการและผู้บริหาร ร่วมกันแถลงข่าว 2 ปีการดำเนินงานของกรุงเทพธนาคม ภายใต้นโยบายจากนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ตามแนวทาง “9 ด้าน 9 ดี” ปลอดภัยดี โปร่งใสดี เศรษฐกิจดี เดินทางดี สิ่งแวดล้อมดี สุขภาพดี สังคมดี เรียนดี และบริหารจัดการดี เพื่อยกระดับคุณภาพความเป็นอยู่ของชาว กทม. ในทุกๆ ด้านอย่างยั่งยืน ซึ่งทางกรุงเทพธนาคมก็ได้กำหนดนโยบายสนับสนุนใน 3 ด้านหลักๆ คือ โปร่งใสดี เดินทางดี สิ่งแวดล้อมดี เพื่อสร้างความยั่งยืนในการเป็นวิสาหกิจภายใต้ กทม. ที่ตอบสนองนโยบายได้อย่างเข้มแข็งมั่นคงต่อไปในอนาคต

ศ.ธงทอง กล่าวว่า 2 ปีที่ผ่านมาภายใต้คณะกรรมการชุดปัจจุบันได้ตอบสนองนโยบายจากผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร โดยมุ่งเน้นการสร้าง Foundation ที่ทำให้บริษัทมีหลักธรรมาภิบาล และความโปร่งใสภายใต้การกำกับดูแลของกรุงเทพมหานคร ควบคู่ไปกับการร่วมพัฒนาเมือง สู่มหานครแห่ง “การเดินทางอัจฉริยะ” และ “พัฒนาเมืองอย่างสร้างสรรค์” อีกทั้งยังเร่งแก้ไขปัญหาโครงการขนาดใหญ่ที่มีความสำคัญต่อกรุงเทพมหานคร เช่น โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ซึ่ง 2 ปีที่ผ่านมาคณะกรรมการมีความพอใจในความคืบหน้าและความสำเร็จเป็นไปตามแผนงานที่กำหนดไว้ ตั้งแต่การสร้างการกำกับดูแลผ่านคณะกรรมการชุดย่อยต่างๆ ที่เข้มแข็งมีคุณภาพ การนำองค์กรเข้าเป็นแนวร่วมต่อต้านคอร์รัปชันของภาคเอกชนไทย (CAC) และเข้าร่วมโครงการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาคเอกชนที่เป็นคู่ค้าคู่สัญญากับหน่วยงานรัฐ ของป.ป.ช. หรือ โครงการ ITAGC เพื่อประเมินความโปร่งใสในโครงการกำจัดและเก็บขนมูลฝอยติดเชื้อ ที่ได้รับผลการประเมิน ระดับ AA ได้คะแนน 96.05 ในปี 2566 และในปี 2567 ในการประเมินโครงการพัฒนาระบบการเดินเรือในคลองผดุงกรุงเกษม

อีกทั้งบริษัทยังปรับเปลี่ยนมาใช้มาตรฐานการรายงานทางการเงินสำหรับกิจการที่มีส่วนได้เสียต่อสาธารณะ TFRS for PAEs เป็นมาตรฐานเดียวกับบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งจะส่งผลให้ตัวเลขในงบการเงินสามารถสะท้อนฐานะและผลการดำเนินงานของกิจการได้อย่างถูกต้อง โปร่งใส มีความน่าเชื่อถือ จากนี้ไปบริษัทก็จะยังคงมุ่งเน้นในการแก้ไขปัญหาโครงการขนาดใหญ่ที่มีความสำคัญให้สำเร็จลุล่วงต่อไป รวมถึงการเริ่มพัฒนาโครงการที่สร้างสรรค์ใหม่ๆ เพื่อตอบสนองนโยบาย กทม. ในการพัฒนาเมือง

ด้านนายธรัฐพร เตชะกิจขจร กรรมการผู้อำนวยการกรุงเทพธนาคม กล่าวว่าจากการที่ทีมบริหารได้ทำงานร่วมกับคณะกรรมการอย่างใกล้ชิด พนักงานและผู้บริหารมีความมั่นใจในแนวทางและนโยบายเป้าหมายที่ได้กำหนดไว้และทำงานร่วมมือกันได้อย่างสอดคล้องมีประสิทธิภาพเป็นอย่างดี โดยในส่วนของโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ได้มีการชำระค่างานระบบเดินรถ (E&M) ของส่วนต่อขยาย 2 มูลค่า 23,312 ล้านบาท และ BTSC ก็ได้โอนกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินให้ กทม. แล้ว เมื่อวันที่ 2 เม.ย.67 ส่วนที่ BTSC มีการฟ้องต่อศาลปกครองกลางให้ชำระหนี้ค่าจ้างเดินรถ (O&M) ส่วนต่อขยาย 1 และ 2 รวม 22,823 ล้านบาท ซึ่งทางบริษัทก็ได้ทำการยื่นอุทธรณ์ไป ขณะนี้อยู่ในระหว่างรอผลการพิจารณาคดี ในระยะสั้นบริษัทจะเร่งกระบวนการหารายได้เชิงพาณิชย์จากการให้สิทธิพื้นที่ป้ายโฆษณาและร้านค้าบนสถานีรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย 1 และ 2 เพิ่มเติมภายในปี 2567 แผนการดำเนินงานต่อไป บริษัทจะเข้าร่วมแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้างในภาพรวมของรถไฟฟ้าสายสีเขียวทั้งระบบ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อภาครัฐและประชาชนผู้ใช้บริการ อีกทั้งยังเป็นธรรมกับผู้ประกอบการ สามารถสนองนโยบายภาครัฐในการสร้างระบบตั๋วร่วมและค่าโดยสาร 20 บาทตลอดสายให้สำเร็จได้

โครงการเก็บขนและกำจัดมูลฝอยติดเชื้อในพื้นที่กรุงเทพมหานคร บริษัทมีการให้บริการกับสถานพยาบาลกว่า 5,400 แห่ง น้ำหนักมูลฝอยเฉลี่ย 55 ตัน/วัน ในอนาคตมีแผนที่จะพัฒนาระบบการจัดการเพื่อเข้าสู่ระบบมาตรฐาน ISO 9000 และ ISO 14000 รวมทั้งจะลดปัญหาฝุ่น PM2.5 ด้วยการนำรถไฟฟ้ามาใช้ทดแทนรถเก็บขนที่มีอยู่จำนวน 31 คัน

ส่วนโครงการใหม่ๆ ที่บริษัทกำลังพัฒนา ประกอบด้วยโครงการแอปพลิเคชั่นวินมอเตอร์ไซค์ เพื่อเป็นแอปพลิเคชั่นโดยเฉพาะที่สนับสนุนและยกระดับคุณภาพของวินมอเตอร์ไซค์เพื่อการบริการที่ครอบคลุมทั่วถึง เป็นประโยชน์ต่อทั้งประชาชนชาว กทม. และวินมอเตอร์ไซค์ ขณะนี้ได้ผู้ให้บริการแอปพลิเคชั่นหลักแล้ว คาดว่าจะเริ่มให้บริการเป็นการทั่วไปได้ภายใน ก.ค 67 โครงการเรือ Taxi EV Boat สร้างเส้นทางเดินเรือเพื่อการเดินทางทั่วไปและท่องเที่ยว เช่น คลองบางลำพู คลองลาดพร้าว เป็นเรือไฟฟ้า EV เพื่อช่วยในด้านสิ่งแวดล้อม คาดว่าจะเริ่มโครงการนำร่องได้ใน ก.ค. 2567 โครงการระบบโต้ตอบ BKK Chat AI ในการบริการสาธารณะที่หลากหลาย ในการตอบสนองข้อซักถามต่างๆ ให้กับประชาชนแต่ละวันเป็นจำนวนมาก คาดว่าจะเริ่มนำระบบ BKK Chat AI นี้มานำร่องทดสอบเบื้องต้นกับหน่วยงานภายใน กทม. ใน ส.ค. 2567


COMMENTS

{{ errors.name }}

{{ errors.value }}

{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}

RELATED TOPICS

Please wait a moment