{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
วันเกิดตุ๊กตาบาร์บี้
ปีที่ผ่านมา นิตยสารฟอร์บส ประเมินมูลค่าของแมทเทล อิงค์ (Mattel, Inc.) บริษัทผู้ผลิตตุ๊กตาบาร์บี้ มีมูลค่ามากถึง 8,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 2.7 แสนล้านบาท แต่กว่าแมทเทลจะทำให้แบรนด์ก้าวกระโดดมาสู่บริษัทระดับแถวหน้าของโลกได้นั้น ต้องผ่านอุปสรรคและจุดพลิกผันมากมาย
.
บริษัทแมทเทล ก่อตั้งขึ้นใน พ.ศ. 2488 โดย เอลเลียต และ รูธ แฮนดเลอร์ สองสามีภรรยา และแฮรอล แม็ตต์ แม็ตสัน เดิมทีบริษัทแมทเทลทำธุรกิจผลิตกรอบรูป จากนั้นขยายมาผลิตเฟอร์นิเจอร์บ้านตุ๊กตา ต่อมาแม็ตสันประสบปัญหาด้านสุขภาพจึงขายหุ้นทั้งหมดให้กับแฮนดเลอร์
.
จุดกำเนิดของตุ๊กตาบาร์บี้ มาจาก “บาร์บาร่า” (Barbara) ลูกสาวของรูธ แฮนดเลอร์ ที่ชอบเล่นตุ๊กตากระดาษ และสนุกกับการสมมติบทบาทให้กับตุ๊กตา ทำให้รูธเล็งเห็นช่องทางในการผลิตตุ๊กตารวมถึงช่วงนั้นเธอได้มีโอกาสไปเที่ยวยุโรป และพบกับตุ๊กตา Bild Lilli ซึ่งกลายมาเป็นต้นแบบในการผลิตตุ๊กตาบาร์บี้ ส่วนชื่อบาร์บี้นั้น แปลงมาจากชื่อของบาร์บาร่า (Barbara) นั่นเอง
.
ในวันที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2502 ตุ๊กตาบาร์บี้ถูกเปิดตัวเป็นครั้งแรกในงานเทศกาลของเล่นนานาชาติอเมริกัน (American International Toy Fair) ที่นิวยอร์ก และถูกกำหนดให้เป็นวันเกิดอย่างเป็นทางการของบาร์บี้
.
บาร์บี้ตัวแรก ใส่ชุดว่ายน้ำลายม้าลายสลับขาวดำ รวบผมหางม้า มีให้เลือกสองสีคือผมสีดำและผมสีน้ำตาลเข้ม ในปีแรกตุ๊กตาบาร์บี้ถูกขายออกไปมากถึง 350,000 ตัว
.
จากวันนั้นถึงวันนี้ บาร์บี้มีอายุครบ 59 ปีแล้ว หากเปรียบเป็นคน บาร์บี้ก็คงจะกลายเป็นคุณป้าบาร์บี้ แต่วันนี้บาร์บี้ยังคงเป็นสาวสวยสะพรั่งไม่เปลี่ยนแปลง จะเปลี่ยนก็แค่เสื้อผ้าหน้าผมไปตามยุคสมัย มีคอลเลคชั่นใหม่ๆให้ผู้ที่ชื่นชอบได้สะสมกัน แถมยังคงครองใจผู้ชื่นชอบบาร์บี้ไว้ได้อย่างเหนียวแน่น แม้จะมีคู่แข่งเป็นตุ๊กตาสาวน้อยวัยกระเตาะอย่างบลายธ์ (Blythe) ที่เป็นกระแสฟีเวอร์ในช่วง พ.ศ. 2550 อยู่พักหนึ่งแล้วเงียบหายไป หรือ BJD (Ball jointed doll) ตุ๊กตาที่ทำจากเรซิ่นมี ข้อต่อแบบเบ้า ซึ่งสามารถเคลื่อนไหวได้หลายทิศทางและโพสท่าได้มากกว่าบาร์บี้และบลายธ์
.
จากรายงานยอดขายตลอดทั้งปีของบริษัทแมทเทล ระบุว่า ในแต่ละปีตุ๊กตาบาร์บี้จะมียอดขายกว่าพันล้านดอลลาร์สหรัฐใน 150 ประเทศทั่วโลก แต่ใน พ.ศ. 2558 เริ่มประสบปัญหา ยอดขาย บาร์บี้ลดลงมาอยู่ที่ 905.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
.
ต่อมาใน พ.ศ. 2559 บาร์บี้มียอดขายรวมทั่วโลกเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 971.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และใน พ.ศ. 2560 ยอดขายกลับลดลงอีก 2% อยู่ที่ 954.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
.
ยอดขายที่ร่วงลงของบาร์บี้ คาดว่าเป็นผลมาจากการที่บริษัทเลโก้ (Lego) เปิดตัวภาพยนตร์ “The Lego Movie 2014” ที่สร้างรายได้ถล่มทลายในหลายประเทศ ความสำเร็จของภาพยนตร์เรื่องนี้สามารถทำให้เลโก้ก้าวขึ้นตำแหน่งแบรนด์ที่ทรงพลังมากที่สุดในโลกประจำปี 2017 จากการจัดอันดับของนิตยสารฟอร์บส์ และจากรายงาน “The annual report on the world’s most valuable toy brands 2017” ของ Brand Finance ที่ปรึกษาด้านการประเมินค่าและกลยุทธ์ด้านตราสินค้าชั้นนำของโลก ระบุว่า เลโก้เป็นแบรนด์ของเล่นที่มีมูลค่ามากที่สุดของโลกและแข็งแกร่งที่สุดในอุตสาหกรรมของเล่นตั้งแต่ พ.ศ. 2558 จนถึงปัจจุบัน โดยมูลค่าขณะนี้อยู่ที่ 7.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
.
จากปัญหาทางด้านคู่แข่งในตลาดของเล่นเด็ก และประเด็นของกลุ่ม “เฟมินิสต์” ทำให้ตุ๊กตาบาร์บี้ อดีตแบรนด์ของเล่นอันดับหนึ่งของโลก ต้องตกลงมาอยู่ในอับดับสามและสี่
.
ใน พ.ศ. 2559 บริษัทแมทเทลจึงต้องปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การตลาดใหม่หลายด้านให้สอดคล้องกับยุคปัจจุบัน พร้อมแก้ไขความผิดพลาดที่บริษัทได้เคยสร้างภาพจำความงามในอุดมคติของเด็กผู้หญิงแบบผิดๆ ว่า ผู้หญิงที่สวยนั้นต้องผิวขาว สูง เอวคอดและต้องผมบลอนด์เท่านั้น
.
บริษัทแมทเทลได้ปฏิวัติวงการตุ๊กตาบาร์บี้ โดยการออกคอลเลคชั่นใหม่ชื่อว่า “Barbie Fashionistas 2016” ที่มีให้เลือกถึง 4 รูปร่างใน 7 สีผิว มีสีดวงตาให้เลือกอีก 22 สี และทรงผม 24 แบบ ทำให้ยอดขายใน พ.ศ. 2559 กระเตื้องขึ้นมาเกือบ 7% ซึ่งถือเป็นความสำเร็จของบริษัทที่ต้องการตอบสนองความหลากหลายทางเชื้อชาติ และต้องการลบภาพจำความงามในอุดมคติของเด็กผู้หญิงที่แมทเทลได้เคยสร้างไว้แบบผิดๆ ด้วย
ต้องติดตามดูกันต่อไปว่า บริษัทแมทเทลผู้ผลิตตุ๊กตาบาร์บี้จะปรับเปลี่ยนกลยุทธ์อย่างไร “บาร์บี้” ตุ๊กตาหญิงสาวรูปร่างหน้าตาสวยสง่างามราวกับเจ้าหญิงที่กลายเป็นไอคอนสร้างแรงบันดาลใจให้กับเด็กๆและสาวๆหลายคนทั่วโลก จะสามารถกลับมาทวงตำแหน่งแบรนด์ของเล่นอันดับหนึ่งของโลกได้อีกหรือไม่
COMMENTS
{{ errors.name }}
{{ errors.value }}
{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
RELATED TOPICS