{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
“สิงคโปร์” เกาะเล็กๆ ที่อยู่บริเวณปลายคาบสมุทรมลายู แต่เดิมเป็นเกาะที่ไม่ค่อยมีใครให้ความสำคัญ จนกระทั่งในยุคล่าอาณานิคม ข้าหลวงชาวอังกฤษชื่อว่า เซอร์โธมัส สแตมฟอร์ด แรฟเฟิลส์ ได้ออกสำรวจหาที่ตั้งศูนย์กลางการค้า จนเจอเกาะรีเอาซึ่งอยู่ทางใต้ของสิงคโปร์ เขาพอใจเกาะรีเอามาก แต่หมู่เกาะดังกล่าวเป็นของฮอลันดาไปแล้ว เขาจึงเดินทางต่อไปยังเกาะสิงคโปร์ ซึ่งขณะนั้นยังเป็นรัฐที่ปกครองด้วยสุลต่าน มีประชากรเพียงพันกว่าคน
ในปี พ.ศ. 2359 เซอร์ โทมัส แสตมฟอร์ด แรฟเฟิลส์ ในฐานะผู้แทนของอังกฤษได้เจรจาขอเช่าเกาะสิงคโปร์ จนได้เข้ามาจัดตั้งสถานีการค้า และเป็นผู้บุกเบิกสิงคโปร์ ร่างกฎหมายต่างๆ ทั้งกฎหมายห้ามค้าทาส กำจัดแหล่งการพนัน จัดตั้งกำลังตำรวจ ตั้งสถาบันสอนภาษาจีนและภาษาพื้นเมือง ทำให้สิงคโปร์เจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว จนกลายเป็นเมืองท่าขนาดใหญ่ ส่งผลให้มีผู้อพยพเข้ามาอยู่ในสิงคโปร์เป็นจำนวนมาก ทั้งชาวมลายู ชาวอินเดีย และชาวจีนซึ่งเป็นกลุ่มที่เข้ามามากที่สุด
หลังจากนั้น สิงคโปร์ตกเป็นอาณานิคมของอังกฤษโดยสมบูรณ์ในปี พ.ศ. 2410
ภายหลังอังกฤษนำรูปแบบอาณานิคมมาใช้ปกครองสิงคโปร์ ชาวจีนได้อพยพเข้ามาอีกเป็นจำนวนมาก เพราะเชื่อมั่นว่าสิงคโปร์ปลอดภัย รวมถึงไม่มีข้อห้ามเรื่องการอพยพเข้าเมือง ที่สำคัญยังเอื้อต่อการทำธุรกิจด้วย ชาวจีนจึงได้เข้ามาบุกเบิกทำการค้าขายจนสิงคโปร์เติบโตขึ้น กลายเป็นเมืองท่าขนถ่ายสินค้าที่สำคัญของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เศรษฐกิจมีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว
ต่อมาในปี พ.ศ. 2412 ได้มีการขุดคลองสุเอซ เชื่อมระหว่างทะเลเมดิเตอร์เรนียนกับทะเลแดงเข้าด้วยกัน ส่งผลให้สิงคโปร์มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์มากยิ่งขึ้น และกลายเป็นที่ตั้งฐานทัพทางการทหารที่สำคัญของอังกฤษ หลังจากนั้นในช่วงระหว่างปี พ.ศ. 2416 – 2456 การค้าของสิงคโปร์ได้ขยายตัวขึ้นอีกกว่า 700 เท่า หลังจากนั้นความรุ่งเรืองทางการค้าของสิงคโปร์ต้องสะดุดลงในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อสิงคโปร์ได้ตกอยู่ภายใต้การยึดครองของญี่ปุ่น 3 ปี ต่อมาหลังญี่ปุ่นแพ้สงครามให้กับฝ่ายสัมพันธมิตร อังกฤษก็ได้กลับเข้ามาปกครองสิงคโปร์อีกครั้ง
การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของสิงคโปร์เกิดขึ้นอีกครั้งในปี พ.ศ. 2506 เมื่อสิงคโปร์ได้ตัดสินใจทำประชามติเพื่อเข้าร่วมกับมาลายา ซาบาห์ และซาราวัก เป็นสหพันธรัฐมาเลเซีย หลังจากที่สิงคโปร์เห็นว่ามาเลเซียกำลังจะได้รับเอกราชจากอังกฤษอย่างสมบูรณ์ จึงขอเข้าไปรวมประเทศ เพื่อที่จะได้เอกราชจากอังกฤษด้วย โดยสิงคโปร์มีสถานะเป็นรัฐหนึ่งในสหพันธรัฐฯ
ทว่า หลังจากรวมประเทศได้ 2 ปี สิงคโปร์ก็ประกาศแยกตัวเป็นเอกราชจากมาเลเซีย เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2508 เนื่องจากความขัดแย้งในเรื่องการแบ่งปันอำนาจ การแทรกแซงกิจการภายในรัฐของรัฐบาลมาเลเซีย รวมถึงความแตกต่างด้านเชื้อชาติและวัฒนธรรม
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา สิงคโปร์จึงได้กำหนดให้วันที่ 9 สิงหาคมของทุกปี เป็นวันชาติ
ในการฉลองวันชาติสิงคโปร์ครบปีที่ 52 ในปีนี้ มี Theme การจัดงานว่า “We are Singapore.” เพื่อสื่อถึงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันท่ามกลางความหลากหลายทางวัฒนธรรมของชาวสิงคโปร์ ที่ก่อให้เกิดพลังที่เข้มแข็งและสร้างสรรค์ ซึ่งจะช่วยพาให้สิงคโปร์เอาชนะความท้าทายในอนาคตได้ โดยได้นำแนวคิดนี้มาแต่งเป็นเพลง (Theme Song) เฉลิมฉลองวันชาติในปีนี้ ที่ชื่อว่า “We are Singapore” ด้วย
นอกจากจะมีการจัดงานเฉลิมฉลองวันชาติอย่างยิ่งใหญ่อลังการ มีการสวนสนามของเหล่าทหาร พาเหรดดนตรีจากผู้คนหลากหลายวัฒนธรรม ที่จะจัดขึ้นอ่าวมารีน่าแล้ว ยังมีแคมเปญ “18 Days of Giving, A Lifetime of Caring.” ให้ชาวสิงคโปร์และผู้ที่อาศัยในสิงคโปร์ได้ร่วมกิจกรรมคืนสิ่งดีๆ สู่สังคมและชุมชน ไม่ว่าจะเป็นการบริจาคสิ่งของแก่ผู้ด้อยโอกาส เยี่ยมเยียนผู้สูงอายุ สอนศิลปะ สอนทำอาหาร สอนจัดดอกไม้ หรือทำความสะอาดสถานที่สาธารณะต่างๆ โดยมีหน่วยงานภาคเอกชนร่วมให้การสนับสนุน
ขอบคุณข้อมูล
COMMENTS
{{ errors.name }}
{{ errors.value }}
{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
RELATED TOPICS
