PHG ปั๊มรายได้ปี 66 ที่ 2,137.96 ล้าน โต 4.8% เคาะปันผล 0.52 บาท

“แพทย์รังสิตเฮลท์แคร์กรุ๊ป” กวาดรายได้ปี 66 ที่ 2,137.96 ลบ. เพิ่มขึ้น 4.8% YOY หลังรายได้เพิ่มขึ้นทุกกลุ่มลูกค้า ส่วนรพ.แม่และเด็กหนุนอัตราครองเตียงที่ 87.7% พร้อมแจกปันผล 0.52 บาทต่อหุ้น ขึ้น XD วันที่ 18 เม.ย.67

นายรณชิต แย้มสอาด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แพทย์รังสิตเฮลท์แคร์กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ PHG เปิดเผยว่า ผลประกอบการของปี 2566 บริษัทฯ มีรายได้รวมอยู่ที่ 2,137.96 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 98.16 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 4.8% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 2,039.80 ล้านบาท ในขณะที่มีกำไรสุทธิสำหรับปี 2566 อยู่ที่ 259.47 ล้านบาท โดยการเพิ่มขึ้นของรายได้ของบริษัทฯ มีสาเหตุหลักมาจากกการเติบโตของรายได้ของกลุ่มบริษัทฯจากการให้บริการที่ไม่เกี่ยวกับโควิด-19 หรือ Normalized revenue ที่อยู่ที่ 22.4% ซึ่งการเติบโตของรายได้ดังกล่าวมาจากการเพิ่มขึ้นในส่วนกลุ่มลูกค้าทั่วไปและกลุ่มลูกค้าประกันสังคม โดยถึงแม้ว่าการให้บริการเกี่ยวกับโควิด-19 จะลดลงเนื่องจากการแพร่ระบาดของสถานการณ์โควิด-19 สิ้นสุด และกลายเป็นโรคประจำถิ่นแล้ว แต่กลุ่มโรงพยาบาลยังมีอัตราการครองเตียงสำหรับปี 2566 อยู่ที่ 87.7% เพิ่มขึ้นจากในปี 2565 ที่อยู่ที่ 85.9%

โดยการเพิ่มขึ้นของอัตราครองเตียงหลักๆ มาจากการเข้ารับบริการของผู้ป่วยเด็กจากโรงพยาบาลเฉพาะทางแม่และเด็ก เนื่องจากมีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้ออาร์เอสวี และโรคไข้หวัดใหญ่ นอกจากนี้อัตราการเข้ารับบริการของผู้ป่วยนอกสาหรับปี 2566 อยู่ที่ 81.6% เพิ่มขึ้นจากในปี 2565 ที่อยู่ที่ 75.9% โดยการเพิ่มขึ้นดังกล่าวเป็นการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้เข้ารับบริการต่อวันทั้งในส่วนของลูกค้าทั่วไป และลูกค้าประกันสังคม เนื่องจากโรงพยาบาลได้เปิดรับจำนวนผู้ประกันตนเพิ่มขึ้นในปี 2566 จาก 140,000 คน เป็น 156,000 คน

ทั้งนี้บริษัทฯ จะจ่ายปันผลเป็นเงินสดในอัตราหุ้นละ 0.52 บาท โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิเข้าร่วมประชุมสามัญผู้ถือหุ้น และสิทธิในการรับเงินปันผล (Record Date) ในวันศุกร์ที่ 19 เมษายน 2567 และกำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) ในวันพฤหัสบดีที่ 18 มีนาคม 2567 กำหนดจ่ายปันผลในวันพฤหัสบดีที่ 9 พฤษภาคม 2567


COMMENTS

{{ errors.name }}

{{ errors.value }}

{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}

RELATED TOPICS

Please wait a moment