{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
กระทรวงการคลังเดินหน้าเร่งรัดติดตามการใช้จ่ายงบประมาณอย่างเข้มข้น เพื่อให้การใช้จ่ายเงินงบประมาณคุ้มค่า และเกิดประโยชน์สูงสุด
นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณและการใช้จ่ายภาครัฐ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการติดตามเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณและการใช้จ่ายภาครัฐ ครั้งที่ 1/2567 ในวานนี้ (22 ก.พ. 2567) ว่า ผลการเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ไปพลางก่อน ตั้งแต่ต้นปีงบประมาณจนถึงวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2567 เบิกจ่ายแล้ว 1,322,916 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 64.64 ของจำนวนเงินจัดสรร 1,816,497 ล้านบาท จำแนกเป็น รายจ่ายประจำ เบิกจ่ายแล้วจำนวน 1,104,510 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 66.29 รายจ่ายลงทุน เบิกจ่ายแล้วจำนวน 69,755 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 46.38 เงินกันไว้เบิกเหลื่อมปี เบิกจ่ายแล้วจำนวน 70,723 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 44.17 (ของวงเงินกันปี 2566 จำนวน 160,130 ล้านบาท)
“สำหรับเป้าหมายการเบิกจ่ายงบประมาณและการใช้จ่ายภาครัฐ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ได้กำหนดเป้าหมายฯ ในภาพรวมร้อยละ 93 การเบิกจ่ายงบประมาณ รายจ่ายประจำร้อยละ 98 การเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายลงทุนร้อยละ 75 และเป้าหมายการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายภาพรวม รายจ่ายประจำ และรายจ่ายลงทุน ร้อยละ 100 ทั้งนี้ กรมบัญชีกลางได้แจ้งให้หน่วยรับงบประมาณดำเนินการตามหนังสือสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ด่วนที่สุด ที่ นร 0505/ว 77 ลงวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2567 เรื่อง รายงานผลการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปี งบประมาณ พ.ศ. 2566 ไปพลางก่อน และมาตรการเร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ไปพลางก่อน และให้ดำเนินการ ดังนี้
1. ให้เร่งดำเนินการส่งเงินจัดสรรต่อไปยังสำนักงานในส่วนภูมิภาคภายใน 5 วัน นับแต่วันที่ได้รับอนุมัติเงินจัดสรร เพื่อให้สำนักงานในส่วนภูมิภาคดำเนินการใช้จ่ายหรือก่อหนี้ผูกพันต่อไป
2. รายการลงทุนปีเดียวให้ก่อหนี้ผูกพันให้แล้วเสร็จภายในเดือนมิถุนายน 2567 สำหรับรายการผูกพันใหม่ให้ก่อหนี้ผูกพันให้แล้วเสร็จภายในเดือนกรกฎาคม 2567
3. ให้หัวหน้าหน่วยงานเจ้าของงบประมาณกำกับดูแล บริหารจัดการเร่งรัดการดำเนินการ เพื่อให้สามารถก่อหนี้และเบิกจ่ายเงินงบประมาณให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
สำหรับการเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจ ให้ดำเนินการดังนี้
1. กำหนดเป้าหมายการเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจให้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 95 ของกรอบ งบลงทุน และเป็นตัวชี้วัดของผู้บริหารสูงสุดของรัฐวิสาหกิจ
2. ให้เร่งลงนามในสัญญาภายในเดือนมีนาคม 2567 สำหรับรัฐวิสาหกิจที่ใช้เงินงบประมาณใน การลงทุน ให้เตรียมความพร้อมเพื่อให้สามารถลงนามในสัญญาได้ทันทีเมื่อได้รับการจัดสรรงบประมาณ
3. ให้ปรับแผนการเบิกจ่าย โดยเพิ่มการเบิกจ่ายในช่วงเดือนมกราคม 2567 - มิถุนายน 2567 (Front - Loaded) และหลีกเลี่ยงการกระจุกตัวของการเบิกจ่ายงบลงทุนในไตรมาสสุดท้าย
4. ให้รัฐวิสาหกิจปีปฏิทินปรับปรุงงบลงทุนระหว่างปี 2567 ให้แล้วเสร็จภายในไตรมาสแรก สำหรับรัฐวิสาหกิจปีงบประมาณที่ยังปรับปรุงไม่แล้วเสร็จ ให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเดือนมีนาคม 2567
5. ให้กระทรวงเจ้าสังกัดกำกับดูแลการเบิกจ่ายให้ได้ตามเป้าหมาย
นอกจากนี้ กระทรวงการคลังยังได้กำหนดแนวทางปฏิบัติเพื่อเร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ให้รวดเร็วขึ้น โดยให้หน่วยงานของรัฐเตรียมการจัดซื้อจัดจ้างในขั้นตอนที่เป็นเรื่องภายในของหน่วยงานของรัฐไว้ก่อน เพื่อให้สามารถดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างได้อย่างรวดเร็ว รวมทั้งลดระยะเวลาการดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างในปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 เพื่อให้การดำเนินงานมีความรวดเร็วยิ่งขึ้น รวมทั้งกำหนดหลักเกณฑ์ในการจ่ายเงิน ก่อนมีตรวจรับทรัพย์สินหรือตรวจรับงาน เพื่อเป็นทางเลือกให้แก่คู่สัญญาของส่วนราชการด้วย” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังกล่าว
COMMENTS
{{ errors.name }}
{{ errors.value }}
{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
RELATED TOPICS