{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
ดร.นิตยา โสรีกุล รองอธิบดีกรมสรรพสามิต ในฐานะโฆษก กรมสรรพสามิต กล่าวถึงความคืบหน้าในการปราบปรามและจับกุมขบวนการผู้กระทำผิดตามพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2560 โดยเฉพาะการปราบปรามบุหรี่เถื่อนตามนโยบายของ ดร.เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพสามิต ที่มีความมุ่งมั่นในการขจัดขบวนการค้าบุหรี่เถื่อนอย่างเคร่งครัด และได้มีการปฏิบัติงานในรูปแบบการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อป้องกันและปราบปรามสินค้าผิดกฎหมายสรรพสามิต ตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง โดยเฉพาะผู้กระทำผิดที่เป็นกลุ่มกระบวนการรายใหญ่ และการซื้อขายสินค้าผ่านทางระบบออนไลน์ที่เป็นที่นิยมและแพร่หลายในปัจจุบัน
ดร.นิตยา กล่าวว่า ที่ผ่านมากรมสรรพสามิตได้มีการยกระดับการปฏิบัติงานเชิงรุกมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่การเปิดศูนย์ปราบปรามสินค้าออนไลน์ การนำเทคโนโลยีมาใช้ในกระบวนการปฏิบัติ งานตามยุทธศาสตร์ EASE Excise ในการยกระดับการปราบปรามสินค้าผิดกฎหมายที่มีการลักลอบนำเข้า โดยไม่ได้เสียภาษี โดยใช้เครื่องเอกซเรย์ช่วยในการตรวจสอบ ณ สำนักงานไปรษณีย์ ศูนย์คัดแยกกระจายสินค้าเอกชน เพื่อตรวจสอบรถขนส่งสินค้าที่มาจากพื้นที่เสี่ยงและเป็นการตัดตอนเส้นทางการส่งสินค้าตั้งแต่ต้นทางในพื้นที่เสี่ยงต่าง ๆ อาทิเช่น ภาคเหนือที่จังหวัดนครสวรรค์ ภาคใต้ที่จังหวัดสงขลา และจังหวัดชุมพร และภาคตะวันออกที่จังหวัดชลบุรี และจังหวัดปราจีนบุรี รวมถึงได้จัดทำแผนเฉพาะกิจปราบปรามผู้กระทำผิดกฎหมายสรรพสามิตที่มีการระดมเจ้าหน้าที่ทั่วประเทศลงพื้นที่ตรวจสอบปราบปรามผู้กระทำผิดกฎหมายสรรพสามิตตามพื้นที่เป้าหมายทั้งในเขตกรุงเทพมหานคร เขตปริมณฑล และเขตพื้นที่เสี่ยงต่าง ๆ
ผลจากการปฏิบัติงานการปราบปรามเชิงรุกของเจ้าหน้าที่ฝ่ายปราบปราม สำนักตรวจสอบป้องกันและปราบปรามและเจ้าหน้าที่ฝ่ายปราบปราม สำนักงานสรรพสามิตภาค ที่มีการลงพื้นที่ปูพรมปราบปราม ผู้กระทำผิดทั่วประเทศ ทำให้ตั้งแต่วันที่ 20 - 21 กุมภาพันธ์ กรมสรรพสามิตสามารถจับผู้ลักลอบค้าบุหรี่เถื่อนรายใหญ่ได้ใน 4 พื้นที่ รายละเอียด ดังนี้
1. วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2567 สำนักงานสรรพสามิตภาคที่ 8, เจ้าหน้าที่สรรพสามิตพื้นที่นครศรีธรรมราช พร้อมด้วยชุดเฉพาะกิจของพื้นที่นครศรีธรรมราช, สายตรวจปราบปรามภาคที่ 8,
สายตรวจปราบปรามสาขาทุ่งสง ร่วมบูรณาการในการปฏิบัติงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุด กก.ปพ.บก.สสภ. 8 จับกุมคดียาสูบ จำนวน 1 คดี สถานที่เกิดเหตุตำบลชะอวด อำเภอชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช มีรายละเอียดของกลางในคดี ดังนี้ (1) บุหรี่ซิกาแรตต่างประเทศ ขนาดบรรจุซองละ 20 มวน (ของกลาง มีทั้งหมด 17 รายการ) จำนวน 18,750 ซอง (2) บุหรี่ซิกาแรต ยี่ห้อ sms Red ขนาดบรรจุซองละ 20 มวน จำนวน 1,500 ซอง (3) บุหรี่ซิกาแรต ยี่ห้อ Wonder S Green ขนาดบรรจุซองละ 20 มวน จำนวน 500 ซอง รวมของกลางบุหรี่ซิกาแรตทั้งสิ้น 20,750 ซอง (4) รถยนต์นั่งยี่ห้อ Honda jazz จำนวน 1 คัน (5) กุญแจรถยนต์ จำนวน 1 ชุด ประมาณค่าปรับ 19,546,500.- บาท
2. วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2567 สำนักงานสรรพสามิตภาคที่ 8 พร้อมด้วยสายตรวจปราบปรามภาคที่ 8, ชุดเฉพาะกิจของพื้นที่นครศรีธรรมราช ร่วมกันบูรณาการในการปฏิบัติงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุด กก.ปพ.บก.สสภ. 8 ร่วมกันตรวจยึดของกลางในคดี (ไม่มีตัวผู้กระทำผิด) สถานที่เกิดเหตุที่ทำการไปรษณีย์ ตำบลชะอวด อำเภอชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช มีรายละเอียดของกลาง ดังนี้ (1) บุหรี่ซิกาแรต ยี่ห้อกรองทิพย์ 90 ขนาดบรรจุซองละ 20 มวน จำนวน 2,000 ซอง (2) บุหรี่ซิกาแรต ยี่ห้อ Wonder S Green ขนาดบรรจุซองละ 20 มวน จำนวน 500 ซอง (3) บุหรี่ซิกาแรตต่างประเทศ (ของกลางจำนวน 9 รายการ) จำนวน 13,500 ซอง รวมของกลางบุหรี่ซิกาแรตทั้งสิ้น 16,000 ซอง ประมาณการค่าปรับ 15,011,313.- บาท
3. วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2567 สำนักงานสรรพสามิตพื้นที่นครสวรรค์ บูรณาการการปฏิบัติงานร่วมกับสำนักตรวจสอบ ป้องกันและปราบปราม ตรวจสอบสินค้ายาสูบที่ส่งผ่านศูนย์ไปรษณีย์นครสวรรค์ เพื่อกระจายสินค้าไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ตรวจยึดพัสดุสินค้ายาสูบที่ไม่ได้ชำระภาษีสรรพสามิต มีรายละเอียด ของกลาง ดังนี้ (1) บุหรี่ซิกาแรต ยี่ห้อ กรองทิพย์ 90 ซองแข็ง จำนวน 180 ซอง (2) บุหรี่ซิกาแรต ยี่ห้อ กรองทิพย์ 90 ซองธรรมดา จำนวน 4,490 ซอง (3) บุหรี่ซิกาแรต ยี่ห้อ TEXAS 5 จำนวน 3,990 ซอง (4) บุหรี่ซิกาแรต ยี่ห้อ CAPITAL จำนวน 200 ซอง รวมของกลางบุหรี่ซิกาแรตทั้งสิ้น 8,860 ซอง ร้องทุกข์กล่าวโทษผู้ส่งพัสดุสินค้ายาสูบ ข้อหามีไว้เพื่อขายซึ่งสินค้าที่มิได้เสียภาษี ตามมาตรา 204 (1) ประมาณการค่าปรับ 7,673,540.- บาท
4. วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2567 สำนักตรวจสอบ ป้องกันและปราบปราม ฝ่ายป้องกันและปราบปราม 3 สายตรวจสรรพสามิตที่ 3.3 บูรณาการการปฏิบัติงานร่วมกับกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และสถานีตำรวจนครบาลวังทองหลาง จับกุมผู้กระทำผิดกฎหมายสรรพสามิต จำนวน 1 ราย คดียาสูบ
บุหรี่ซิการ์ต่างประเทศ ของกลางจำนวน 2,359 มวน ข้อหามีไว้เพื่อขายซึ่งสินค้าที่มิได้เสียภาษี ตามมาตรา 204 (1) ประมาณการค่าปรับ 3,892,350.- บาท
ดร.นิตยา กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมสรรพสามิตได้ให้ความสำคัญในการปราบปรามและจับกุมขบวนการค้าบุหรี่เถื่อนและผู้กระทำความผิดตามพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ.2560 อย่างเคร่งครัด ซึ่งสินค้าเหล่านี้หากเล็ดลอดไปได้จะสร้างความเสียหายให้กับรัฐเป็นอย่างมาก ทั้งในเรื่องของความชอบธรรม ต่อผู้ประกอบการที่เสียภาษีโดยสุจริต รวมถึงการดูแลความปลอดภัยด้านสุขภาพของพี่น้องประชาชน ชาวไทยจากการได้รับสินค้าปลอมที่อาจส่งผลต่อสุขภาพของพี่น้องประชาชน
ทั้งนี้ หากประชาชนท่านใดทราบเบาะแสหรือพบเห็นการกระทำความผิดเกี่ยวกับสินค้า ที่ต้องเสียภาษีสรรพสามิตสามารถแจ้งโดยตรงได้ที่กรมสรรพสามิต หรือสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ทุกแห่งทั่วประเทศหรือสายด่วน 1713 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรืออีเมล์ excise_hotline@excise.go.th
COMMENTS
{{ errors.name }}
{{ errors.value }}
{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
RELATED TOPICS