{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
“เซเว่น อีเลฟเว่น” จับมือ “วี ฟาร์ม” SME ระดับประเทศ เดินหน้าขับเคลื่อนกลยุทธ์ “3 ให้” หวังสร้างระบบ Ecosystem สำหรับ SME เต็มรูปแบบ เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน ดันสินค้าโอท็อป 5 ดาว จากกลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านดอนทอง ก้าวสู่ Local Snack ในรูปแบบอินเตอร์ ภายใต้แบรนด์ “วี ฟาร์ม ตะกร้า” ลุยตลาดโมเดิร์นเทรด วางจำหน่ายทั่วประเทศ
นายยุทธศักดิ์ ภูมิสุรกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารเซเว่น อีเลฟเว่น และเซเว่น เดลิเวอรี่ เปิดเผยว่า เซเว่น อีเลฟเว่น มีความมุ่งมั่นที่จะขับเคลื่อนธุรกิจ SME และชุมชน พร้อมกับสังคม ให้เติบโตอย่างยั่งยืน ตามปณิธานองค์กร “Giving & Sharing” ผ่านกลยุทธ์ 3 ให้ ได้แก่ 1.ให้ความรู้ 2.ให้ช่องทางขาย และ 3.ให้การเชื่อมโยงเครือข่าย เพื่อก่อให้เกิดเป็น Ecosystem สำหรับ SME ในการสร้างการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง และยั่งยืนด้วยตัวเองในอนาคต
“ระบบเศรษฐกิจของประเทศจะเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง และยั่งยืนได้นั้น ระบบเศรษฐกิจชุมชน สังคม และธุรกิจ SME ซึ่งถือเป็นฐานรากสำคัญของระบบเศรษฐกิจ ต้องเข้มแข็ง และแข็งแรงเสียก่อน เซเว่น อีเลฟเว่น ในฐานะหน่วยงานที่ร่วมทำงานกับ SME ในทุกมิติมากว่า 30 ปี เล็งเห็นถึงความสำคัญดังกล่าว จึงมีความมุ่งมั่น และตั้งใจจริงที่จะสนับสนุน ส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชน สังคม และธุรกิจ SME อย่างจริงจัง และต่อเนื่อง เพื่อสร้าง Ecosystem สำหรับ SME ให้เกิดขึ้นในประเทศอย่างเป็นรูปธรรม ตั้งแต่ระดับชุมชน และเกษตรกร ในการช่วยสร้างความมั่นคงด้านรายได้ และความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ขณะที่ผู้ประกอบการ SME เองก็จะได้วัตถุดิบที่ดีมีคุณภาพ นำมาผลิตสินค้าที่ได้มาตรฐาน พร้อมส่งต่อสู่ผู้บริโภค เมื่อสินค้าเป็นที่ยอมรับของผู้บริโภค และตลาดจะช่วยเพิ่มขีดศักยภาพด้านการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการ ในการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับธุรกิจในอนาคต” นายยุทธศักดิ์ กล่าว
ผลิตภัณฑ์วี ฟาร์ม (V Farm) และกลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านดอนทอง ถือเป็นอีกหนึ่งต้นแบบในการสร้าง Ecosystem สำหรับ SME ที่ทาง เซเว่น อีเลฟเว่น ดำเนินการผ่านกลยุทธ์ 3 ให้ ด้วยการให้องค์ความรู้ด้านการผลิตที่ได้มาตรฐานกับกลุ่มวิสาหกิจฯ ขยายช่องทางตลาดสู่ร้านค้าโมเดิร์นเทรด โดยยกระดับจากเดิมที่ผลิตเป็นสินค้าโอท็อป และสร้างเครือข่ายสำคัญ อันจะนำมาซึ่งการพัฒนาของชุมชนอย่างยั่งยืนต่อไป ภายใต้แบรนด์ “วี ฟาร์ม ตะกร้า”
ด้าน นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ประธานกรรมการบริหาร บริษัท วี ฟู้ดส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตสินค้าภายใต้แบรนด์ “วี ฟาร์ม” กล่าวว่า บริษัทฯ มุ่งดำเนินธุรกิจภายใต้วิสัยทัศน์การสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับเกษตรกร และวิสาหกิจชุมชนมาอย่างต่อเนื่องร่วม 10 ปี ซึ่งสอดคล้องกับกลยุทธ์ 3 ให้ของเซเว่น อีเลฟเว่น จึงได้ร่วมกัน ทำ MOU เพื่อสนับสนุน และส่งเสริมกลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านดอนทอง นำผลไม้ขึ้นชื่อของ บ้านดอนทอง จ.นครปฐม อย่างกล้วยหอมทองที่คุณสมบัติเป็นเอกลักษณ์ มาแปรรูปในลักษณะของLocal Snack ภายใต้แบรนด์ “วี ฟาร์ม ตะกร้า”
หลายคนอาจจะตั้งคำถามว่าทำไมต้องเป็น “ตะกร้า” เพราะ “ตะกร้า”เป็นภาชนะที่ใช้ใส่ผลผลิตด้านการเกษตรที่เป็นภูมิปัญญาของคนไทย ลักษณะการสานของตะกร้าสื่อถึงการประสานความร่วมมือของเซเว่น อีเลฟเว่น วีฟาร์ม และวิสาหกิจชุมชน รวมถึงเกษตรกรท้องถิ่นในการทำงานร่วมกับเครือข่ายต่างๆ ในระบบนิเวศเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้วัตถุดิบเกษตรของไทย และผลักดันให้เป็น Local Snack เอกลักษณ์เฉพาะถิ่น มาตรฐานระดับโลก “สานความตั้งใจ สร้างความยั่งยืน เพื่อชุมชน และเกษตรกรไทย”
“ความร่วมมือกันระหว่าง เซเว่นฯ และบริษัทฯ ในครั้งนี้เป็นความร่วมมือที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ถือเป็นโมเดลธุรกิจที่จะก่อให้เกิด Ecosystem สำหรับ SME เต็มรูปแบบ ผ่านการวางแผนการทำงานร่วมกันในทุกมิติ ตั้งแต่เรื่องการปลูก การผลิต การพัฒนาสินค้า โดยจะเน้นการนำนวัตกรรม การวิจัย และพัฒนามาใช้เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้า และในอนาคตจะขยายขอบเขตการทำงานโดยประสานความร่วมมือเพิ่มเติมกับเครือข่ายอื่น เช่น สถาบันการศึกษา หรือกลุ่มคนรุ่นใหม่อย่างสตาร์ทอัพในกลุ่มเทคโนโลยีทางการเกษตร หรือ AgriTech และเทคโนโลยีทางอาหาร หรือ Food Tech เพื่อร่วมสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าเกษตรจากกลุ่มวิสาหกิจฯ ควบคู่กับสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับเกษตรกร ชุมชน และระบบนิเวศทางเศรษฐกิจของ SME ในอนาคต” นายอภิรักษ์กล่าว
นางวันดี ไพรรักษ์บุญ ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านดอนทอง กล่าวว่า การที่ เซเว่น อีเลฟเว่น และ วี ฟาร์ม เข้ามาช่วยสนับสนุน และส่งเสริมกลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านดอนทอง ถือเป็นการช่วยยกระดับสินค้าโอท็อประดับ 5 ดาวของจังหวัดนครปฐมให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง และยังช่วยสร้างรายได้เพิ่มให้กับสมาชิกในกลุ่มฯ รวมถึงเกษตรกรในจังหวัดต่างๆ ทั้งในนครปฐม เพชรบุรี ราชบุรี สมุทรสาคร และชาวบ้านที่ปลูกกล้วยหอมทองในพื้นที่ จากเดิมที่เกษตรกรขายได้เพียง 8-10 บาทต่อกิโลกรัม แต่กลุ่มวิสาหกิจรับซื้อกล้วย ปลอดสารจากกลุ่มนี้ในราคา 15 บาทต่อกิโลกรัม ขณะเดียวกันยังรับซื้อผลผลิตเพิ่มจากเดิม 1 ตันต่อวัน เป็น 2 - 2.5 ตันต่อวัน เพื่อให้เพียงพอต่อการแปรรูปส่งขายในโมเดิร์นเทรด
ความพิเศษที่ทำให้สินค้าภายใต้แบรนด์ “วี ฟาร์ม ตะกร้า” มีความโดดเด่นต่างจากผลิตภัณฑ์อื่นในตลาด คือ ทางกลุ่มฯใช้กล้วยหอมทองพันธุ์ไทยแท้ ซึ่งมีคุณลักษณะเฉพาะคือ เนื้อเนียน ละเอียด แน่น รสชาติอร่อย โดยเก็บเกี่ยวในระยะกล้วยดิบที่แก่ 80% นำมาผ่านกระบวนการทำความสะอาด และนำไปสไลด์ด้วยใบมีดพิเศษที่ทำให้ชิ้นกล้วยมีความบาง เมื่อนำไปทอดจะทำให้ได้ชิ้นกล้วยที่กรอบเสมอกันทุกชิ้น และมีสีเหลืองสวยงาม และนำมาอบเนยให้ความหอม จนได้เป็น “กล้วยหอมอบเนย” ขณะที่กล้วยดิบที่แก่มากกว่า 80% แต่ไม่เกิน 95% จะนำมาแปรรูปเป็นกล้วยหอมกรอบ เพื่อลดการสูญเสียของกล้วยหอมทองที่นำมาแปรรูปไม่ทัน
COMMENTS
{{ errors.name }}
{{ errors.value }}
{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
RELATED TOPICS