{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
แพทย์รังสิตเฮลท์แคร์กรุ๊ป เปิดเผยงลไตรมาส 3 ปี 66 มีกำไรที่ 81.89 ล้านบาท โตแรง 16.02% YOY ส่งผลให้กำไร 9 เดือนปี 66 รวมเป็น 157.8 ล้านบาท กางแผนอัพรายได้ปี 68 ทะลุ 2,600 ล้านบาท
นายรณชิต แย้มสอาด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แพทย์รังสิตเฮลท์แคร์กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ PHG เปิดเผยว่า ผลประกอบการในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 2566 บริษัทฯมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 81.89 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.31 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 16.02% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 70.58 ล้านบาท ส่งผลให้กำไรสุทธิรวม 9 เดือนของปี 2566 อยู่ที่ 157.8 ล้านบาท ในขณะที่บริษัทฯมีรายได้รวมช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 2566 อยู่ที่ 568.04 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 51.13 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 9.89% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 516.91 ล้านบาท
โดยการเพิ่มขึ้นของทั้งกำไร และรายได้ของบริษัทฯ มีสาเหตุหลักมาจากรายได้จากการให้บริการกับกลุ่มลูกค้าปกติ หรือ Normalized revenue เติบโตอยู่ที่ 19.11% ซึ่งการเติบโตดังกล่าวเป็นผลมาจากรายได้ของกลุ่มลูกค้าทั่วไป และคู่สัญญาเติบโตอยู่ที่ 15.80% ในขณะที่อัตราการครองเตียงสำหรับช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 2566 อยู่ที่ 92.96% เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่อยู่ที่ 86.14% โดยการเพิ่มขึ้นของอัตราครองเตียงมาจากการเข้ารับบริการของผู้ป่วยเด็กจากโรงพยาบาลเฉพะทางแม่และเด็ก เนื่องจากมีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้ออาร์เอสวี และโรคไข้หวัดใหญ่ นอกจากนี้อัตราการเข้ารับบริการของผู้ป่วยนอกสำหรับช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 66 อยู่ที่ 66.65% เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่อยู่ที่ 61.04% โดยการเพิ่มขึ้นของอัตราการเข้ารับบริการของผู้ป่วยนอกมาจากการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้เข้ารับบริการต่อวันทั้งในส่วนลูกค้าทั่วไป และลูกค้าประกันสังคมเนื่องจากโรงพยาบาลได้รับเปิดรับจำนวนผู้ประกันตนเพิ่มขึ้นในปี 2566 จาก 140,000 คน เป็น 156,000 คน
ในขณะเดียวกันบริษัทฯตั้งเป้ารายได้รวมทะลุ 2,600 ล้านบาทภายในปี 2568 ด้วยกลยุทธ์ในการขยายบริการทางการแพทย์, เพิ่มศักยภาพการบริการ, ขยายช่องทางการรับผู้ป่วยใหม่เพิ่มเติม, จัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดด้วยมาตรฐานการแพทย์ และการดูแลสุขภาพขั้นสูง และปรับปรุงวอร์ดผู้ป่วยขยายพื้นที่ให้บริการทางการแพทย์ รวมถึงการใช้เทคโนโลยีมาสนับสนุนการให้บริการทางการแพทย์อีกด้วย ทั้งนี้บริษัทฯได้ลงทุนใน GYNE Cosmetics ซึ่งเป็นธุรกิจใหม่ มีกลุ่มเป้าหมายเป็นคนไข้ชาวไทย และชาวต่างชาติ รวมถึงความร่วมมือกับ Haifu Chongqing สำหรับพัฒนาวิธีการรักษาโดยการผ่าตัดแบบไม่ต้องเปิดแผล หรือ non-invasive surgery treatment สำหรับผู้หญิงที่เป็นโรคทางนรีเวชโดยเฉพาะ รวมถึงการจัดตั้งศูนย์เคมีบำบัดสำหรับผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย ซึ่งคาดว่าจะสามารถให้บริการผู้ป่วยมากกว่า 200 คนภายในสิ้นปีนี้
COMMENTS
{{ errors.name }}
{{ errors.value }}
{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
RELATED TOPICS