{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
บมจ. พีทีจี เอ็นเนอยี (PTG) โชว์ไตรมาส 3/66 รายได้ 47,458 ล้านบาท ส่วนงวด 9 เดือนยอดขายน้ำมันโต Double Digit ดีกว่าตลาด ส่งซิกไตรมาส 4/66 สุดแจ่ม! คาดยอดขายทุบสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ รับอานิสงส์ไฮซีซั่น และค่าการตลาดน้ำมันฟื้นตัว ประการ” มั่นใจธุรกิจก๊าซ LPG และกาแฟพันธุ์ไทย เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ
นายพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) (PTG) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2566 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 24 ล้านบาท และมีรายได้จากการขายและบริการจำนวน 47,548 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.3% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันปีก่อน ส่วนงวด 9 เดือนปี 2566 มีกำไรสุทธิ 424 ล้านบาท และมีรายได้จากการขายและบริการจำนวน 149,286 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.4% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันปีก่อน โดยปัจจัยหลักมาจากธุรกิจ Oil ที่มีรายได้เพิ่มขึ้น 12.5% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันปีก่อน เป็น 139,360 ล้านบาท การเพิ่มขึ้นดังกล่าวเป็นผลมาจากปริมาณการจำหน่ายน้ำมัน 9 เดือนแรกผ่านทุกช่องทางเติบโต 12.9% เทียบกับงวดเดียวกันปีก่อน เป็น 4,414 ล้านลิตร ในส่วนของธุรกิจ Non-Oil มีรายได้เติบโต 52% เทียบกับงวดเดียวกันปีก่อน เป็น 9,926 ล้านบาท
ส่วนแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/2566 คาดว่ายอดขายจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง และมีโอกาสที่จะทำสถิติสูงสุดใหม่ เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจน้ำมัน และเป็นฤดูกาลของการเดินทางท่องเที่ยวและเก็บเกี่ยวผลผลิตทำให้มีปริมาณความต้องการใช้กลับมาอีกครั้ง ส่งผลให้มีปริมาณขายน้ำมันเพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับค่าการตลาดน้ำมันที่มีการฟื้นตัวดีขึ้น โดยคาดว่าทั้งปีจะเฉลี่ยอยู่ที่ 1.7-1.8 บาทต่อลิตร
ในส่วนของธุรกิจก๊าซ LPG และกาแฟพันธุ์ไทยคาดว่าจะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ จากการขยายสาขา เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้า และการกลับมาใช้ซ้ำอย่างต่อเนื่องของสมาชิกบัตร PT Max Card และ PT Max Card Plus โดยปัจจุบันมีมากกว่า 20 ล้านสมาชิก และมีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ รวมถึงธุรกิจพลังงานทางเลือก เช่น จุดชาร์จยานยนต์ไฟฟ้า Elex by EGAT Max ที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพื่อครอบคลุมเส้นทางในกรุงเทพฯ และเส้นทางหลักทั่วประเทศมากขึ้น
สำหรับภาพรวมบริษัทฯ ยังคงวางเป้าหมายการเติบโตของยอดขายน้ำมันทั้งปีไว้ที่ระดับ 10-15% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีปัจจัยหลักมาจากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวภายหลังจากการคลี่คลายของสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 รวมถึงการประกาศใช้นโยบายฟรีวีซ่าของภาครัฐ อีกทั้งบริษัทฯ ได้มีการขยายจำนวนและปรับปรุงสถานีบริการเข้าในพื้นที่ที่มีศักยภาพ และมีการเข้าใช้บริการซ้ำของกลุ่มลูกค้าผู้ถือบัตร PT Max Card และ PT Max Card Plus เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง นอกจากนี้บริษัทฯ ยังคงวางเป้าการขยายสถานีบริการไว้เท่าเดิมคือจำนวน 2,206 สถานีบริการในปี 2566และคาดว่าธุรกิจ Non-Oil ปีนี้จะยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่งแม้เศรษฐกิจจะชะลอตัว โดยวางเป้าหมายการเติบโตของรายได้ Non-Oil ไว้ที่ 50-60% ถือว่ายังอยู่ในระดับสูง ขณะที่สัดส่วนกำไรขั้นต้นยังคงเดิมที่ระดับ 20-30%
โดยแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 4/2566 คาดว่าจะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปีนี้ จากการเติบโตของทุกธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจน้ำมันและก๊าซ ที่คาดว่ายอดขายจะมีการเติบโตนิวไฮต่อเนื่อง ซึ่งได้รับปัจจัยบวกจากฤดูกาลของการท่องเที่ยว และค่าการตลาดน้ำมันที่ฟื้นตัว นอกจากนั้นบริษัทฯ ยังเดินหน้าปรับปรุงสถานีบริการน้ำมันเดิม และเปิดสถานีบริการน้ำมันใหม่เพิ่มเป็น 2,206 สถานีบริการ เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้า เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมามีปริมาณการจำหน่ายน้ำมันทำสถิติสูงสุดใหม่ติดต่อกันถึง 4 ไตรมาส จึงมั่นใจว่ายอดขายน้ำมันปี 2566 จะเติบโต 10-15% ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ ดันมาร์เก็ตแชร์ทะลุ 20% จากปัจจุบันอยู่ที่ 19.2% ในไตรมาส 3/2566”
COMMENTS
{{ errors.name }}
{{ errors.value }}
{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
RELATED TOPICS