อีอีซี ผนึกรัฐ-เอกชน หนุนใช้รถยนต์ไฟฟ้าขนส่งสาธารณะในพื้นที่

อีอีซี รวมพลังภาคีภาครัฐ-เอกชน หนุนใช้รถยนต์ไฟฟ้าขนส่งสาธารณะและรับส่งพนักงานในพื้นที่พร้อมร่วมพัฒนาระบบนิเวศการลงทุน นำร่องปี 66 เกิดรถโดยสารไฟฟ้า 100 คัน คาดใน 5 ปี เพิ่มเป็น 6,000 คัน จูงใจดึงลงทุนคลัสเตอร์ EV และ BCG

นายจุฬา สุขมานพ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) หรือ อีอีซี ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการสนับสนุนการใช้รถยนต์ไฟฟ้าในระบบขนส่งสาธารณะ
และรถรับ-ส่งพนักงานในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ร่วมกับ นายกิติพงค์ พร้อมวงค์ ผู้อำนวยการสำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ ศาสตราจารย์ชูกิจ ลิมปิจำนงค์ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ศาสตราจารย์ นพ.พงษ์รักษ์ ศรีบัณฑิตมงคล อธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ นายรักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย นายวีระเดช เตชะไพบูลย์ นายกสมาคมพลังงานหมุนเวียนไทย (อาร์อี 100) และนายสุวิทย์ ธรณินทร์พานิช ประธานกรรมการมูลนิธิพลังงานสะอาดเพื่อประชาชน เพื่อส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือภาครัฐและเอกชนในด้านการพัฒนาเทคโนโลยีถ่ายทอด
องค์ความรู้ ขับเคลื่อนการลงทุนและใช้ประโยชน์จากรถยนต์ไฟฟ้าในระบบขนส่งสาธารณะและรับส่งพนักงาน เพื่อนำไปสู่การพัฒนาพื้นที่อีอีซีอย่างยั่งยืน

นายจุฬา สุขมานพ เลขาธิการ อีอีซี กล่าวว่า การลงนามฯ ครั้งนี้ ถือเป็นความร่วมมือสำคัญจากภาคีเครือข่ายภาครัฐและเอกชน เพื่อสนับสนุนการลงทุนในเศรษฐกิจ BCG ผลักดันให้เกิดการพัฒนาระบบนิเวศอุตสาหกรรม ดึงดูดการลงทุนนวัตกรรมใหม่ โดยเฉพาะในคลัสเตอร์อุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ในพื้นที่อีอีซี ซึ่งได้ตั้งเป้าหมาย
ให้เป็นฐานการผลิต EV แห่งภูมิภาค โดยภายใต้กรอบข้อตกลงดังกล่าว จะส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้าขนส่งสาธารณะและการรับ-ส่งพนักงานให้แพร่หลาย ประชาชนในพื้นที่ อีอีซี สามารถเข้าถึงบริการดังกล่าวได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย ผลักดันให้เกิดการผลิต และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานสะอาด สอดคล้องกับเป้าหมายพัฒนาพื้นที่อีอีซีในภาพรวมให้เป็นพื้นที่ Net Zero Carbon Emission โดยการลงทุนใหม่ในพื้นที่ต้องมีการนำแนวคิดเศรษฐกิจสีเขียวมาสนับสนุนการผลิต สร้างการพัฒนาที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมให้เกิดการลงทุนเพื่อความยั่งยืน

ทั้งนี้ อีอีซี จะเชื่อมโยงความร่วมมือและพัฒนากลไกการลงทุนรถยนต์ไฟฟ้าอย่างเป็นระบบ โดยทุกฝ่าย
จะร่วมกันสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยี การถ่ายทอดองค์ความรู้ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานรองรับ การติดตั้งสถานีชาร์จไฟฟ้าเพื่อรองรับ รวมไปถึงขยายผลสร้างมูลค่าเพิ่มโครงการฯ โดยอีอีซี จะร่วมขับเคลื่อนพัฒนาระบบนิเวศจูงใจให้เกิดการลงทุน เช่น เรื่องสิทธิประโยชน์รูปแบบภาษีและไม่ใช่ภาษี การอำนวยความสะดวกเพิ่มความรวดเร็วในการอนุมัติ อนุญาตที่อีอีซีสามารถออกใบอนุญาตแทนหน่วยงานต่างๆ ได้ถึง 44 ใบอนุญาต คาดว่าจะเริ่มได้
ในมกราคม ปี 2567 ซึ่งจากความร่วมมือครั้งนี้ เป็นกิจกรรมสำคัญในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมเป้าหมายสำหรับ
คลัสเตอร์ EV และคลัสเตอร์ BCG (ในกลุ่มพลังงานสะอาด)


COMMENTS

{{ errors.name }}

{{ errors.value }}

{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}

RELATED TOPICS

Please wait a moment