{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
เอเชีย เน็ตเวิร์ค อินเตอร์เนชั่นแนล (ANI) เผยผลประกอบการครึ่งแรกของปี 2566 มีรายได้รวม 2,668.6 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 431.9 ล้านบาท เติบโต 17.7 % เดินหน้าขออนุญาตเข้าระดมทุนใน SET
คุณบี เล็ง โก๊ะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเชีย เน็ตเวิร์ค อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทวางแผนการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) ของ ANI ขณะนี้ อยู่ระหว่างรอการพิจารณาอนุมัติแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (แบบไฟลิ่ง) จากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) โดยวัตถุประสงค์ของการระดมทุนครั้งนี้ก็เพื่อนำเงินไปใช้ปรับโครงสร้างทางการเงินจากการซื้อธุรกิจ GSA ในสิงคโปร์และมาเลเซียในช่วงปลายปี 2565 ตลอดจนใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ เพื่อการเติบโตของบริษัทฯ ในอนาคต
ส่วนผลการดำเนินงานในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2566 มีรายได้รวม 2,668.6 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 431.9 ล้านบาท เติบโต 17.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีอัตรากำไรสุทธิที่สูงถึง 16.2% ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความสามารถในการบริหารธุรกิจตลอดช่วงที่สภาพแวดล้อมการดำเนินธุรกิจมีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง
ANI มีผลประกอบการที่แข็งแกร่ง ผ่านความสามารถในการปรับกลยุทธ์เพื่อสร้างการเติบโตของผลกำไรอย่างต่อเนื่องท่ามกลางสภาวะการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา
โดยในปี 2565 บริษัทฯ มีรายได้รวม 7,744.1 ล้านบาท เติบโตด้วยอัตราเฉลี่ย (CAGR) 26.5% ต่อปี และมีกำไรสุทธิ 797.6 ล้านบาท เติบโตด้วยอัตราเฉลี่ย (CAGR) 23.3% ต่อปี (CAGR 2563 – 2565) ทั้งนี้ ภายหลังการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ANI ยังสามารถสร้างการเติบโตผลกำไรได้อย่างต่อเนื่อง ผ่านความสามารถในการเข้าทำสัญญาให้บริการ GSA ขนาดใหญ่เพิ่มเติมในหลากหลายประเทศเพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันให้มากขึ้น รวมทั้งกลยุทธ์ในการรักษาความสามารถในการทำกำไรจากการกำหนดราคาขายที่เหมาะสมและควบคุมต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ
สำหรับANI เป็นผู้นำธุรกิจตัวแทนขายระวางสินค้าสายการบิน (GSA) ให้แก่สายการบินชั้นนำกว่า 20 สายการบินใน 8 ประเทศและเขตบริหารพิเศษ ประกอบด้วย ไทย สิงคโปร์ ฮ่องกง จีน เวียดนาม มาเลเซีย กัมพูชา และเมียนมา ซึ่งล้วนเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญที่เป็นศูนย์กลางการขนส่งสินค้าทางอากาศที่สำคัญของภูมิภาค ครอบคลุมเส้นทางการบินซึ่งมีจุดหมายปลายทางกว่า 400 แห่งในทุกภูมิภาคทั่วโลก โดย ANI เป็นผู้ประกอบธุรกิจ GSA รายใหญ่รายเดียวของประเทศไทย ซึ่งมีส่วนแบ่งการตลาดรวมกว่า 23% (อ้างอิงจากข้อมูลปริมาณการขนส่งสินค้าผ่าน GSA ในปี 2565 ของ Frost & Sullivan) และยังมีความสัมพันธ์ที่ดีกับสายการบินชั้นนำอย่างยาวนานด้วยประสบการณ์กว่า 10 ปีในการให้บริการที่มีมาตรฐานและมีคุณภาพ ตลอดจนมีความสามารถในการปรับกลยุทธ์เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้า เช่น ตัวแทนรับจัดการขนส่งสินค้า (Freight Forwarder) ทั้งในระดับประเทศและระดับโลก ซึ่งเป็นตัวกลางให้แก่ผู้บริโภคทอดสุดท้าย (End User) ผ่านการบริหารจัดการที่นำโดยคณะผู้บริหารที่มีประสบการณ์กว่า 35 ปีในอุตสาหกรรมขนส่งทางอากาศ นอกจากนี้ ANI ยังมี Ecosystem ที่แข็งแกร่งผ่านความร่วมมือกับบริษัท ทริพเพิล ไอ โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ ANI และเป็นผู้นำธุรกิจโลจิสติกส์ครบวงจรของประเทศไทยที่ประกอบธุรกิจในห่วงโซ่อุปทานขนส่งสินค้าเดียวกัน โดย ANI นับเป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจ GSA ระดับภูมิภาครายแรกและรายเดียวที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET)
COMMENTS
{{ errors.name }}
{{ errors.value }}
{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
RELATED TOPICS