SME D Bank ปลื้มครึ่งปีแรกฉลุย “เติมทุนคู่พัฒนา” เข้าเป้า มั่นใจหมดปีพาเอสเอ็มอีถึงแหล่งทุน 7 หมื่นล้าน

SME D Bank เผยผลครึ่งปีแรก 2566 เติมทุน SMEs กว่า 32,000 ล้าน ตามเป้า ขับเคลื่อนเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจกว่า 147,000 ล้าน ช่วยรักษาการจ้างงานกว่า 34,000 ราย จบ 6 เดือน กำไรสะสม 309 ล้าน ตั้งเป้าหมายปีนี้ พา SMEs ถึงแหล่งทุน 70,000 ล้าน สร้างเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจกว่า 320,600 ล้าน รักษาการจ้างงานประมาณ 88,980 ราย

นางสาวนารถนารี รัฐปัตย์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank เปิดเผยผลการดำเนินงานธนาคาร ในครึ่งแรกปี 2566 ที่ผ่านมา (ม.ค.-มิ.ย.66) ว่า สามารถสนับสนุนผู้ประกอบการ SMEs เข้าถึงกระบวนการ “เติมทุนคู่พัฒนา” เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดย “ด้านเติมทุน” พาเข้าถึงแหล่งเงินทุนรวมมากกว่า 32,000 ล้านบาท สร้างประโยชน์ช่วยให้เกิดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจไทยกว่า 147,000 ล้านบาท รักษาการจ้างงานกว่า 34,000 ราย ทั้งนี้ การสนับสนุนสินเชื่อดังกล่าว จำนวนกว่า 4,000 ล้านบาท เป็นการพาเข้าถึงสินเชื่อ BCG Loan ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการยกระดับธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

“ด้านพัฒนา” ร่วมมือกับหน่วยงานพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชน เพิ่มศักยภาพส่งเสริมผู้ประกอบการเติบโตตามแนวทาง ESG ผ่านโครงการต่างๆ เช่น จับคู่ธุรกิจ เพิ่มช่องทางตลาด Workshop ในหัวข้อที่จำเป็นและอยู่ในความสนใจของผู้ประกอบการ เช่น ทำตลาดออนไลน์ ระบบบัญชี มาตรฐานการผลิต ฯลฯ มีผู้ประกอบการเข้าร่วมและได้รับประโยชน์กว่า 7,650 ราย

ขณะที่ เป้าหมายปีนี้ (2566) จะผลักดันผู้ประกอบการเข้าถึงแหล่งทุนกว่า 70,000 ล้านบาท คาดจะก่อให้เกิดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจกว่า 320,600 ล้านบาท รักษาการจ้างงานได้ประมาณ 88,980 ราย ควบคู่กับให้บริการ “พัฒนา” ผ่านโครงการ SME D Coach ร่วมกับหน่วยงานพันธมิตร ทั้งภาครัฐและเอกชน ช่วยยกระดับเพิ่มศักยภาพแก่ผู้ประกอบการกว่า 15,000 ราย

ทั้งนี้ จากการบริหารจัดการองค์กรอย่างมีประสิทธิภาพ และผลิตภัณฑ์สินค้าตอบโจทย์ผู้ประกอบการ ส่งให้ในช่วงครึ่งปีแรก SME D Bank ได้รับรางวัลต่าง ๆ การันตีผลงานโดดเด่น เช่น รางวัล “THAILAND TOP COMPANY AWARDS 2023” ความเป็นเลิศประเภท “SMART BUSINESS GROWTH AWARD” จัดโดยนิตยสาร Business+ และมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ในฐานะองค์กรที่มีการเติบโตอย่างชาญฉลาด ด้วยแผนงานและกลยุทธ์ที่พร้อมไปสู่ความยั่งยืน , รางวัล “พัฒนาการสูงสุดประจำปี 2565” หมวดสถาบันการเงินเฉพาะกิจ ตามเกณฑ์ประเมิน “แนวร่วมการเงินที่เป็นธรรมนานาชาติ” (Fair Finance Guide International หรือ FFGI) โดยแนวร่วมการเงินที่เป็นธรรมประเทศไทย (Fair Finance Thailand) เนื่องจากเป็นธนาคารที่มีการยกระดับขับเคลื่อนองค์กรสู่มาตรฐานสากล คำนึงถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ยึดหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี ควบคู่กับดูแลสังคม สิ่งแวดล้อม สิทธิมนุษยชน และมีธรรมาภิบาล และรางวัล Money & Banking Awards 2023 จากความร่วมมือของวารสารการเงินธนาคารกับสวนดุสิตโพล สำรวจผู้ที่เข้าใช้บริการทางการเงินและการลงทุนในงานมหกรรมการเงิน (Money Expo) ครั้งที่ 23 และภูมิภาค โดย SME D Bank ได้รับการคัดเลือกเป็นธนาคารที่มีบริการยอดเยี่ยมด้านสินเชื่อเอสเอ็มอี 2566

สำหรับผลการดำเนินงานของ SME D Bank ในช่วง 6 เดือนแรก ปี 2566 มีกำไรสุทธิสะสมประมาณ 309 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 92 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้นประมาณ 42% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (2565) ขณะที่ หนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ปรับตัวลดลง 20.88% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากธนาคารมีการบริหารจัดการ NPL อย่างมีประสิทธิภาพ ติดตามดูแลอย่างใกล้ชิด ควบคู่บริหารจัดการทรัพย์สินรอการขาย (NPA) สม่ำเสมอ ส่งผลให้ปัจจุบัน เหลือ NPL ในระบบเพียงประมาณ 10.51% และสิ้นปีนี้ คาดเหลือไม่เกิน 9.50% ตามเป้าหมายที่วางไว้

นอกจากนั้น ธนาคารมีแนวทางบริหารจัดการและช่วยเหลือลูกค้ากลุ่มเปราะบางประมาณ 30,000 ล้านบาท โดยในจำนวนดังกล่าวเป็นรายอ่อนแอที่น่ากังวลจริงๆ ประมาณ 2,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นระดับที่ธนาคารสามารถบริหารจัดการได้ ผ่านกระบวนการส่ง “ทีมพิเศษ” ประกอบด้วยทีมพัฒนาผู้ประกอบการและทีมพัฒนาคุณภาพสินเชื่อเข้าประกบติดตามดูแลลูกค้ารายอ่อนแอทุกรายอย่างใกล้ชิด เพื่อให้คำปรึกษาแนะนำพร้อมช่วยเหลืออย่างยั่งยืนตามแนวทางของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เช่น วินิจฉัยปัญหาธุรกิจ ประเมินศักยภาพกิจการ ให้รู้ถึงปัญหาที่แท้จริง พร้อมพาเข้าสู่กระบวนการเติมองค์ความรู้ในด้านที่กิจการยังขาด ควบคู่ช่วยเพิ่มช่องทางขยายตลาด สร้างรายได้เพิ่มให้ลูกค้า ลดความเสี่ยงการเป็น NPL ในอนาคต


COMMENTS

{{ errors.name }}

{{ errors.value }}

{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}

RELATED TOPICS

Please wait a moment