แบ่งจ่ายบัตรเครดิตอย่างไรไม่ให้ “หนี้” บานปลาย

สำหรับนักช้อป “บัตรเครดิต” ถือเป็นตัวช่วย ที่มาพร้อมความสะดวก คล่องตัว ให้นักช้อปได้รูดก่อน จ่ายทีหลัง นอกจากนี้ยังมีสิทธิพิเศษมากมาย ไม่ว่าจะเป็นคะแนนสะสม เงินคืน (cashback) และโปรโมชันส่วนลดต่าง ๆ ทำให้หลายครั้ง อาจช้อปเพลินไปหน่อย

fintips by ttb มีเคล็ดลับดี ๆ มาฝากนักช้อปมือใหม่ หากไม่อยากมีหนี้เกินตัว ทำให้ผ่อนไม่ไหว ซึ่งรวมไปถึงการผ่อนจ่ายบัตรเครดิต โดยสิ่งสำคัญที่นักช้อปตัวจริงจะมองข้ามไปไม่ได้ คือ ลิมิต หรือจำนวนเงินในการผ่อนจ่ายหนี้ ซึ่งตามหลักการแล้ว ไม่ควรมีหนี้เกินกว่า 40-45% ของรายได้ ซึ่งอาจเป็นหนี้ที่เกินจากการผ่อนบัตรเครดิต ผ่อนบ้าน ผ่อนรถ ฯลฯ

นอกจากนี้การใช้บัตรเครดิต ควรคำนึงถึงการควบคุมรายการ “จ่ายขั้นต่ำ” ของการใช้บัตรเครดิตทั้งหมดให้พอดีกับความสามารถในการผ่อนชำระ ซึ่งปัจจุบันบัตรเครดิตมีอัตราดอกเบี้ยที่แตกต่างกันไปตามโปรโมชันและสิทธิประโยชน์ของแต่ละบัตร สิ่งสำคัญคือการทำความเข้าใจและจดจำเงื่อนไขในการผ่อนชำระแต่ละใบอย่างแม่นยำ เพื่อให้สามารถเลือกใช้บัตรเครดิตได้อย่างเหมาะสม สามารถชำระได้ตรงตามกำหนด ลดความเสี่ยงในการสร้างดอกเบี้ยที่ไม่จำเป็น หากจำเป็นต้องซื้อสินค้าชิ้นใหญ่ ก็ควรเลือกผ่อนจ่ายในอัตราดอกเบี้ย 0% จะได้ไม่ต้องรับภาระดอกเบี้ยก้อนโต เป็นต้น

เรื่องต้องรู้ก่อนรูดบัตรเครดิตผ่อนจ่ายในอัตราดอกเบี้ย 0%

• ระยะเวลาชำระคืน หมายถึง ช่วงเวลาปลอดดอกเบี้ย เช่น บัตรเครดิต ttb มีกำหนดระยะเวลา 50 วัน นับจากวันแรกของรอบบัญชีไปจนถึงวันกำหนดชำระเงินหากชำระเต็มจำนวนตามวันครบกำหนด

• ระยะเวลาของดอกเบี้ย 0% สามารถผ่อนจ่ายแบบไร้ดอกเบี้ยได้ภายในระยะเวลาเท่าไหร่

• อัตราดอกเบี้ยต่อปี หรือที่เรียกว่า เบี้ยปรับ เมื่อมีการจ่ายขั้นต่ำหรือผิดกำหนดชำระ โดยอัตราดอกเบี้ยต่อปีคือส่วนสำคัญที่จะนำมาใช้คำนวณยอดหนี้ทั้งหมดที่ต้องจ่ายตามสูตรคำนวณดอกเบี้ย

สูตรคำนวณดอกเบี้ยที่ต้องจ่าย = (จำนวนเงินที่รูดบัตร x อัตราดอกเบี้ยต่อปี x จำนวนวัน) / 365

หากกำลังมองหาตัวช่วยจัดสรรค่าใช้จ่ายอย่างลงตัว fintips by ttb ขอแนะนำบัตรเครดิต ttb ด้วยบริการ ttb so goood ที่สามารถซื้อสินค้าทุกประเภทผ่านบัตรเครดิต โดยเลือกผ่อนจ่าย 0% นาน 3 เดือน เพื่อแบ่งเบาภาระในแต่ละเดือนได้

อย่างไรก็ตาม การมีบัตรเครดิตไว้เพื่อการใช้งานที่หลากหลาย เป็นข้อดีของความสะดวกสบายและความคุ้มค่าตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของการใช้จ่ายที่แตกต่าง แต่สิ่งสำคัญคือการจัดสรรการใช้บัตรให้ลงตัวเพื่อคงสภาพคล่องและสุขภาพทางการเงินที่ดี นอกจากนี้การจัดลำดับความสำคัญก่อนตัดสินใจที่จะใช้บัตรจะช่วยเพิ่มความคุ้มค่าในการจ่ายด้วยบัตรเครดิตมากขึ้น ทำให้ลดภาระดอกเบี้ย และเลี่ยงการใช้จ่ายเกินตัว เหล่านี้จะช่วยรักษาสถานะทางการเงินที่ดีเมื่อมีบัตรเครดิต และใช้จ่ายในยามจำเป็นมากกว่าในยามต้องการ