พาณิชย์บุกชิลี จัดแมชชิ่งขายได้กว่า 60 ล้านบาท

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เผยผลงานนำคณะผู้แทนการค้าไทยบุกเจาะตลาดชิลี จัดกิจกรรมเจรจาจับคู่ธุรกิจ ขายได้กว่า 60 ล้านบาท พร้อมลุยหารือผู้ซื้อ ผู้นำเข้า ทั้งยานยนต์และชิ้นส่วน อาหาร สภาอุตสาหกรรม หอการค้า เพื่อขยายความร่วมมือด้านการค้า การลงทุน

นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมฯ ได้นำผู้แทนภาคเอกชนไทย ในกลุ่มสินค้าชิ้นส่วนยานยนต์ อุปกรณ์และวัสดุก่อสร้าง และอาหารแปรรูป เดินทางเยือนกรุงชันติอาโก ประเทศชิลี และบราซิล เพื่อขยายตลาดส่งออก ตามกลยุทธ์ในการบุกเจาะตลาดเป็นรายภูมิภาคและรายคลัสเตอร์ ที่กรมฯ ได้ดำเนินการร่วมกับภาคเอกชน ในการผลักดันการส่งออกสินค้าของไทยในช่วงที่เหลือของปีนี้

ทั้งนี้ ในช่วงการเดินทาง กรมฯ ได้จัดกิจกรรมเจรจาจับคู่ธุรกิจ มีผู้ประกอบการไทยเข้าร่วมกิจกรรม จำนวน 18 บริษัท และผู้นำเข้าชิลี จำนวน 62 บริษัท ในกลุ่มสินค้าชิ้นส่วนยานยนต์ อุปกรณ์และวัสดุก่อสร้าง และอาหารแปรรูป ผลการเจรจาเกิดการจับคู่ธุรกิจ จำนวน 155 คู่ และมูลค่าการเจรจาการค้าในงาน จำนวน 154,000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 5,544,000 บาท และผู้นำเข้าคาดการณ์ว่าจะนำเข้าสินค้าเพิ่มขึ้นภายใน 1 ปี มูลค่าประมาณ 54 ล้านบาท รวมมูลค่าการเจรจาการค้า 60 ล้านบาท

นอกจากนี้ ยังได้หารือกับห้าง Jumbo ซึ่งนำเข้าซอสปรุงรส น้ำมะพร้าว กะทิ และมีการจ้างบริษัทไทยผลิตสินค้าภายใต้แบรนด์ Exotic ของห้าง โดยห้างมี 69 สาขา มียอดขาย 22-23 ล้านเหรียญสหรัฐต่อเดือน มีแผนจัดกิจกรรมส่งเสริมอาหารไทย Instore-promotion ร่วมกับ สคต.ซันติอาโกในเดือนสิงหาคม และมีแผนจะขยายการนำเข้าสินค้าเบียร์จากไทยเข้ามาทดลองตลาดในช่วงเดือนตุลาคมปีนี้ นอกจากนี้ห้างยังต้องการหาสินค้าใหม่ที่ยังไม่มีในตลาดและสนใจเข้าเยี่ยมชมและเจรจาการค้าในงาน Thaifex ช่วงพฤษภาคมปีหน้า ผู้นำเข้าสินค้ายานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ เช่น บริษัท DERCO S.A. สนใจนำเข้าอะไหล่ (Spare Part) จากประเทศไทย เนื่องจากบริษัทต้องการเพิ่มแหล่งนำเข้าจากหลายประเทศเพื่อลดความเสี่ยงที่จะต้องเผชิญผลกระทบจาก supply chain disruption เหมือนช่วงวิกฤติโควิด โดยให้ความสำคัญกับสินค้าที่มีคุณภาพสูงที่สามารถจัดส่งสินค้าได้ตามกำหนดมากกว่าปัจจัยด้านราคา บริษัท IMPORTADORA BICIMOTO LIMITADA นำเข้า plastic bumper จากไทย และมองว่าในปีหน้าเศรษฐกิจชิลีจะขยายตัว 3% ซึ่งจะส่งผลดีต่อการนำเข้าสินค้าจากไทยมากขึ้น และที่ชิลีมีกฎระเบียบให้ผู้ใช้รถต้องนำรถเข้าตรวจสภาพเพื่อเปลี่ยนอะไหล่ที่มีการชำรุดทุกๆ 1 ปี ทำให้ตลาดมีความต้องการอะไหล่อย่างต่อเนื่อง บริษัท IMPORTADORA CUATRO RUEDAS LIMITADA มองว่าไทยเป็นผู้ส่งออกรถปิ๊กอัพขนาดกลางที่สำคัญของโลก โดยบริษัทมีความต้องการนำเข้าชิ้นส่วนประเภทคลัทช์และกันชนจากไทยรวมถึงเป็นผู้แทนจำหน่ายแบรนด์ Aeroklas ของไทย ต่างมีความสนใจที่จะเข้าชมและเจรจาการค้าในงาน TAPA2025 ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 2–5 เมษายน 2568 การหารือกับบริษัทผู้นำเข้าสินค้าอาหาร ได้แก่ บริษัท ICB S.A. มีความสนใจนำเข้าสินค้าหลายรายการจากไทย เช่น ข้าวโพดอ่อนกระป๋อง ผลไม้กระป๋อง ผลไม้อบแห้ง เห็ดแชมปิยองกระป๋อง ทูน่ากระป๋อง ซาร์ดีนกระป๋อง และเส้นก๋วยเตี๋ยว เป็นต้น นอกจากนี้ยังได้หารือกับบริษัท VISOURCES ซึ่งเป็นผู้นำเข้าวัสดุก่อสร้างรายใหญ่ โดยบริษัทมีแผนจะเดินทางไปพบคู่ค้าที่ประเทศไทยในเดือนตุลาคมและจะนำเข้าวัสดุก่อสร้างจำนวน 500 ตู้คอนเทนเนอร์ และมีความสนใจที่จะเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าไม้อัดของไทยในชิลี

ส่วนการหารือกับ บริษัท Sigdo Koppers Group ที่ประกอบธุรกิจเหมืองแร่รายใหญ่ที่สุดในชิลี ปัจจุบันมีการลงทุนในไทยที่สระบุรี เป็นโรงงานผลิตลูกเหล็ก ลูกบดโลหะคุณภาพสูง ที่ใช้ในการถลุงแร่ และอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ มองว่าไทยมีความพร้อมเป็นศูนย์กลางการลงทุนและการกระจายสินค้าของชิลีในภูมิภาคเอเชีย มีจุดแข็งในด้านการคมนาคมขนส่งและโลจิสติกส์ และยังได้หารือกับผู้บริหารของสภาอุตสาหกรรม SOFOFA เชื่อมั่นว่าการค้าไทย-ชิลี ยังสามารถขยายตัวได้อีกมากเนื่องจากปัจจุบันการซื้อขายสินค้าระหว่างกันยังกระจุกตัวอยู่เพียงไม่กี่รายการ รวมถึงการลงทุนระหว่างกันที่ยังสามารถขยายตัวได้อีกมาก โดยทั้ง 2 หน่วยงานมีความยินดีให้ความร่วมมือกับกรมฯ ในการจัดกิจกรรมส่งเสริมการค้าระหว่างกัน เช่น การจัดคณะผู้แทนการค้า การเจรจาการค้า การเข้าร่วมงานแสดงสินค้า เป็นต้น และหารือกับหอการค้าแห่งกรุงซันติอาโก (Santiago Chamber of Commerce) ถึงการเชื่อมโยงการค้าผ่านช่องทาง e-commerce ที่ขยายตัวสูงในชิลี โดยให้ mercado, libre ซึ่งเป็น platform ที่ได้รับความนิยม เป็นพันธมิตรกับ Thaitrade.com

ทั้งนี้ ในปี 2565 มูลค่าการค้าไทย-ชิลี มีมูลค่ารวม 1,289.94 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยไทยส่งออกไปชิลีมูลค่า 531.03 ล้านเหรียญสหรัฐฯ มีสินค้าหลักได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป เครื่องซักผ้าและเครื่องซักแห้งและส่วนประกอบ และผลิตภัณฑ์ยาง


COMMENTS

{{ errors.name }}

{{ errors.value }}

{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}

RELATED TOPICS

Please wait a moment