OSP โชว์ไตรมาสแรก ทำกำไรสุทธิ 778 ล้านบาท

โอสถสภา (OSP)’ โชว์ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2566 ทำกำไรสุทธิ 778 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 131.1% จากไตรมาสก่อนและเพิ่มขึ้น 3.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

นางวรรณิภา ภักดีบุตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) หรือ OSP ผู้ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคชั้นนำของประเทศไทย เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2566 (มกราคม-มีนาคม) บริษัทฯ มีกำไรสุทธิรวมเงินปันผลรับจากเงินลงทุนจำนวน 778 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 131.1 % เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้านี้ และเพิ่มขึ้น 3.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว จากการบริหารจัดการด้านประสิทธิภาพการผลิตที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง สามารถลดต้นทุนการผลิตทั้งวัตถุดิบและพลังงาน ทำให้ต้นทุนต่อหน่วยลดลง ทำให้อัตราการทำกำไรขั้นต้นปรับตัวสูงขึ้น ในขณะที่รายได้จากการขายอยู่ที่ 6,545 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.8% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า จากการขยายตัวของตลาดต่างประเทศ ที่เติบโตเป็นเลข 2 หลัก รวมถึงการฟื้นตัวของตลาดในประเทศจากกลยุทธ์การสร้างความหลากหลายของกลุ่มสินค้าสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่มได้อย่างครอบคลุม รวมถึงมีเครือข่ายช่องทางการจัดจำหน่ายที่แข็งแกร่ง ทำให้โอสถสภาเป็นผู้นำตลาดผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มบำรุงกำลังอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ โอสถสภาขับเคลื่อนนโยบายการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนเพื่อสร้างการเติบโตในระยะยาว ทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะด้านการส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของผู้บริโภค ซึ่งบริษัทฯ ได้ทยอยปรับสูตรผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มในประเทศ รวมถึงผลิตภัณฑ์ใหม่ทั้งหมดให้เป็นสูตรน้ำตาลน้อย และ/หรือไม่มีน้ำตาล เพื่อตอบรับกระแสการดูแลรักษาสุขภาพของผู้บริโภค ทำให้บริษัทฯ ลดผลกระทบจากการปรับขึ้นอัตราภาษีความหวานรอบใหม่ และยังสามารถตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของกลุ่มลูกค้าได้อย่างลงตัว

ในส่วนแผนดำเนินงานในไตรมาส 2 ปีนี้ บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นสร้างนวัตกรรมด้านผลิตภัณฑ์และทำกิจกรรมการตลาดที่ตอบโจทย์วิถีชีวิตของผู้บริโภค อาทิ เตรียมเปิดตัว 5 พรีเซนเตอร์ใหม่ของเครื่องดื่มเอ็ม-150 เพื่อขยายตลาดให้ครอบคลุมฐานผู้บริโภคทุกช่วงวัย ไปจนถึงการบุกตลาดเครื่องดื่มน้ำอัดลมเพื่อสุขภาพด้วย “ชาร์ค อุเมะ โซดา" นวัตกรรมน้ำโซดา 0 แคลอรี่ ไม่มีน้ำตาล พร้อมวิตามิน ที่ตอบโจทย์ความต้องการดูแลสุขภาพของผู้บริโภคยุคใหม่ ประกอบกับการปรับเปลี่ยนองค์กรในทุกด้าน ทั้งการปรับปรุงกระบวนการทำงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น รวมถึงเดินหน้าต่อยอดการดำเนินงานด้านความยั่งยืนในทุกมิติ ทั้งสังคมและสิ่งแวดล้อม เพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดให้แก่ผู้บริโภค และผลักดันการเติบโตขององค์กรในระยะยาวต่อไปอย่างมั่นคง


COMMENTS

{{ errors.name }}

{{ errors.value }}

{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}

RELATED TOPICS

Please wait a moment