กรมการขนส่งทางบก มุ่งมั่นแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 พร้อมจัดผู้ตรวจการออกตรวจวัดควันดำทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง

นายเสกสม อัครพันธุ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก และโฆษกกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า ขณะนี้ประเทศไทยกำลังเผชิญปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ซึ่งส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตและสุขอนามัยของประชาชน ซึ่งหนึ่งในสาเหตุสำคัญ มาจากควันดำจากท่อไอเสียของรถยนต์ที่สัญจรไปมาบนท้องถนน กรมการขนส่งทางบกมิได้นิ่งนอนใจในปัญหาดังกล่าว

โดยกรมการขนส่งทางบกดำเนินการปรับปรุงมาตรฐานการตรวจวัดค่าควันดำจากท่อไอเสียของรถตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบกและกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ ให้สอดคล้องตามเกณฑ์มาตรฐานค่าควันดำและวิธีการตรวจวัดที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมกำหนด การปรับปรุงมาตรฐานการตรวจวัดค่าควันดำมีสาระสำคัญดังนี้

1. การตรวจวัดควันดำด้วยเครื่องวัดควันดำระบบวัดความทึบแสง ขณะเครื่องยนต์ไม่มีภาระ ค่าควันดำสูงสุดไม่เกินร้อยละ 30 (เดิม ร้อยละ 45)

2. การตรวจวัดควันดำด้วยเครื่องวัดควันดำระบบกระดาษกรอง ขณะเครื่องยนต์ไม่มีภาระ ค่าควันดำสูงสุดไม่เกินร้อยละ 40 (เดิม ร้อยละ 50)

ซึ่งเกณฑ์การตรวจควันดำใหม่ ได้มีผลบังคับใช้กับการตรวจวัดควันดำรถที่มาดำเนินการตรวจสภาพรถก่อนจดทะเบียน หรือตรวจสภาพรถก่อนชำระภาษีประจำปีที่สำนักงานขนส่ง และสถานตรวจสภาพรถเอกชน (ตรอ.) ทุกแห่งแล้ว

ทั้งนี้กรมการขนส่งทางบกจัดผู้ตรวจการออกตรวจวัดควันดำจากท่อไอเสียของรถบรรทุกและรถโดยสาร ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล รวมถึงการตรวจวัดควันดำบนถนนสายหลักและสายรองทั่วประเทศ พร้อมทั้งติดตามการปฏิบัติหน้าที่และการบังคับใช้กฎหมายของผู้ตรวจการในการออกตรวจวัดควันดำอย่างต่อเนื่อง โดยผลการตรวจสอบวัดควันดำในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ระหว่างวันที่ 1 ต.ค. 65 – 13 มี.ค. 66 กองตรวจการขนส่งทางบกได้ตรวจรถบรรทุกและรถโดยสารทั้งหมด จำนวน 55,216 คัน

โดยมีรถบรรทุกและรถโดยสารที่มีค่าควันดำที่เกินกว่ากฎหมายกำหนดและถูกสั่งห้ามใช้รถด้วยการพ่นข้อความ “ห้ามใช้” จำนวน 274 คัน และผลการตรวจสอบวัดควันดำทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 1 ต.ค. 65 – 13 มี.ค. 66 สำนักงานขนส่งแต่ละจังหวัดได้จัดเจ้าหน้าที่ออกตรวจควันดำ โดยได้มีการตรวจรถบรรทุกและรถโดยสาร จำนวน 115,699 คัน และมีรถบรรทุกและรถโดยสารที่มีค่าควันดำที่เกินกว่ากฎหมายกำหนดและถูกสั่งห้ามใช้รถด้วยการพ่นข้อความ “ห้ามใช้” จำนวน 865 คัน

กรมการขนส่งทางบกแนะให้เจ้าของรถตรวจเช็กและดูแลรักษารถยนต์เบื้องต้น ดังนี้

1. ให้ทำความสะอาด หรือเปลี่ยนกรองอากาศใหม่

2. เปลี่ยนกรองน้ำมันเชื้อเพลิงตามระยะเวลา 3. เปลี่ยนน้ำมันเครื่องและกรองน้ำมันเครื่องตามระยะเวลา

4. ปรับตั้งปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิงตั้งจังหวะการฉีดเชื้อเพลิงให้ถูกต้อง

5. ตรวจเช็กและปรับตั้งหัวฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงให้เป็นละออง และมีแรงดัน เป็นต้น

เตือนหากตรวจวัดควันดำด้วยระบบวัดความทึบแสง แล้วมีค่าควันดำเกินร้อยละ 30 หรือตรวจวัดควันดำด้วยระบบกระดาษกรอง แล้วมีค่าควันดำ เกินร้อยละ 40 จะถูกเปรียบเทียบปรับสูงสุด 5,000 บาท และสั่งห้ามใช้รถด้วยการพ่นข้อความ “ห้ามใช้” จนกว่าเจ้าของรถจะนำรถไปแก้ไขสภาพเครื่องยนต์ไม่ให้มีค่าควันดำเกินกำหนด และนำมาตรวจสภาพอีกครั้งจนผ่านการตรวจวัดจึงจะนำไปใช้งานได้


COMMENTS

{{ errors.name }}

{{ errors.value }}

{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}

RELATED TOPICS

Please wait a moment